เผชิญสืบ หมอเผ่า ย้ายรพ. ตรวจใหม่ให้กระจ่าง

ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อพิจารณา กรณีที่ญาตินำตัว นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ อาจารย์และผู้บริหารสถาบันกวดวิชาชื่อดัง แอพพลายด์ฟิสิกส์ เข้ารักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมกับออกหมายเรียกตัว นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ผอ.รพ.ศรีธัญญา และ นพ.ประกิตเผ่าไปเบิกความนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (2 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ศาลนัดไต่สวนคำร้อง ในคดีที่ พ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ รพ.ศรีธัญญา ปล่อยตัว นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ตามคำร้องทุกข์ของ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตลูกศิษย์ใกล้ชิด และเพื่อนสาวคนสนิทของ นพ.ประกิตเผ่า

ขอให้ศาลยกคำร้องขอปล่อยตัวดังกล่าว โดยอ้างว่ามีความจำเป็นต้องรักษาตัว นพ.ประกิตเผ่าในโรงพยาบาล ทั้งนี้ ทางฝ่ายผู้ร้องขอให้ศาลปล่อยตัว อ้างตนเองเป็นพยานกับ น.ส.เปมิกา รวม 2 ปาก ส่วนฝ่ายผู้คัดค้าน มี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ผู้อำนวยการ รพ.ศรีธัญญา นพ.ไพฑูรย์ สมุทรสินธุ์ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.ศรีธัญญา แพทย์ผู้รักษาอาการกับนางอลิสา ภรรยา เป็นพยาน

ก่อนการพิจารณา รศ.เพลินจิต ทมทิตชงค์ แม่นพ.ประกิตเผ่า เดินจูงมือนางอลิสา ลูกสะใภ้ ไปที่ศาล โดยมีนายชูชาติ ศิลปรัตน์ ทนายความ ร่วมเดินทางไปด้วย รศ.เพลินจิตกล่าวว่า ได้พบกับลูกชายแล้ว เห็นว่าเขาไม่สบาย จึงมาศาลไม่ได้และเชื่อแพทย์ วันนี้เป็นเรื่องของผู้คัดค้านจะเบิกความ ตนจึงมาสังเกตการณ์

เห็นว่าเขาเป็นคนเริ่มต้นเรื่องนี้ทุกอย่าง ดังนั้น จะอยู่เฉยไม่ได้ แต่จะดำเนินคดีอย่างไร ขอให้ทนายความจัดการ เพราะเรื่องนี้เราเป็นฝ่ายเสียหาย และขอยืนยันว่าลูกชายไม่ปกติ ตนเป็นรองศาสตราจารย์ระดับ 9 เลี้ยงลูกมา 37-38 ปี รู้ดีกว่าใครๆว่าเขาป่วยหรือไม่ป่วย ใครจะมารู้ดีกว่าตน

ด้าน น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต เดินทางไปพร้อมกับ พ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น พงส.(สบ 3) สน.บางซื่อโดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 ร่วมขบวนไปด้วย น.ส.เปมิกาเปิดเผยว่า อยากให้ทุกฝ่ายรอฟังการสืบพยานชั้นไต่สวนของศาล เพื่อจะได้ทราบความจริง โดยเฉพาะจากปากของ นพ.ประกิตเผ่า

ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 กล่าวว่า เดินทางมาดูแลความเรียบร้อย ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ท.ฐิติเดช ไม่ต้องการให้มีการกระทบกระทั่ง ระหว่างลูกน้องกับฝ่ายญาติและโรงพยาบาล

สำหรับการพิจารณาคำร้อง มีขึ้นที่ห้อง 601 ชั้น 6 อาคารศาลอาญา โดยนายวิชัย ช้างหัวหน้า รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกนั่งบัลลังก์ พร้อมทั้งออกข้อกำหนด มิให้สื่อมวลชนลงข้อความใดๆ นอกเหนือไปจากคำให้การตามที่ศาลบันทึก และตามกระบวนพิจารณา กับห้ามแทรกความคิดเห็นลงในการเสนอข่าว จากนั้นได้เริ่มต้นกระบวนพิจารณา

คดีนี้ ผู้ร้องมีคำแถลงเพิ่มเติม 1 ฉบับ ขณะที่ฝ่ายผู้คัดค้านทำคำร้องคัดค้าน 1 ฉบับ ศาลเห็นว่า การร้องขอปล่อยตัวบุคคลถูกควบคุมขังไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องกับผู้ที่ควบคุม กฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้มีการคัดค้าน ดังนั้นศาลจึงมีคำสั่งยกคำร้องของผู้คัดค้าน

จากนั้นสอบถาม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ผอ.รพ. ศรีธัญญา ถึงสาเหตุที่ไม่นำตัว นพ.ประกิตเผ่ามาศาล ตามที่ศาลมีหมายเรียก ผอ.รพ.ศรีธัญญา เบิกความว่าเพื่อประโยชน์ในการรักษาตัว และได้มีหนังสือแจ้งมายังศาลแล้ว ขณะที่ นพ.ไพฑูรย์ สมุทรสินธุ์ แพทย์เจ้าของไข้ ได้แถลงถึงวิธีการรักษาอย่างกว้างๆ

ในเมื่อไม่สามารถนำตัว นพ.ประกิตเผ่า มาเบิกความได้ เพื่อความกระจ่าง จำเป็นต้องเดินเผชิญสืบ โดยขอดูธรรมชาติในการให้การรักษา จากนั้นมอบหมายให้เลขานุการศาล ผู้อำนวยการศาลอาญา และเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ เป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ไปเดินเผชิญสืบ

ส่วน น.ส.เปมิกากล่าวว่า ทำไปด้วยความถูกต้อง ไม่ว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมาว่า นายแพทย์ประกิตเผ่า ป่วยจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ตนได้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของนายแพทย์ประกิตเผ่า เพราะขณะที่อยู่กับพวกเราในกลุ่มเพื่อน ไปทำบุญ อยู่ด้วยกันในสังคมทั่วไป คุณหมอไม่มีอาการเหล่านี้ คุณหมอมีความสุขมากๆ อันนี้เป็นคำถามที่ยังข้องใจอยู่ว่า ทำไมอาการหวาดระแวงถึงเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อคุณหมออยู่กับครอบครัว แต่ไม่เกิดเมื่อเวลาอยู่กับเพื่อนคนอื่น

โดยอยากให้ นพ.ประกิตเผ่ามาเบิกความ โดยตนก็อยากจะพบและฟังคุณหมอพูดด้วยตนเอง เพราะรอความยุติธรรมอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความสนิทสนมกับ นพ.ประกิตเผ่าแค่ไหน

น.ส.เปมิกาตอบว่า ชื่อของตนคือเปมิกา คุณหมอก็เป็นคนตั้งให้ ส่วนที่มีข่าวว่า ตนโทรศัพท์ไปข่มขู่ฝ่ายครอบครัวของคุณหมอประกิตเผ่า ขอยืนยันว่าไม่เคยกระทำเช่นนั้น

จากนั้นเวลา 10.15 น. คณะผู้เดินเผชิญสืบ นำโดย นายวิชัย ช้างหัวหน้า รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมด้วยนายธันว์ บุญณตุลานนท์ เลขานุการศาลอาญา และเจ้าหน้าที่ศาลอาญา ได้เดินทางไปที่ รพ.ศรีธัญญา โดยมี พ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น พนักงานสอบสวน ผู้ยื่นคำร้องไต่สวน รวมทั้งฝ่ายคณะแพทย์ของ รพ.ศรีธัญญาที่ไปให้ปากคำต่อศาล เดินทางไปพร้อมกัน ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ติดตามไปเป็นจำนวนมาก

เมื่อไปถึงองค์คณะเผชิญสืบได้มุ่งหน้าไปที่ห้องประกายสุข (พิเศษ) ที่ นพ.ประกิตเผ่านอนรักษาตัว บนอาคารประกายสุข สูง 2 ชั้น ซึ่งระเบียงหน้าต่างชั้น 2 ตลอดทั้งตึกติดเหล็กดัดแน่นหนา นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลหลายคน คณะเดินเผชิญสืบยืนสังเกตการณ์อยู่หน้าห้องผู้ป่วย ก่อนจะเข้าไปภายในห้อง เพื่อดูอาการของ นพ.ประกิตเผ่าอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูสภาพแวดล้อมในการรักษานานประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในอาคาร เสร็จแล้วขึ้นรถกลับไปทันที

ด้าน นพ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า กรมสุขภาพจิตไม่ติดใจในการทำงานของ รพ. ศรีธัญญา เพราะที่ผ่านมามีการตรวจสอบถึงความโปร่งใสในการปฏิบัติต่อคนไข้ตลอดเวลา ไม่ใช่แดนสนธยาอย่างที่บุคคลภายนอกเข้าใจ ทั้งนี้ การที่ไม่นำตัวคนไข้ไปเบิกความ และไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวคนไข้ จนทำให้สังคมมองว่ามีพิรุธนั้น เนื่องจากเป็นการปกป้องตัวผู้ป่วย

ได้เชิญจิตแพทย์จากหน่วยงานกลางหลายแห่งมาตรวจรักษา ความเห็นของแพทย์ แต่ละแห่ง ก็มีความสอดคล้องกัน ว่า นพ.ประกิตเผ่ามีอาการทางจิต แต่ที่ไม่ได้มีการแถลงข่าว เพราะไม่ต้องการตอกย้ำผู้ป่วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะที่แพทย์ตรวจอาการนพ.ประกิตเผ่า ผู้ป่วยได้ร้องขอกลับบ้านหรือไม่

อธิบดีกรมสุขภาพจิตตอบว่า เป็นธรรมดาของผู้ที่มีอาการป่วย ที่จะร้องขอกลับบ้านทุกคน แต่แพทย์ก็ได้ปลอบเกลี้ยกล่อมให้อยู่ในสภาพที่ยอมรักษาตัวต่อไป

ด้าน น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต พร้อมด้วยพ่อและแม่ ซึ่งเดินทางไปที่ รพ.ศรีธัญญาด้วย กล่าวว่า ที่ทำไปเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งถูกต้อง ที่ผ่านมา นพ.ประกิตเผ่าพูดคุยกับตนเป็นปกติ ไม่มีทีท่าจะป่วยแต่อย่างใด ที่ช่วยครั้งนี้ก็เพราะอยากให้หมอมีอิสรภาพ ไม่ใช่ถูกจับขังอยู่อย่างนี้ หากเป็นคนอื่นที่รู้จักหรือเพื่อนคนอื่นก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเช่นเดียวกัน เพราะเห็นว่าทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม

เพราะพ่อแม่คอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว นอกจากนี้ หากมีโทรศัพท์ เบอร์แปลกมาก็ไม่รับ เพราะเกรงว่าจะถูกคุกคาม และอยากจะฝากบอกครอบครัวของ นพ.ประกิตเผ่าด้วยว่ารู้สึกเสียใจมาก ที่ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนเช่นนั้น พูดจาเหมือนตนไม่มีพ่อแม่ ไม่ให้เกียรติกันเลย

ส่วนพ่อของ น.ส.เปมิกากล่าวว่า มาให้กำลังใจลูกสาว เชื่อว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่มีใครว่า ทำด้วยความกตัญญูกับผู้มีพระคุณ เพราะ นพ.ประกิตเผ่าช่วยสอนช่วยติววิชาให้ลูก จนได้เรียนที่จุฬาฯ ถือว่ามีพระคุณ และตนก็เห็นว่าหมอปกติดี

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ