เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.พิทักษ์พงศ์ ครองชนม์ รอง.ผกก.(สส) สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ได้รับประสานจากนายบัณดิษฐ์ สิงห์ทองดา กำนันตำบลบ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่าได้มีลูกบ้านซึ่งมีอาชีพขับรถโดยสารรับจ้าง สายกบินทร์บุรี-พระปรง ได้เก็บกระเป๋าได้ซึ่งภายในมีเงินสดไม่ทราบจำนวนและอยากจะมอบส่งคืนเจ้าของ พร้อมกับประสานผู้สื่อข่าวเพื่อทำข่าวและเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับพลเมืองดี คนดังกล่าว คือ นายสำลี ลำพา อายุ 56 ปี เลขที่ 291 หมู่.4 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เดินทางมาพบกับ ร.ต.ท.ฐานันดร แก้วบุตรดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จงปราจีนบุรี พร้อมกับนำกระเป๋าผ้าสีน้ำตาลมามอบให้ พร้อมกล่าวว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 56 ที่ผ่านมา ขณะขับรถโดยสารมาบริเวณสี่แยกไฟแดงกบินทร์บุรี มุ่งหน้าจะไปจังหวัดสระแก้ว พอมาถึงบริเวณหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างที่ชื่อว่า "กบินทร์เหม่งหลี" ก็พบกระเป๋าดังกล่าวร่วงหล่นอยู่บนพื้นถนน จึงจอดรถและลงไปเก็บ เมื่อเปิดดูก็พบว่า ภายในกระเป๋ามีเงินสดอยู่เป็นจำนวนมาก จึงพยายามติดตามหาเจ้าของแต่ก็ไม่พบและได้เก็บเงินจำนวนดังกล่าวไว้ที่บ้าน โดยรอจนกว่าจะพบเจ้าของ แต่ไม่มีการนำเงินจำนวนที่พบมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนในที่สุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้าไปสอบถาม จึงยอมรับว่าพบกระเป๋าจริง เจ้าหน้าที่จึงให้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน และได้ก็มอบเงินสดที่อยู่กระเป๋าซึ่งเป็นธนบัตรใบละหนึ่งพันบาท ให้กับ พ.ต.ท.พิทักษ์พงศ์ ครองชนม์ รอง.ผกก.(สส) สภ.กบินทร์บุรี นำออกมานับมานับพบว่าเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 111,000 บาท(หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน) พร้อมกับบันทึกไว้ลงเป็นหลักฐานเพื่อส่งมอบให้กับเจ้าของต่อไป
พ.ต.ท.พิทักษ์พงศ์ กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีกับเจ้าของเงินที่ได้เงินคืน พร้อมกับแสดงความชื่นชมกับผลเมืองดีที่ยังหลงเหลืออยู่ในสังคมปัจจุบันนี้
ส่วนเจ้าของเงินซึ่งทราบว่าเป็นพระชัยศรี แพงตา พระลูกวัดธาตุทอง กรุงเทพฯ ขณะที่เดินทางมาที่อำเภอกบินทร์บุรีเพื่อนำเงินดังกล่าวมาซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างเพื่อปลูกบ้านให้พ่อ ที่อำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี ขณะที่เอากระเป๋าใส่เงิน ยัดใส่ไว้ในอังสะ แต่ไม่รู้ว่ากระเป๋าเงินร่วงหายไปตั้งแต่เมื่อใด จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กบินทร์บุรี เมื่อวันที่ 23กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อติดตามหาจนกระทั่งมีผู้เก็บได้และนำมามอบให้ จากนั้นจะได้ประสานกับพระให้มารับเงินว่าเงินทั้งหมดนั้นยังอยู่ครบจำนวนหรือไม่
ด้านร.ต.ท.ฐานันท์ดร ฯ ร้อยเวร เจ้าของคดี กล่าวว่า
ก่อนหน้าที่พลเมืองดีผู้นี้จะนำประเป๋าหรือเงินจำนวนดังกล่าวมาส่งคืนในวันนี้โดยมีการแจ้งนักข่าวติดตามมาทำข่าวในครั้งนี้ โดยตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความจากพระชัยศรี เจ้าของเงิน เมื่อเวลาประมาณ 14.00 นวันเดียวกัน หลังจากที่ได้รับแจ้ง ได้ลงตรวจพื้นที่บริเวณหน้าจุดเกิดเหตุดังกล่าว พบมีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้ หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นรถยนต์กระบะแบบมีหลังคา คล้ายรถโดยสาร 2 แถว จอดบริเวณดังกล่าว และได้ทำท่าหยิบอะไรบ้างอย่างไป ในที่สุดสามารถสืบทราบได้ว่าเป็นบุคคลดังกล่าวคือนายสำลี คนขับรถดังกล่าว โดยก่อนหน้าที่จะทราบว่านายสำลีได้ประสานผู้สื่อข่าวทราบว่า ตนพบเงินสดและจะส่งเงินคืนให้กับเจ้าของ โดยทางตนซึ่งเป็นเจ้าของคดีได้เรียกตัวเข้าพบในวันนี้เช่นกัน โดยหลังจากนี้จะได้สอบปากคำนายสำลีต่อไปและจะได้ประสานทางพระชัยศรี เจ้าของเงินให้มารับเงินคืน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องพลเมืองดีคนนี้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามสืบจนทราบเบาะแสคนเก็บเงินได้จากกล้องวงจรปิด และขอชมเชยกับนายสำลี ที่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวส่งคืนเจ้าของ