นักท่องเที่ยวสาวดัตช์ถูกข่มขืนเกาะพีพี ไม่แน่ใจถูกละเมิดขอถอนแจ้งความ ร.พ.ไม่พบเชื้ออสุจิ
นักท่องเที่ยวสาวดัตช์ถูกข่มขืนเกาะพีพี ไม่แน่ใจถูกละเมิดขอถอนแจ้งความ ร.พ.ไม่พบเชื้ออสุจิ จากกรณีแหม่มสาววัย 25 ปี นักท่องเที่ยวชาวเนเธอร์แลนด์ เข้าแจ้งความที่สภ.ย่อยเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ถูกข่มขืนที่ริมชายหาดภายในเกาะพีพี ขณะที่เมาไม่ได้สติ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจร่างกายและหาร่องรอยการข่มขืน โดยนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว ให้การว่า ตนพร้อมด้วยเพื่อนสาวอีกคน เดินทางมาเที่ยวที่เกาะพีพี เมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีกำหนดกลับประเทศ วันที่ 9 มี.ค. โดยเมื่อมาถึงได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเกาะพีพี จากนั้นได้แยกกับเพื่อนไปดื่มกินตามลำพังที่บาร์ริมชายหาด จนเมาไม่ได้สติ มารู้ตัวอีกครั้งว่านอนอยู่บนชายหาด และกำลังมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังร่วมเพศอยู่ ก็ได้โวยวายชายที่กำลังข่มขืนอยู่จึงได้รีบวิ่งหนีไป ตนจึงเดินทางกลับที่พักแล้วมาแจ้งความเพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งความก็ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นพดล มุกดา พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.เมืองกระบี่ เป็นหัวหน้าชุดลงไปคลี่คลายคดีคนร้ายข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวเนเธอร์แลนด์ ที่หมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พร้อมรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบตามลำดับ และได้นำผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกระบี่ พร้อมนำผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุที่เกาะพีพี ซึ่งผลของการตรวจร่างกายในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลกระบี่ ได้ยืนยันว่าไม่พบร่องรอยของการถูกข่มขืน หรือคราบอสุจิแต่อย่างใด ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยว่า จากการนำผู้เสียหายชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย แต่พบว่าผู้เสียหายเริ่มให้การวกวนกลับไปกลับมา บอกเพียงอย่างเดียวว่าจำอะไรไม่ได้ และในที่สุดไม่ยืนยันด้วยว่าถูกคนร้ายข่มขืนจริงหรือไม่ ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มแกะรอยคนร้ายยากขึ้น และสุดท้ายสาวเนเธอร์แลนด์ก็บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอถอนแจ้งความเพราะไม่แน่ใจว่าถูกข่มขืนจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความก็เป็นความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับแจ้งความและดำเนินไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย และเมื่อผู้เสียหายจะขอถอนแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดีจะให้ถอน และเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในจังหวัดกระบี่ เมื่อทางเจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กลับขอถอนแจ้งความ