แค้นน้องเขยฮุบสมบัติ ทุบหัวขนศพแหกด่าน
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 3 ก.พ. ร.ต.อ.วิชยุตม์ เกษรสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด่านปราบปรามยาเสพเสพ อ.พยุหะคีรีว่า สามารถจับคนร้ายฆ่าคนตาย บริเวณถนนสายบ้านเขาลัง-เขาทอง หมู่ 4 ต.เขาลัง ต.หนองปลิง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ และแพทย์ ร.พ.สวรรค์ประชารักษ์
ครั้นถึงที่เกิดเหตุ พบรถนิสสัน เทียร์ร่า สีขาว ทะเบียน กค 2137 มุกดาหาร ชนอัดก๊อปกับต้นไม้ข้างถนน ในสภาพด้านหน้าพังเสียหายยับ ภายในรถ พบศพนายธวัชชัย อังกาบ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/43 หมู่ 6 ต.วัดไทร อ.เมืองนครสวรรค์ เสียชีวิตอยู่ที่เบาะด้านหลัง ในสภาพถูกถุงพลาสติกมัดคลุมใบหน้าและร่างกาย มีบาดแผลแตกที่ศรีษะ คอหัก ส่วนคนร้าย ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในที่เกิดเหตุไว้ได้ทั้งหมด 3 คน ทราบชื่อคือนายสมชาย ตะโกทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/2 หมู่ 7 ต.ท่ามะเกลือ อ.เมืองนครสวรรค์ นางจันทร์ทนา อังกาบ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 4 ต.ศรีสุนทร อ.กลาง จ.ภูเก็ต และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งพิสูจน์ ก่อนควบคุมตัวทั้ง 3 คนมาสอบสวนน
นายสมชาย ให้การรับสารภาพว่า นางจันทร์ทนา เป็นภรรยาของผู้ตาย อาศัยอยู่ที่บ้านของผู้ตาย โดยมีนายสมชาย และนายเอ พักอาศัยอยู่ด้วย ก่อนเกิดเหตุพวกตนทนพฤติกรรมของคนตายไม่ได้หลายอย่าง ทั้งหวังจะฮุบสมบัติน้องสาว อีกทั้งยังนำรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ของน้องสาวไปขาย เอาเงินใช้เที่ยวเตร่ยามราตรี ด้วยความโกรธจึงหยิบไม้ยูคา ข้างกำแพงบ้าน นำไปฟาดศีรษะขณะนั่งดูโทรทัศน์จนสิ้นใจ
จากนั้นเดินไปเรียกนางจันทร์ทนา มาดูศพ ก่อนช่วยกันนำถุงพลาสติกมามัดใส่รถจะนำไปทิ้งที่ที่ห่างไกลเพื่ออำพรางคดี ระหว่าง นั้นนายเอ ลงมาเห็นพอดี จึงเกลี้ยกล่อมให้มาช่วย
ด้านนายสมชาย ให้การอีกว่า หลังจากนำศพน้องเขยขึ้นรถ นางจันทร์ทนา มุ่งหน้าไปทางถนนสายบ้านเขาลัง-เขาทอง แต่ระหว่างทางเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจสกัดยาเสพติด ปรากฏว่า นางจันทร์ทนา ตัดสินใจขับรถแหกด่านหลบหนี เพราะกลัวว่าจะถูกตรวจค้น จนถูกไล่ตามสกัดจับ กระทั่ง เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางในที่เกิดเหตุ และถูกจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด ทั้งนี้ตนขอยอมรับผิดคนเดียว ที่ฆ่าน้องเขยตาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายสมชาย เนื่องจากทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับเหมาเชื่อมเหล็ก มีรายได้เดือนละ 6-7 หมื่นบาท และทำประกันไว้กับบริษัทประกันชีวิตหลายแห่ง นับหลายล้านบาท ประกอบกับ นายสมชายซึ่งใช้ไม้ยูคาตีนายธวัชชัยเสียชีวิต อยู่ในอาการเมาสุราด้วย จึงเชื่อว่าต้องมีมูลเหตุอื่น ๆ อีก เจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.