ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องตำรวจห้วยขวาง พยายามฆ่าโชเฟอร์แท็กซี่
ที่ห้องพิจารณาคดี 612 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10. 00 น. วันนี้ (8 มี.ค.) ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.850/2554 คดีแดง อ.220/55 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.เจษฎา เจตภรณ์ อายุ 30 ปี อดีตรอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490
คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 54 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.53 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืนกล็อก ออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. และกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.แล้วใช้ยิง นายมณเฑียร จิตตระกูล อายุ 46 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผล เหตุเกิดที่ ซ.จำเนียรเสริม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่า ขณะเกิดเหตุเข้าเวรอยู่ที่ สน.ห้วยขวาง ส่วนที่ไม่ส่งมอบปืนให้แก่พนักงานสอบสวนเนื่องจากไม่มั่นใจในกระบวนการสอบสวนของตำรวจ
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 ม.ค.55 เห็นว่า โจทก์มี นายมณเฑียร ผู้เสียหาย เป็นประจักษ์พยานเบิกความว่า ขณะขับรถสวนกับรถตู้ของจำเลย พบจำเลยอยู่ในสภาพหน้าแดงคล้ายคนเมาสุรา จอดรถขวางอยู่กลางซอย จำเลยตะโกนถามว่า “จะถอยหรือไม่” พร้อมชักปืนขู่แล้วขู่ว่า “จะเอาไหม ๆ” แล้วยิงปืนข่มขู่ เห็นว่าผู้เสียหายสามารถจดจำใบหน้าของจำเลยได้ และชี้ตัวจำเลยโดยไม่ลังเล ข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุก 10 ปี จำเลยยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดรอบคอบแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังมีพิรุธน่าสงสัยว่า ผู้เสียหายจะมีโอกาสจดจำใบหน้าจำเลยได้จริงหรือไม่ และสภาพแสงสว่างในที่เกิดเหตุสามารถมองเห็นใบหน้าของจำเลยได้ชัดเจนยิงหรือไม่ ทั้งผู้เสียหายยังมีโอกาสได้เห็นภาพของจำเลยก่อนที่มีการชี้ตัวยืนยัน นอกจากนี้อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถตรวจยึดมาได้ อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ พิพากษากลับยกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง ร.ต.อ.เจษฎา ที่ถูกพนักงานอัยการคดีอาญา 3 ยื่นฟ้องเป็นคดีดำ อ. 841/54 กล่าวหาว่า ใช้อาวุธปืนยิง นาวาเอก.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ นายทหารสังกัดกรมกำลังพล พระราชวังเดิม กองทัพเรือ เสียชีวิตคารถยนต์ปิกอัพ ในท้องที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.53 เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่ชัดเจนเพียงพอ แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์. .