โพลคนห่วงไฟดับเม.ย.ยังมั่นใจรัฐคุมได้จี้หาทางรองรับ

นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินงานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2556 เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไร? กรณีไฟจะดับเดือนเมษายน ว่า หากพม่าหยุดจ่ายก๊าซช่วงเดือนเมษายน ห่วงไฟฟ้าดับทั่วประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 58.12 เห็นว่า รัฐบาลควรเร่งหาทางป้องกัน เตรียมความพร้อม และมาตรการรองรับที่ชัดเจน หากไฟฟ้าดับจริง ร้อยละ 43.45 ค่อนข้างมั่นใจรัฐบาลว่า น่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล

ส่วนผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรม ควรมีการเตรียมพร้อมอย่างไรนั้น ประชาชนร้อยละ 53.98 เห็นว่า ควรมีมาตรการรองรับหรือเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ แหล่งผลิตไฟฟ้าสำรอง การป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ถ้าเกิดไฟฟ้าดับจริง ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจัง ลดกำลังการผลิตใช้ไฟฟ้าช่วงที่หยุดส่งก๊าซ และร้อยละ 53.83 เห็นว่า ประชาชนควรติดตามข่าวสารอย่างมีสติ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป และร้อยละ 46.85 คิดว่า พลังงานของไทยในอนาคตอาจไม่พอใช้ อีกไม่นานก็หมดไป ควรหาพลังงานสำรองอื่นๆ มาทดแทน

'จารุพงศ์'สั่งทุกการไฟฟ้ารับมือพม่าซ่อมท่อ

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สัปดาห์หน้า จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ประชุมรับมือและซักซ้อมทำความเข้าใจวางแผนร่วมกัน เกี่ยวกับวิกฤติพลังงาน ซึ่งขณะนี้ ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานดังกล่าว ไปทำการบ้านเพื่อมาหารือแล้ว ส่วนพลังงานเสริมจากประเทศลาวนั้น ทางกระทรวงพลังงาน จะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

"ก็เดี๋ยวให้เค้าทำการบ้านมาก่อนแล้วค่อยประชุม ก็บอกเค้าทำการบ้านมาแล้ว" นายจารุพงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายจารุพงศ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ว่า สถานการณ์ในปีนี้ยังเหมือนปีที่ผ่านมา อีกทั้ง ยังมีการเตรียมการล่วงหน้า เพื่อลดปัญหาอุปสรรคเป็นอย่างดี เพราะรัฐบาลทราบดีว่า ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึง ต้นเดือนพฤษภาคม เป็นฤดูร้อน ตลอดจน ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ๆ ยังอยู่ในอัตราเฉลี่ย 60-65 % ที่สามารถเก็บได้ ซึ่งยังไม่ถึงขั้นวิกฤติและยังไม่น่าห่วง เพราะสามารถมีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้ง พร้อมยืนยันว่า น้ำกินน้ำใช้ไม่ขาดแคลน ส่วนน้ำทำการเกษตร ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของชลประทานที่ได้กำหนดไว้

กฟภ.ภาคใต้มั่น100%5เม.ย.สมุยไฟไม่ดับแน่

นายวัฒนา แพกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เขต 2 ภาคใต้ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณี พม่าจะหยุดจ่ายก๊าซ ในเดือนเมษายน และอาจจะกระทบต่อพื้นที่ในภาคใต้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว อย่างเกาะสมุย จ.สุราษฎรธานี ว่า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้มีมาตรการในการรองรับวิกฤติพลังงานในครั้งนี้อยู่แล้ว ทั้งระดมเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ (โมบาย) จากทั่วประเทศษ 25 ตัว

อีกทั้งทางด้าน นายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้อนุมัติใช้เช่าโมบายจากสิงคโปร์ ด้วยงบประมาณเกือบ 25 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงทำการซ่อมสายเคเบิลไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าในเดือนเมษายนนี้ ฉะนั้น จึงมั่นใจ 100% ว่า ชาวเกาะสมุยจะไม่ประสบกับเหตุการณ์ไฟดับแน่นอน

ทั้งนี้ นายวัฒนา กล่าวต่อว่า สำหรับสายเคเบิลใต้น้ำที่มาขึ้นฝั่งที่บ้านแม่น้ำ อ.เกาะสมุย แล้วเชื่อมต่อกับเคเบิลใต้ดินนั้น ได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว โดยทางรัฐนมตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมเชิญ นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพีธีการปล่อยกระแสไฟ ในราวๆ กลางเดือนมีนาคม นี้

พรศิลป์ค้านโรงงานหยุดผลิต5 เม.ย.แก้ไฟตก

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลประกาศวิกฤติพลังงาน ระหว่างวันที่ 5-14 เมษายนนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะแผนการปิดซ่อมบำรุง เป็นเรื่องที่รัฐบาลรู้ล่วงหน้า ควรที่จะมีแผนรับมือที่ดีกว่านี้ และที่รัฐบาลขอความร่วมมือกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ให้หยุดโรงงานในวันที่ 5 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่มีความเสี่ยงไฟฟ้าตกสูงนั้น เห็นว่า ควรเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการที่โรงงานหยุดการผลิต จะกระทบต่อเนื่องหลายด้าน เช่น โรงงานผลิตอาหารและอาหารแช่เยือกแข็ง หากหยุดการผลิต จะมีผลต่อวัตถุดิบที่ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ติดลบ และจะกระทบต่อลูกจ้างในการหยุดงานด้วย

ส.นักวิเคราะห์ฯไม่ห่วงไฟตกเม.ย.-รบ.รับมือได้

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักลงทุน ไม่ได้ตื่นตระหนกต่อกรณีที่ กระทรวงพลังงาน ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน และอาจเกิดไฟฟ้าขัดข้องในบางพื้นที่ ช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ เพราะเป็นช่วงระยะเวลาไม่กี่วัน และเชื่อมั่นว่า ภาครัฐจะดูแลสถานการณ์ได้ ส่วนผลกระทบต่อระบบการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น มองว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก เนื่องจาก ทางตลาดหลักทรัพย์ มีระบบสำรองไฟฟ้า และมีศูนย์สำรองควบคุมระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ ไว้สำหรับรองรับภาวะฉุกเฉินอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจขณะนี้ คือ การติดตามความคืบหน้าสถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ที่เตรียมถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน หรือ คิวอี เร็วกว่ากำหนด