ที่ซอยประดิพัทธ์ 5 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม
ถึงเหตุคาร์บอมบ์ใน จ.ยะลา จนทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นายว่า การก่อเหตุในภาคใต้ยังคงต้องมีอยู่แน่นอน ตราบใดที่ยังมีคนเหล่านี้อยู่ ส่วนการลงนามเพื่อให้เกิดความร่วมมือ เป็นการเริ่มต้นระหว่างรัฐบาลไทยกับมาเลเซีย ในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนและการแก้ปัญหามีหลายขั้นตอน วันนี้เราค่อยๆ ก้าวมาตามลำดับ ทั้งนี้ ทุกคนรักห่วงประเทศชาติหมด แต่ต้องห่วงอย่างมีเหตุมีผลและตั้งสติให้ดี ซึ่งไม่ว่าจะลงนามหรือไม่ จะคุยหรือไม่ก็ตาม การต่อสู้ยังไม่จบสิ้น ทหาร ตำรวจ ทุกคนทำงานเต็มที่ แต่จะไม่ให้เกิดเหตุเลยมันยาก คิดว่าปัญหาไม่จบภายใน 1-2 วัน
ทั้งนี้ จากการข่าวพบว่ามีหลายพวก กลุ่มที่มาลงนามเป็นกลุ่มเก่า มีมานานแล้วหลายสิบปี ซึ่งเป็นระดับผู้ใหญ่ของเขา
แต่หลังจากนั้นแตกออกมาเป็นหลายกลุ่ม มีการแย่งชิงความเป็นใหญ่และเป็นแกนนำ แต่ทั้งหมดร่วมกันทางอุดมการณ์ ซึ่งขณะนี้มีคนกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นมา โดยเป็นคนไม่หวังดีตั้งตนขึ้นมาใหม่ให้มีอำนาจ เพื่อจะไม่ให้ฟังกลุ่มเก่า โดยทั้งหมดยังกระจัดกระจายอยู่ อย่างไรก็ตาม ดูจากท่าทีของคนที่มาลงนามก็จริงใจดี ไม่งั้นจะออกมาทำไม แต่เขาอยากมีบทบาท มีความสำคัญมีชื่อเสียงทางการเมืองด้วย เพราะถูกทอดทิ้งมานานแล้ว แต่คิดว่าไม่ใช่เขา ปัญหาอยู่ที่คนที่เขาจะไปพูดด้วย พวกคนรุ่นใหม่ที่โหดๆ จะเชื่อเขาหรือไม่ ถ้าไม่เชื่อ ก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไป เราเป็นเจ้าหน้าที่ไม่ต้องกลัว เราใช้กฎหมายจับกุมเหมือนเดิม
"อย่าใช้คำหรืออย่าเขียนเลยว่า ผิดตัวอีกแล้ว ขอให้เขียนว่า ความร่วมมือระหว่างกันเพื่อลดความรุนแรง วันนี้ลองดูว่า บางประเทศในอาเซียนรบมา 50 ปี รบโดยใช้กฎหมายพิเศษ ใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบ ใช้อาวุธหนักทุกอย่าง เขามีถึง 15 ขั้นตอนจนมาทุกวันนี้ก็ต้องจบด้วยการเจรจา แต่เป็นคนละแบบกับไทย การลงนามเป็นเพียงช่องทางหนึ่งในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ตั้งโต๊ะแล้วจะเอาอะไรก็ได้ ทั้งหมดต้องยึดถือกฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญไทยกำหนดแล้วว่า แบ่งแยกไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็พิจารณากันว่ารับได้หรือไม่ คงเป็นเรื่องของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เราต้องใจเย็นๆ วันนี้เริ่มไปแล้วก็ค่อยๆ ติดตาม ถ้ายังเกิดเหตุ ก็ให้ทหาร ตำรวจเข้มงวดกันมากขึ้น ขอให้กำลังใจกัน ถ้ามาพูดจากัน หาทางออกกันดีๆ ก็ไม่ต้องรบกัน เพราะคนไทยด้วยกัน และที่จับมาไม่เคยมีคนต่างชาติ มีแต่คนไทย" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน มาหารือขอข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องดีต้องคุยกัน เรื่องใต้กับเรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องที่ควรพูดกัน ทุกคนต้องทำให้เป็นวาระของชาติ คนไทยไม่ว่าจะพรรคใด พวกไหน ต้องช่วยกันแก้ ถ้าเอาเรื่องนี้มาตีกันเอง คิดว่าเจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหาได้ลำบาก เจ้าหน้าที่ไปซ้าย ก็ผิดใจคนนี้ ทางขวา ก็ผิดใจคนนั้น และจะได้ไม่ต้องมาต่อว่าตนว่ากลับไปกลับมา จุดมุ่งหมายของชาติอยู่ที่ความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ประชาชนเป็นสุข ปลอดภัย การแก้ไขปัญหาภาคใต้ จะสำเร็จได้หรือไม่นั้น กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ประชาชนทุกคนในพื้นที่ภาคใต้ต้องร่วมมือกัน