ธ.ก.ส.อัดสินเชื่อใหม่9หมื่นล.เฮคลังเพิ่มทุนดันBISล้น10%

แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในปีบัญชี 2556 (1 เม.ย. 2556-31 มี.ค. 2557) ตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อใหม่ไว้ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท โดยจะให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้สินเชื่อคงค้างของธนาคารเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 1 ล้านล้านบาท

รวมกับเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คลังเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส.เพื่อเป็นเงินงบประมาณและเงินปันผลของธนาคารรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นอีก 12 เท่า ขณะที่สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอสเรโช) จะเพิ่มเป็นกว่า 10% และคาดว่า ณ สิ้นปีบัญชี 2555 (ในเดือนมี.ค.) ธนาคารน่าจะมีสินเชื่อคงค้างกว่า 8 แสนล้านบาท

นายบุญไทย แก้วขันตี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 2555 (1 เม.ย. 2555-31 มี.ค. 2556)

คาดว่าธนาคารจะมีกำไรสุทธิ 7,949 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปีบัญชีมีกำไรสุทธิแล้ว 6,499 ล้านบาท ขยายตัว 31.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลกำไรจากการขยายตัวการปล่อยสินเชื่อภาคเกษตรและการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล

ทั้งนี้ใน 9 เดือนแรก ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 49,180 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 42,681 ล้านบาท โดยมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากต้นปีบัญชี 2555 เป็นจำนวน 107,710 ล้านบาท คิดเป็น 15.52% ขณะที่ยอดเงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 45,239 ล้านบาท (+5.10%) ทำให้ยอดเงินฝากรวมสะสมอยู่ที่ 932,498 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากเงินฝากประเภทออมทรัพย์ทวีโชคที่รับฝากจากประชาชน

รายย่อย และเงินฝากดอกเบี้ยสุขใจ

ผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 1,125,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70,285 ล้านบาท (+6.66%) จากต้นปีบัญชีมีหนี้สินรวม 1,036,660 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 63,786 ล้านบาท (+6.56%) ซึ่งถือว่าการขยายตัวของสินทรัพย์กับหนี้สินใกล้เคียงกัน

ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในช่วง 9 เดือนแรก อยู่ที่ 5.75% บีไอเอสเรโชอยู่ที่ 9.86% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของ ธ.ก.ส.ที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 8.50%

นอกจากนี้ยังมีสภาพคล่องส่วนเกินหมุนเวียนอยู่ประมาณ 1.9 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้ต้องสำรองไว้ใช้จ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย สำหรับการลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สำหรับรองรับการถอนเงินฝากกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท สำรองไว้จ่ายสินเชื่อจนถึงสิ้นปีบัญชี 2555 อีก 1.9 หมื่นล้านบาท สำรองไว้จ่ายเงินกู้ให้กองทุนหมู่บ้านอีก 2.6 หมื่นล้านบาท และสำรองไว้สำหรับสภาพคล่องในการโอนเงินระหว่างสาขาอีก 1.5 หมื่นล้านบาท รวมแล้วสำรองไว้ 1.6 แสนล้านบาท และจะเหลือสภาพคล่องส่วนเกินจริง ๆ 3 หมื่นล้านบาท

"ถ้ามีอะไรจำเป็นต้องจ่าย ก็สามารถเบิกจ่ายได้ ต้องบอกว่าเรื่องสภาพคล่อง สถานะทางการเงินเรายังดี ยังเข้มแข็ง สบายใจได้" นายบุญไทยกล่าว

ขณะที่นายชัยวัฒน์ ปกป้อง ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส.ระบุว่า ในปีบัญชี 2555 นี้ การปล่อยสินเชื่อใหม่ของ ธ.ก.ส.หากรวมสินเชื่อซอฟต์โลนที่ได้รับจาก ธปท.จะปล่อยได้ราว 1 แสนล้านบาท แต่หากไม่นับรวมส่วนนี้ จะทำให้มียอดปล่อยสินเชื่อใกล้เคียงงบฯเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งการที่สินเชื่อขยายตัวได้ดี เนื่องจากมีการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเกษตรที่เป็นกลางน้ำและปลายน้ำ

ตามการปรับเกณฑ์ข้อบังคับให้อยู่กับการปล่อยสินเชื่อภาคการเกษตรด้วย