กลุ่มครูผู้ช่วยแห่ร้อง"เสมา 1-นายกฯ"ยกเลิกการสอบเฉพาะรายที่พบทุจริต
จากกรณีผลการตรวจสอบเบื้องต้นของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
พบหลักฐานว่ามีการทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ในครั้งที่ผ่านมา โดยมีความชัดเจนว่ามีข้อสอบรั่วไหลจำนวน 33 ชุด แบ่งเป็นชุดที่ 1 ความรู้ทั่วไป ชุดที่ 2 ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง 30 วิชาเอก ชุดที่ 3 ความถนัดและเจตคติต่อวิชาชีพครู และชุดที่ 4 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฏิบัติของวิชาชีพครู โดยส่อว่ามีผู้บริหารในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 3 ราย เกี่ยวข้องกับปัญหาข้อสอบรั่ว ซึ่งผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนักคนหนึ่งเกี่ยวข้องโดยตรง และมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.อีก 2 ราย อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และบกพร่องในการบริหารงาน โดยล่าสุดนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ระบุว่าข้อสอบรั่วจากส่วนกลาง ทั้งยืนยันว่าการสอบบรรจุครูผู้ช่วยครั้งนี้โกงล้านเปอร์เซ็นต์นั้น
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า
กรณีผลการสอบสวนเบื้องต้นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นประธาน เสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่าน่าจะมีการรั่วไหลของข้อสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย จำนวน 33 ชุด จากส่วนกลางนั้น สพฐ.ยังยืนยันว่าข้อสอบไม่น่าจะรั่วไหลออกไป และถ้าใครมีข้อมูลต้องส่งไปให้ดีเอสไอเพื่อดำเนินการได้เต็มที่ ส่วนที่พบปัญหาการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ที่สำนักงานเขตพื้่นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ยโสธร เขต 1 และ สพป.อุดรธานี เขต 3 นั้น สพฐ.ได้รับรายงานจากทั้ง 2 เขตพื้นที่ฯแล้ว ซึ่งการดำเนินการมีระเบียบและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้วว่ากรณีที่พบเหตุเกี่ยวกับการทุจริต เป็นอำนาจหน้าที่ของเขตพื้นที่ฯจะต้องนำเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯนั้นๆ ให้ดำเนินการต่อไป สพฐ.ไม่ได้สั่งห้ามไม่ให้เขตพื้นที่ฯแจ้งความเอาผิดกับผู้ทุจริต หรือให้ปกปิดเรื่องนี้ไว้
ครูผช.แห่ร้องปูช่วยด้วย ผวาโละสอบ สพฐ.ลุยบรรจุรอบใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผลสอบเบื้องต้นของ ศธ.ระบุว่ามีข้อสอบรั่ว 33 ชุดจากส่วนกลาง
โดยเชื่อมโยงไปถึงผู้อำนวยการสำนักๆ หนึ่งของ สพฐ. และผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.อีก 2 คน ซึ่งอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น นายชินภัทรกล่าวว่า เรื่องการกล่าวหาต้องให้ชัดเจน จะกล่าวหาลอยๆ ไม่ได้ สพฐ.มีข้อมูลรายงานจากสำนักพิมพ์เกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนอย่างละเอียดในการพิมพ์ รวมทั้งขั้นตอนของการจัดส่งของไปรษณีย์ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งข้อมูลต่างๆ ไปให้ดีเอสไอทั้งหมดแล้ว
นายชินภัทรกล่าวต่อว่า ส่วนข้อห่วงใยของผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกมาโดยสุจริต
เกรงว่าจะมีการยกเลิกการสอบคัดเลือกทั้งหมดนั้น อำนาจหน้าที่การวินิจฉัยและตัดสินใจยกเลิกหรือไม่ยกเลิกผลการสอบครูผู้ช่วยครั้งที่ผ่านมา เป็นของที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไม่ใช่อำนาจและหน้าที่ของ สพฐ.ที่จะให้คำตอบว่า จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก
"สำหรับการสอบแข่งขันบรรจุครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ประจำปีการศึกษา 2556 จากการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.มีแนวโน้มว่า จะยังเดินหน้าต่อไป เพื่อกำหนดระยะเวลาการสอบแข่งขัน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชน เพราะหากเลื่อนออกไปนานจนกระทั่งถึงช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จะมีผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชนได้ เพราะจะมีครูเอกชนจำนวนมากมาสมัคร
สอบเพื่อเข้ารับราชการ และเมื่อสอบได้ก็ต้องลาออก จะทำให้โรงเรียนเอกชนมีปัญหาขาดแคลนครูระหว่างกลางปีการศึกษาได้
ฉะนั้น เรื่องนี้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เห็นว่าเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของโรงเรียนเอกชน การสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยกรณีทั่วไปควรเดินหน้าต่อไปตามปฏิทินเดิมของแต่ละปี หรืออาจให้ใกล้เคียงกัน ซึ่งควรเป็นช่วงก่อนเปิดภาคเรียน หรือเปิดภาคเรียนไม่นานนัก ส่วนหลักเกณฑ์การคัดเลือกไม่น่าจะปรับเปลี่ยนมากนัก แต่อาจปรับรูปแบบการดำเนินการ อย่างการออกข้อสอบอาจให้สถาบันอุดมศึกษาเป็นผู้ดำเนินการให้" นายชินภัทรกล่าว
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวว่า หลังจากดีเอสไอสรุปผลการสอบสวนในเร็วๆ นี้
จะนำผลสอบดังกล่าวมาประกอบการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เชื่อว่าผลสอบดีเอสไอและผลสอบของคณะกรรมการชุดอื่นๆ ใน ศธ. น่าจะบ่งบอกได้ว่ามีการทุจริตในการจัดสอบครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ และการทุจริตครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง โดยผู้เข้าสอบรายใดที่คะแนนสูงผิดปกติก็ส่อว่าอาจทุจริตสอบ ซึ่งการสอบสวนครั้งนี้จะใช้ผลคะแนนของผู้ที่สอบได้คะแนนสูงผิดปกติเป็นตัวตั้งต้นสอบหาข้อเท็จจริง เขตพื้นที่ใดที่มีผู้สอบได้คะแนนสูงผิดปกติจะต้องถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เช่น บางเขตพื้นที่มีคนได้คะแนนเต็มทั้ง 3 วิชา อีกวิชาหนึ่งขาดอีก 2 คะแนน จะได้คะแนนเต็ม กรณีแบบนี้ต้องไปดูว่าที่ทำคะแนนได้สูงนั้น เป็นปกติหรือไม่ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ สพฐ.ไปแยกแยะคะแนนในแต่ละเขตพื้นที่มา แต่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถแยกแยะได้ว่าใครทำคะแนนได้เอง หรือใครที่ทำคะแนนได้โดยผิดปกติหรือไม่
"ถ้าพบว่าเขตพื้นที่ที่มีคะแนนสูงผิดปกติ และผู้ที่มีรายชื่อสอบผ่านการคัดเลือกในเขตพื้นที่นั้นได้คะแนนสูงผิดปกติทุกคน และมีข้อมูลอื่นๆ สนับสนุนว่าทุจริต เขตพื้นที่นั้นอาจอยู่ในข่ายที่จะต้องประกาศยกเลิกการสอบ แต่ถ้าคะแนนคละกันไประหว่างคนที่สอบได้เอง กับคนที่สอบได้แบบผิดปกติ กรณีนี้น่าจะใช้แนวทางเดียวกับ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 คือไม่เรียกบรรจุคนที่มีปัญหา แต่ข้ามไปเรียกคนในอันดับถัดไปและไม่มีปัญหามาบรรจุแทน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผู้ที่สอบได้เองเสียโอกาส ซึ่งก่อนจะดำเนินการตามนั้นได้จะต้องแยกแยะให้ได้ก่อนว่า ใครที่สอบได้เอง หรือใครสอบได้โดยผิดปกติ ซึ่งต้องรอดูว่า สพฐ.จะแยกแยะได้หรือไม่" นายพงศ์เทพกล่าว และว่า สำหรับการประชุม ก.ค.ศ.ซึ่งเดิมกำหนดไว้วันที่ 13 มีนาคมนี้ และนายเสริมศักดิ์ขอให้เลื่อนการประชุมเพื่อรอผลสอบของดีเอสไอนั้น เห็นด้วยกับการเลื่อนการประชุมออกไป เพราะไม่น่าจะส่งผลกระทบ
นายอภิชัย กรมเมือง ผู้อำนวยการ สพป.ยโสธร เขต 1 กล่าวว่า สพป.ยโสธร เขต 1 จัดสอบครูผู้ช่วยตามที่ สพฐ.มอบหมายเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
โดยใช้สนามสอบของโรงเรียนบ้านสำราญ อ.เมืองยโสธร โดยมีผู้เข้าสอบทั้งสิ้น 62 คน ซึ่งพอถึงช่วงการสอบวิชาสุดท้ายในภาคบ่าย ได้รับแจ้งว่าผู้เข้าสอบรายหนึ่งมีพิรุธ คือทำข้อสอบเสร็จเร็วกว่าปกติ จึงส่งกรรมการควบคุมห้องสอบเข้าตรวจค้น พบหลักฐานเป็นยางลบดินสอรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า 1 ก้อน มีตัวเลขและตัวอักษร ก ข ค ง เต็มไปหมดทุกด้าน จึงยึดมาไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้จะเป็นตัวเฉลยข้อสอบหรือไม่ จากนั้นทางกรรมการผู้ควบคุมห้องสอบได้เชิญให้ผู้เข้าสอบรายนี้ออกจากห้องสอบไป และทราบภายหลังว่าผู้เข้าสอบรายนี้มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดมาสมัครสอบ ทั้งนี้ หลังจากนั้นทาง สพฐ.มีการประกาศผลการสอบ และทาง สพป.ยโสธร เขต 1 ก็ได้เรียกบรรจุผู้ที่สอบได้จำนวน 2 ราย ตามอัตรากำลังที่ สพฐ.จัดสรรมาให้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ได้ทำรายงานชี้แจงไปยัง สพฐ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ศธ.ได้ส่งเอกสารและข้อมูลเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยมายังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แล้ว โดยมีสำเนาหนังสือของ สพป.อุดรธานี เขต 3 สำเนาบันทึกถ้อยคำ สำเนากระดาษรหัสตัวเลข และสำเนารูปภาพโทรศัพท์มือถือ
วันเดียวกัน นายชัชวาล คำแพงราช ตัวแทนจาก สพป.นนทบุรี พร้อมคณะครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ ว 12 จำนวนกว่า 30 คน
ได้เดินทางไปที่ ศธ. ยื่นหนังสือถึงนายพงศ์เทพ และที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีเกิดการทุจริตการสอบบรรจุครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ว 12 ที่จัดสอบไปเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมาดังกล่าว โดยนายชัชวาลกล่าวว่า คณะครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ว 12 จากเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ที่เพิ่งสอบบรรจุได้ รู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทำให้บางคนขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน เพราะอาจนำไปสู่การยกเลิกการสอบทั้งหมด จึงอยากให้พิจารณายกเลิกเป็นรายบุคคล หากตรวจสอบพบว่าใครทุจริตก็ให้ยกเลิก ไม่ใช่ยกเลิกทั้งหมด เนื่องจากคนที่สอบเข้ามาได้โดยสุจริตได้ลาออกจากพนักงานราชการและครูอัตราจ้างก่อนบรรจุเป็นครูผู้ช่วยแล้ว ดังนั้น หากยกเลิกทั้งหมดกลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่ไม่ได้ทุจริต จึงขอให้รัฐบาลให้ความเป็นธรรมด้วย