ฮือฮา!พบควายเขายาวคล้ายโลโก้คาราบาว-ลงขันไถ่ชีวิตนำฝึกแสดงหนัง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.สุรโชคม์ วิเศรษฐ์ฐิติพันธ์ หรือสารวัตรแรมโบ้ รองผู้กำกับการการ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 3

พร้อมด้วยนายอรุณศักดิ์ อ่องลออ ประธานสหกรณ์ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม และการสื่อสารมวลชน, นายดาม ดัสกร ดาวร้ายชื่อดัง และนายแมค ไชยมี กรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะกว่า 20 คน ได้เดินทางมาที่โรงฆ่าสัตว์ไม่มีชื่อแห่งหนึ่ง เลขที่ 121 บ้านบุ หมู่ 4 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อไถ่ชีวิตควายเพศผู้อายุ 19 ปี มีเขาโค้งยาวประมาณ 2.4 เมตร คล้ายสัญลักษณ์วงดนตรีเพื่อชีวิต “คาราบาว”

นายสมจิตร ไทยงูเหลือม เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ กล่าวว่า 3 เดือนที่แล้ว ได้ซื้อควายตัวดังกล่าวมากจากตลาดนัดค้าวัว-ควาย
 
ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในราคา 5 หมื่นบาท เพื่อมาเข้าโรงเชือดตามระบบของโรงฆ่าสัตว์ เนื่องจากร่างกายที่สมบูรณ์ อาจได้เนื้อเป็นจำนวนมาก และขายได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นบาท ต่อมาได้มีชาวต่างชาติมาเห็นเขาของควายมีความยาว 2.4 เมตร จึงได้ติดต่อขอซื้อเฉพาะส่วนหัวให้ราคาสูงถึง 5 หมื่นบาท แต่เมื่อมีผู้ติดต่อขอไถ่ชีวิต โดยให้ราคา 1 แสนบาท ตัดสินใจไม่นำเข้าโรงเชือด เพราะรู้สึกเสียดายควายที่มีลักษณะสวยงาม คล้ายสัญลักษณ์ของวงดนตรีเพื่อชีวิตชื่อดัง “คาราบาว” หายากมากในปัจจุบัน จึงอยากอนุรักษ์ไว้
 
นายอรุณศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีชาวบ้านนำภาพของควายโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก

โดยแจ้งว่าอยู่ในโรงฆ่าสัตว์จังหวัดนครราชสีมา และกำลังจะถูกฆ่าในอีกไม่กี่วัน ทางกลุ่มเพื่อนๆ ที่อยู่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ต่างก็รู้สึกเสียดาย เนื่องจากมีลักษณะเขาโค้งยาว สวยงามเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งลักษณะมีถุงเท้าทั้ง 4 ข้าง หายากมาก จึงได้พยายามติดต่อกับเจ้าของควาย เพื่อขอไถ่ชีวิต

โดยทางเจ้าของควายได้ตั้งราคาไถ่ชีวิตไว้ 1 แสนบาท ตนไม่มีเงินพอ จึงได้โอนเงินจำนวน 1 หมื่นบาท จองตัวควายตัวไว้ก่อน
 
เพื่อไม่ให้ถูกนำเข้าโรงเชือด และบอกต่อเพื่อนๆ ในโซเชียลเน็ตเวิร์กจนมีการรวบรวมเงินได้ 1 แสนบาท ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ จึงได้ลงมาเพื่อไถ่ตัวควายออกมาจากโรงฆ่าสัตว์วันนี้ เพื่อนๆ ที่ร่วมเอาเงินมาลงขันทั้งหมดพร้อมใจกันตั้งชื่อว่า “รวมบุญ” เพราะเป็นการรวมเงินทำบุญกัน

"จะนำชื่อเข้าไปอยู่ในสหกรณ์ภาพยนตร์ฯ จะนำไปเลี้ยงในโรงถ่ายภาพยนตร์อัศวิน เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร เพื่อฝึกให้เป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์ของโรงถ่ายฯ และนายสมจิตร เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ เมื่อทราบว่าจะนำไปเลี้ยงเพื่อเป็นนักแสดงภาพยนตร์ก็รู้สึกดีใจ และมอบเงินคืนให้กับทีมงานอีก 1 หมื่นบาท เพื่อเป็นการร่วมทำบุญ"