ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีหญิงชราวัย 76 ปี ปลูกกระท่อมอาศัยอยู่ ถูกลูก-หลาน ทอดทิ้งมานานกว่า 30 ปี
อาศัยอยู่ในที่ดินของเพื่อนบ้านเบื้องต้นได้รับแค่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซื้อข้าวกินและอาศัยเลี้ยงลูกของเพื่อนบ้านแลกกับอาหารประทังชีวิตไปวันๆ เท่านั้น จึงได้เดินทางตรวจสอบความจริง ที่บ้านเลขที่ 68 ม.1 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบหญิงชราวัย 76 ปี ชื่อนางแต๋ว พรหมเทา อาศัยอยู่ ที่บ้านไม้ ยกพื้นสูง ใช้สังกะสีเก่าๆมากั้นตีรอบ ๆบ้านไว้พอได้บังฝนลมบังแดด
นางแต๋ว กล่าวว่า ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองมาอาศัยที่ของเพื่อนบ้านอยู่ซึ่งเป็นครูให้อยู่
โดยไม่ได้เรียกร้องค่าเช่าแต่อย่างใดได้เกือบ 20 ปีเศษ มีลูก 3 คน ลูกๆ ไม่ได้อยู่ด้วยพักอาศัยอยู่คนเดียวมานานแล้ว ก่อนหน้าเคยมีสามีใหม่แต่ได้เลิกรากันไปไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลูกๆ ทำมาหากินในกรุงเทพฯทั้งหมด นานๆ จะมาหา มีเฉพาะลูกชายคนโตชื่อนายทร ซึ่งเป็นคนปลูกบ้านให้อยู่ ส่วนลูกคนเล็กและคนรองนานทีปีหนถึงจะมาหา
ด้านนายแผน ทองขาว ผู้ที่ให้ที่อาศัยกล่าวว่า
ให้ยายแต๋วได้ปลูกบ้านอยู่โดยไม่ได้คิดค่าเช่าและรู้ว่ายายแต๋วมีลูกแต่ได้ข่าวว่าลูกๆ มาหาอยู่เหมือนกันแต่ก็นานๆ ครั้งหนึ่ง อยากจะให้มีหน่วยงานราชการเข้ามาดูแลและช่วยเหลือในเบื้องต้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง สนง.พัฒนาสังคมและมนุษย์ บ้านพักเด็กและสตรีและครอบครัว ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 29 ปราจีนบุรี
นำโดยนางมาลี พิพัฒนาวรคุณ เจ้าหน้าที่ ได้เดินทางมาดูแลและช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวนเงิน2,000บาท และทราบว่าองค์การบริหารส่วนตำบลลาดตะเคียน (อบต.) อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้ามาดูแลด้านการเงินเบี้ยผู้สูงอายุโดยให้เจ้าหน้าที่นำเบี้ยยังชีพมาให้ถึงที่บ้านเช่นกันโดยไม่ต้องผ่านใครโดยยายแต๋วได้ขอบ คุณทุกหน่วยงานที่มาช่วยเหลือและดูแลในครั้งนี้