วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.ได้ประสานไปยังผู้ปกครองของ น.ส.พิม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นผู้โพสประกาศขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ ผ่านทางอินสตาแกรม จนมีผู้หลงเชื่อโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร เป็นจำนวนมาก ว่าให้ช่วยพา น.ส.พิม เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมทนายความ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน ตามที่มีกลุ่มผู้เสียหายพากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ บก.ป.ก่อนหน้านี้ ซึ่งภายหลังแจ้งข้อหาและทำบันทึกการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะทำบันทึกส่งตัวไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (บ้านปราณี) ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรณีที่พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.พิม เนื่องจากผู้เสียหายมีการแจ้งความให้ดำเนินคดีเอาไว้ และจากการสอบสวนก็พบว่า น.ส.พิม เป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศขายตุ๊กตาดังกล่าว และมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบกระแสเส้นทางของเงินพบว่ามีการโอนต่อไปให้กับ น.ส.ชนนิกานต์ ทั้งหมด หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อมีความเห็นทางคดีอีกครั้งกล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.ชนนิกานต์ ไตชิละสุนทร หรือติ๊บ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาหลอกลวงขายตุ๊กตาเฟอร์บี้ ผ่านทางอินสตาแกรม จนมีผู้เสียหายกว่า 50 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท ว่า ภายหลังผู้ต้องหาโพสรูปของ น.ส.ณัฐาศินี วิชัยดิษฐ์ หรือนาตาลี อายุ 21 ปี นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน แล้วอ้างว่านางแบบสาวรายนี้ชื่อ “แนท” จนเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ น.ส.ณัฐาศินี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งการสอบสวนเบื้องต้นก็น่าเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงที่เกิดขึ้น
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นางแบบสาวคนดังกล่าว ยังน่าจะเป็นเหยื่ออีกรายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกนำภาพถ่ายที่ถ่ายคู่กับดาราไปใช้แอบอ้างสร้างความเสียหาย รวมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือเมื่อมีการอ้างถึงดาราชื่อดัง ส่วนชื่อ “แนท” ที่ถูกใช้ก็น่าจะไม่มีตัวตน เป็นเพียงชื่อที่ถูกตั้งขึ้นจากผู้ต้องหาเท่านั้น อย่างไรก็ดี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลต่อไปว่า น่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องกับคดีนี้อีกบ้าง โดยจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกอย่างน้อย 2 ราย นอกเหนือจาก น.ส.ชนนิกานต์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบในส่วนของผู้ต้องสงสัย
รอง ผบก.ป.กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมนั้น หากเป็นผู้เสียหายรายเดียวกับกลุ่มของ น.ส.ชนนิกานต์ ทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกัน แต่หากเป็นผู้เสียหายกลุ่มอื่นๆ ก็จะรับแจ้งความไว้และแยกสำนวนคดี เพราะเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน รวมทั้งหากมีมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 5 ล้านบาท ก็จะส่งให้ตำรวจท้องที่เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนจะเรียก น.ส.ชนนิกานต์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น คงจะต้องดูว่ามีประเด็นอะไรในการสอบสวนหรือไม่
ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป.กล่าวว่า จากการสอบปากคำ น.ส.ชนนิกานต์ ในเบื้องต้นได้ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างถึงบุคคลที่ชื่อแนท เท่านั้น แต่แนวทางการสืบสวนเชื่อว่าบุคคลที่ชื่อแนท ไม่น่าจะมีตัวตนจริง เป็นเพียงชื่อที่ถูกผู้ต้องหาอุปโลกน์ขึ้นมาเท่านั้น
อีกทั้งนางแบบสาวที่ชื่อ “นาตาลี” เจ้าของรูปถ่ายก็เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะเร่งสืบหาพยานหลักฐานอื่นๆ ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ให้ได้มากที่สุด เพื่อรวบรวมสรุปสำนวนคดีนี้ต่อไป..