อย. ห้ามซื้อ-ขาย ยาเสียสาว อัลปราโซแลม
อย. ยกระดับการควบคุมอัลปราโซแลม หรือยาเสียสาว เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 คือ ห้ามผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก ยกเว้น สธ. หรือผู้ได้รับมอบหมาย เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เดิมที อัลปราโซแลม (Alprazolam) จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 เป็นวัตถุออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ และมีข้อบ่งใช้ที่ได้รับการยอมรับ ตามที่ขึ้นทะเบียนไว้คือ บรรเทาหรือรักษาอาการวิตกกังวลและอาการตื่นตระหนก
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีชื่อทางการค้าซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เช่น ซาแน็กซ์ โซแลม มาโน เป็นต้น แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน พบข้อมูลการนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น มีการนำยานี้ไปเสพร่วมกับยาน้ำแก้ไอ น้ำใบกระท่อมต้ม ดังที่รู้จักกันในหมู่นักเสพว่า สี่คูณร้อย นอกจากนี้ ยังมีการนำไปใช้ก่ออาชญากรรม เช่น การมอมยารูดทรัพย์หรือล่วงละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยว ซึ่งในบางรายถึงขั้นเสียชีวิต ขณะเดียวกันก็มีคดีกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาตัวดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น อย. จึงมีการแก้ไขกฎหมาย โดยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 2 ฉบับ ดังนี้
1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เปลี่ยนแปลงประเภทวัตถุออกฤทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555 มีสาระสำคัญคือ การยกระดับการควบคุมอัลปราโซแลม (Alprazolam) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งห้ามผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก ยกเว้นกระทรวงสาธารณสุข หรือผู้ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข หากฝ่าฝืน มีโทษจำคุก 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท สำหรับการมีไว้ในครอบครองจะต้องขอรับ “ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์” ด้วย
2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดชื่อและปริมาณวัตถุออกฤทธิ์ที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้นหนึ่งในสาขาทันตกรรม (ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม) หรือผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่ง (ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง) มีไว้ในครอบครองได้โดยไม่ต้องขออนุญาต พ.ศ. 2555 มีสาระสำคัญคือ เป็นประกาศที่ตัดรายการอัลปราโซแลม (Alprazolam) ออก ทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพทุกรายต้องขอรับใบอนุญาตก่อน จึงจะมีอัลปราโซแลม (Alprazolam) ไว้ในครอบครองได้ โดยประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 129 ตอนพิเศษ 191 ง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555 จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป
ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป เนื่องจากร้านขายยาไม่สามารถมีและขายอัลปราโซแลมให้กับผู้บริโภคได้ จึงขอให้ส่งยาที่คงเหลืออยู่คืนให้แก่บริษัทผู้ผลิตหรือผู้ขายทั้งหมด หากพ้นกำหนดจะมีโทษตามกฎหมาย สำหรับโรงพยาบาลรัฐในสังกัดกระทรวง ทบวง กรม รวมทั้งสภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาล บ้านแพ้ว (องค์กรมหาชน) กรุงเทพมหานครเฉพาะสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องขอใบอนุญาตครอบครองฯ
ส่วนโรงพยาบาลของรัฐสังกัดหน่วยราชการอื่น เช่น องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก ที่ไม่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองฯ หากไม่ประสงค์จะครอบครองยา ให้ส่งคืนยาแก่ผู้ผลิตหรือผู้ขายก่อนวันที่ 17 มิถุนายน 2556 แต่หากประสงค์จะมีไว้ในครอบครองต้องขออนุญาต
ทั้งนี้ โรงพยาบาลของรัฐสังกัดหน่วยราชการอื่นในทุกพื้นที่ และโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้ยื่นคำขอที่กองควบคุมวัตถุเสพติด อย. สำหรับโรงพยาบาลเอกชน/คลินิก ที่อยู่ในเขตปริมณฑล และส่วนภูมิภาค ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยผู้มีไว้ในครอบครองฯ ทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต หรือผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอใบอนุญาต จะต้องจัดทำบัญชีรับ-จ่ายวัตถุออกฤทธิ์ และรายงานทั้งรายเดือนและรายปี ส่ง อย. ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
ในส่วนประชาชนผู้บริโภค สามารถมียาดังกล่าวไว้ในครอบครองได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใด ๆ เพียงแต่ต้องเป็นไปตามที่ผู้ประกอบวิชาชีพสั่งจ่ายให้เฉพาะตนเองเพื่อการบำบัดรักษาเท่านั้น