อ้างเป็นไฟแนนซ์ตามยึดเบนซ์กลางปั๊มน้ำมัน ส.ส.เพื่อไทยโดดเคลียร์ เจรจาต่อหน้าตร.

อ้างเป็นไฟแนนซ์ตามยึดเบนซ์กลางปั๊มน้ำมัน ส.ส.เพื่อไทยโดดเคลียร์ เจรจาต่อหน้าตร.

 เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย พงส.ผทค.สภ.โพธิ์แก้ว (พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ) ว่าเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธานินทร์ แสวงไวยสุข พงส.ผนพ.สภ.โพธิ์แก้ว (พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ)เวรสอบสวน ว่า ได้รับแจ้งจากตัวแทนจากบริษัท ราชธานี ลิชซิ่ง จำกัด (มหาชน)ว่าได้ทำการติดตามยึดรถยนต์เช่าซื้อยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น S 350 สีดำ หมายเลขทะเบียน สฬ 3882 กรุงเทพมหานคร ที่ขาดส่งค่างวดเป็นเวลากว่า 5 ปี ได้ที่บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 โดยขณะตรวจยึดมี นายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จ.ร้อยเอ็ด นั่งมาในรถคันดังกล่าวด้วย จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสมทบเนื่องจากนายเวียง ไม่ยินยอมให้ทำการยึดรถโดยอ้างเป็นผู้มีอำนาจในการครอบครองจากการรับจำนำมา จึงนำกำลังไปสมทบก่อนจะเชิญคู่กรณีพร้อมรถยนต์คันดังกล่าว มาที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม เพื่อรอเจรจา
                  
 พ.ต.ท.ธานินทร์ รายงานว่า จากการสอบสวนตัวแทนบริษัทไฟแนนซ์เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวมีชื่อของนายทองอยู่ คมขำ อายุประมาณ 45 ปี เป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อกับทางบริษัทตั้งแต่ปี 2551 โดยตกลงผ่อนชำระค่างวด งวดละ 198,396 บาท เป็นเวลา 36 งวด หลังจากนั้นนายทองอยู่ชำระค่างวดเพียง 7 งวด แล้วก็ไม่ส่งอีกเลย ทางบริษัทได้พยายามติดตามนายทองอยู่ก็ไม่เป็นผล และไม่สามารถติดตามรถยนต์คันดังกล่าวได้ จึงได้ยื่นฟ้องและได้ประนีประนอมกัน

โดยนายทองอยู่รับปากจะผ่อนชำระเงินคืนให้เป็นรายงวด แต่ก็ไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้จนเวลาล่วงเลยไปหลายปี ทางบริษัทก็ได้พยายามออกติดตามหารถยนต์คันดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ผู้แทนของบริษัทฯ พบรถยนต์คันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 พื้นที่ จ.นครปฐมโดยมี ส.ส.คนดังกล่าวอยู่ด้วย จึงเข้าทำการตรวจยึดจนมีการปะทะคารมกันและแจ้งตำรวจเชิญทั้งสองฝ่ายไปให้ทำการไกล่เกลี่ยดังกล่าวที่ สภ.ฯ

 ต่อมาเวลา 20.30 น. วันเดียวกัน นางเรือนแก้ว ศรีหาคิม ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบ พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย พงส.ผทค.สภ.โพธิ์แก้ว (พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ) สภ.โพธิ์แก้ว ในฐานะที่นางเรือนแก้วเป็นตัวแทนของนายทองอยู่ คมขำ ผู้เช่าซื้อรถซึ่งไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่ จ.ชลบุรี เพื่อเจรจากับทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทไฟแนนซ์ ดังกล่าว

โดยมีนายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายจำลอง ชื่นชม เจ้าของ บ.หล่ออลูเนียม อยู่ที่ ม. อิมเมทเพลส พุทธมณฑลสาย 4 จ.นครปฐม ร่วมเดินทางมาสังเกตการณ์ด้วย โดยทั้งหมดเข้าไปเจรจาในห้องนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าถ่ายภาพ กระทั่งเวลา 23.00 น. การเจรจาจึงเสร็จสิ้นลง

 นางเรือนแก้ว ศรีหาคิม อายุ 51 ปี  ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผยว่า รถยนต์คันดังกล่าวนายทองอยู่ ได้ประมูลมาในราคา 13 ล้านบาท และได้นำไปเข้าไฟแนนนซ์ในราคา 5 ล้านบาท โดยมีการผ่อนชำระไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งขณะเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านของนายจำลอง นายทองอยู่ ได้โทรศัพท์เข้าไปหาตนขอความช่วยเหลือ ว่ามีกลุ่มคน 6-7 คน อ้างว่าเป็นผู้แทนบริษัทไฟแนนซ์ ขับรถมาขวางและพยายามยึดรถนายทองอยู่ ที่มีนายสมศักดิ์ ไม่ทราบนามสกุล ขับออกไปทำกิจธุระ ตนจึงออกมาพร้อมกับนายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยเหลือและเจรจาดังกล่าว จากการเจรจาทางเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ไม่ยินยอม จะนำรถไปให้ได้ ตนและนายเวียงฯ ก็ไม่ยินยอมจึงได้ให้นำรถมาที่ สภ.โพธิ์แก้ว ก่อนเพื่อทำการเจรจา เพราะที่ผ่านมารถยนต์คันดังกล่าวมีการผ่อนจ่ายค่างวด งวดละกว่า 346,000 บาท  เพียงแต่มีการผ่อนส่งล่าช้าบ้างเป็นบางงวด และเหลือยอดค้างชำระเพียงกว่าล้านบาท

อีกทั้งการฟ้องร้องนั้นยังไม่ถึงวันนัดฟังคำพิพากษา ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ตนจึงคิดว่าบริษัทไฟแนนซ์ทำเกินไป อำนาจเอาเปรียบผู้บริโภค นางเรือนแก้ว กล่าวต่ออีกว่า ผลการเจรจาในครั้งนี้ ยังหาข้อยุติไม่ได้ คงต้องรอให้นายทองอยู่ ซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อนำเอกสารการผ่อนชำระและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาแสดงเสียก่อน

 ด้านนายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาว่าไฟแนนท์ตามมายึดรถยนต์เบนซ์คันหรูได้ ขณะที่ตนเป็นผู้ขับอยู่บนถนนพุทธมลฑลสาย 4 ตนไม่เคยขับรถยนต์มากว่า 20 ปี แล้ว เพราะไม่มั่นใจในตัวเองเพราะอายุ 62 ปี แล้ว ส่วนที่ตนต้องเข้าไปเกี่ยวข้องและมีภาพอยู่ในที่เกิดเหตุนั้นก็เพราะว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้มานั่งรับประทานข้าวอยู่ที่บ้านนายจำลอง ลูกศิษย์ของตน ในหมู่บ้านอิมเมจมอลล์ และมีโทรศัพท์เข้ามาหานางเรือนแก้ว ศรีหาคิม ซึ่งนั่งทานข้าวอยู่ด้วยกันกับตนและนายจำลอง ขอความช่วยเหลือ ในฐานะที่ตนเป็นคนของประชาชนเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ตนจึงได้ออกมาช่วยเหลือ แต่เมื่อถึงก็พบว่ารถยนต์ของผู้เสียหายซึ่งจอดอยู่ที่ปั๊ม ปตท. ถูกรถยนต์เก๋งของกลุ่มคนที่อ้างว่ามาจากบริษัทไฟแนนท์จอดขวางหน้า พร้อมทั้งมีรถยกมาเพื่อทำการยกรถคันดังกล่าว โดยอ้างว่ารถยนต์คันดังกล่าวขาดส่งค่างวดเป็นเวลาหลายปี เมื่อตนเข้าไปเจรจาและแสดงตนว่าเป็นส.ส. ขอให้มีการเจรจากันอย่างรอมชอม ไม่ให้เกิดเรื่องกันขึ้นพร้อมทั้งให้นำเอกสารหรือหมายศาลมาแสดง แต่ทางกลุ่มคนนั้นยังพูดจาก้าวร้าว และพยายามที่จะยึดรถคันดังกล่าวให้ได้ ตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง จึงได้ให้นำรถมาไว้ที่สภ.โพธิ์แก้วเพื่อทำการเจรจาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายเวียง กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์ของนายทองอยู่ คมขำ นายกสมาคมโลจิสติกส์ ซึ่งได้ประมูลต่อมาจากกษัตริย์มาเลย์ ที่นำมาใช้ในภารกิจเมืองไทย ในราคา 13 ล้าน จากราคาจริง 17 ล้าน และได้นำเข้าไฟแนนซ์ในราคา 5 ล้านบาทเท่านั้น ด้านทนายความตัวแทน บริษัทไฟแนนซ์ ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลและพยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้ข้อมูลในกรณีดังกล่าว