นรข.นครพนมเข้มลักลอบดูดหินทรายลำน้ำโขง สั่งอายัดทรายตรวจสอบการขออนุญาต มูลค่ากว่า 100 ล้าน ระบุส่งผลกระทบอาณาเขตชายแดน
วันนี้ 26 ก.พ.56) นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนมเปิดเผยว่าได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบปัญหาการลักลอบขุดทรายกลางแม่น้ำโขง ในเขต อ.ธาตุพนม จ.นครพนมและในหลายพื้นที่ตามแนวลำน้ำโขง เนื่องจากในช่วงหน้าแล้งน้ำโขงลดเกิดหาดทรายทำให้ผู้ประกอบการเอกชน เข้าไปขุดทรายกลางแม่น้ำโขง โดยไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาจำหน่าย และทำการก่อสร้างโครงการทำเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง
เบื้องต้นได้มีเข้าไปเก็บหลักฐานการกระทำผิด และทำการการอายัดกองทรายที่ขุดมาจากแม่น้ำโขง รวมกว่า 3 แสนคิว
มูลค่าเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาทในเขตอำเภอธาตุพนม ไว้ตรวจสอบ ส่วนเครื่องมือในการขุดไม่ไม่สามารถตรวจยึดได้ เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายหนีก่อนหน้านี้ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหากไม่มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย จะร่วมกับตำรวจทำการดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา กล่าวอีกว่าปัจจุบันในพื้นที่นครพนม กำลังประสบปัญหาเรื่องการลักลอบขุดทรายตามลำแม่น้ำโขง
ซึ่งผู้ประกอบการฉวยโอกาสช่วงน้ำโขงแห้ง นำรถแบ็คโคร ลงไปขุดขึ้นมาขาย เป็นรายได้มหาศาล แต่ไม่มีการรับอนุญาตตามกฎหมาย เพราะการขุดทรายบริเวณในเขตแม่น้ำโขงปกติต้องมีการขออนุญาตจากหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง และจะต้องดำเนินการตามแนวเขตที่ให้อนุญาต ที่สำคัญปัญหาที่ตามมาคือ เรื่องของผลกระทบของการสูญเสียแนวเขตระหว่างชายแดน เนื่องจากปัจจุบันในการแบ่งเขตชายแดนไทยลาว ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ จะต้องดูจากร่องน้ำลึกเป็นหลัก แต่เมื่อฝั่งไทยมีการขุดทรายปริมาณมาก จะส่งผลให้ร่องน้ำลึกตกมาใกล้ฝั่งไทย ทำให้มีการเสียดินแดน เกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ที่เชื่อมกับชายแดนไทย
อย่างไรก็ตามจะได้ประสานกับตำรวจ และกรมเจ้าท่า สอบสวนเรียกผู้กระทำผิดมาตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งในการตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ นรข.ตาม พรบ.เดินเรือน่านน้ำไทย 2546 ที่สามารถทำหน้าที่ในการตรวจสอบป้องกัน จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายตลอดแนวน่านน้ำไทย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ป้องกันผู้เห็นประโยชน์ส่วนตนมาแสวงผลประโยชน์จากการกระทำผิดกฎหมาย