เภสัชกรช็อก!! เก๋งหายจากห้างดัง ตร.ตามรวบสาวเพี้ยนสั่งยกรถ ฉกป้ายทะเบียน-อ้างดื้อๆเป็นเจ้าของ
เภสัชกรช็อก!! เก๋งหายจากห้างดัง ตร.ตามรวบสาวเพี้ยนสั่งยกรถ ฉกป้ายทะเบียน-อ้างดื้อๆเป็นเจ้าของ เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ต.โกวิทย์ สวัสดิมงคล สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.ฐิติญา พรหมเผ่า อายุ 26 ปี เภสัชกรหญิงและเจ้าของร้านขายยาในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาเหนือ ว่ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กง 2879 พะเยา ที่จอดไว้หลังห้างฯ ถูกโจรกรรมหายไป หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.เสกศักดิ์ อาทรกิจวัฒน์ รอง สวป. นำกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ฐิติญา และเพื่อนสาว ยืนรอตำรวจอยู่ พร้อมกับให้การว่า ปกติจะมาดูแลร้านและจอดรถไว้บริเวณหลังห้างสรรพสินค้าดังกล่าวอยู่เป็นประจำ โดยหลังปิดร้านจึงเดินกลับมาบริเวณที่จอดรถเพื่อกลับบ้าน แต่ปรากฏว่ารถได้อันตรธานหายไป เมื่อสอบถามคนในละแวกนั้นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีรถยกมายกไป จึงแจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว หลังทราบข้อมูลรถ เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุติดต่อไปยังคอกเก็บรถของเอกชนต่างๆ ทั้งในพื้นที่และใกล้เคียง เพื่อสอบถามว่ามีคอกใดยกไปหรือไม่ กระทั่งคอกเก็บรถแห่งหนึ่งของ สภ.บางละมุง แจ้งเข้ามาว่าได้ยกรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่หน้า ‘บูมเฮ้าส์’ อพาร์ตเม้นต์ ซึ่งนายอนุรักษ์ หินทุม อายุ 30 ปี คนขับรถยก ให้การว่า ได้มีหญิงชาวไทยคนหนึ่งที่พักอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ดังกล่าว ว่าจ้างในราคา 1,000 บาท ให้ยกรถมาจอดไว้ โดยอ้างว่ารถเสียสตาร์ตไม่ติด ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบที่บูมเฮ้าส์ พบรถยนต์เก๋งของ น.ส.ฐิติญา จอดอยู่ด้านหน้าในสภาพป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลังถูกถอดออก และทราบว่าหญิงต้องสงสัย พักอยู่ที่ห้อง 301 บนชั้น 3 ของอพาร์ตเม้นต์ จึงทำทีให้ผู้ดูแลอพาร์ตเม้นต์ขึ้นไปเคาะประตูเรียก แต่แทนที่จะได้ยินเสียงตอบรับ กลับมีเสียงสวดมนต์ดังเล็ดลอดออกมา และไม่มีทีท่าว่าคนในห้องจะมาเปิดประตูให้ ตำรวจจึงตัดสินใจถีบประตูเข้าไป พบหญิงไทยทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.กนกวรรณ ยงค์พันธ์ อายุ 33 ปี อยู่หมู่ 9 ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ตรวจค้นภายในห้องพักพบป้ายทะเบียนรถเก๋งทั้ง 2 แผ่น ซึ่งเป็นของ น.ส.ฐิติญา วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามเบื้องต้น เจ้าตัวยังให้การวกไปวนมาคล้ายคนสติไม่สมประกอบ แต่ยังพอจับใจความได้ว่า ตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร และรถก็เป็นของตัวเอง ซ้ำยังต่อว่าตำรวจที่ยึดกุญแจรถไป ด้านนางภารดี ศิริวัฒนกุล อายุ 50 ปี ผู้ดูแลอพาร์ตเม้นต์ ให้การว่า น.ส.กนกวรรณ ได้เช่าห้องพักอาศัยได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว ปกติสติไม่ค่อยจะดี มักมีอาการแปลกๆ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมารดาของ น.ส.กนกวรรณ เคยพาไปรักษาก็ไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องมีราวอะไรกับใคร
ส่วน พ.ต.ต.โกวิทย์ เปิดเผยว่า หลังสอบสวนเบื้องต้นจึงควบคุมตัว น.ส.กนกวรรณ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ก่อนสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ถ้าพบว่าสติไม่ดีจริงๆ ก็จะนำตัวส่งไปให้แพทย์ทำการรักษา แต่หากแกล้งบ้าหวังตบตาตำรวจจะถูกดำเนินคดีสถานหนักทันที