พิพากษายืนจำคุก 13 ปี 6 วัน อดีตครูผู้ช่วยจุฬาฯยิงพ่อค้าข้าวแกง

พิพากษายืนจำคุก 13 ปี 6 วัน อดีตครูผู้ช่วยจุฬาฯยิงพ่อค้าข้าวแกง


ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 13 ปี 6 วัน อดีตครูผู้ช่วยจุฬาฯยิงพ่อค้าข้าวแกงปัสสาวะหน้าบ้าน เจ้าตัวเผยเตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ

ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (30 ม.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีความผิดต่อชีวิต หมายเลขดำ อ.2070/ 48 หมายเลขแดง อ.4334/49ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสันติลักษณ์ หรือแสตมป์ ธัญญาหาร หรือนายภัทรวรรธน์ ธัญญาหารรุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี อดีตครูผู้ช่วยระดับ 3 ภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.48 ระบุความผิดสรุปว่า

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.48 เวลาประมาณ 01.30 น. นายสุธัญ อิทธิสุรสิงห์ อายุ 45ปี อาชีพพ่อค้าข้าวแกง ได้ไปร่วมงานวันเกิดของหลานสาวที่บ้านเช่าหลังอาคารมิสเตอร์แสตมป์ ที่มีนายสันติลักษณ์จำเลยเป็นเจ้าของ เมื่อกลับจากงานเลี้ยง นายสุธัญได้ไปยืนปัสสาวะที่ริมคลองประปาหน้าบ้านของนายสันติลักษณ์ จำเลยเห็นจึงยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด นายสุธัญจึงตะโกนถามว่ายิงปืนทำไม จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้เกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง ขณะนั้นมีพยานซึ่งเป็นเพื่อนของนายสุธัญ เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปห้ามปราม แต่จำเลยไม่ฟังเสียงใช้ปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงใส่นายสุธัญเข้าที่หน้าอกจนเสียชีวิต
 

จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีอ้างว่า ผู้ตายกับเพื่อนเดินมาหาเรื่องที่หน้าห้องพัก โดยมีอาวุธมีดมาด้วย ตนจึงเข้าห้องกลับไปเอาปืนมายิงขู่ แต่ถูกเพื่อนผู้ตายแย่งปืน จนปืนลั่นใส่นายสุธัญถึงแก่ความตายเอง
 

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.49 เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ,376 ให้ลงโทษจำคุกฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเป็นเวลา 18 ปี ฐานยิงปืนในที่สาธารณะจำคุก 9 วัน จำเลยให้การรับสารภาพฐานยิงปืนในที่สาธารณะ และให้การเป็นประโยชน์บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยไว้ 12 ปี 6 วัน และให้บวกโทษจำคุก 1 ปี ที่รอลงอาญาไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ 566/2545 คดีทำร้ายร่างกายนางศรินรัตน์ ธัญญาหาร ภรรยา ได้รับอันตรายสาหัสด้วย รวมโทษจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 13 ปี 6 วัน จำเลยยื่นอุทธรณ์ ต่อมาวันที่ 9 มี.ค. 52 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยยื่นฎีกา
 

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า จำเลยยื่นฎีกาว่าผู้ตายพกพาอาวุธมีดเข้ามาในบริเวณบ้านจำเลย กรณีจึงเป็นเหตุป้องกันตัว ขอให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษสถานเบา ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยไม่เป็นสาระ ไม่มีเหตุให้ลงโทษสถานเบา ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสาระบบ โดยผลให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่ให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 13 ปี 6 วัน ระหว่างถูกควบคุมตัวออกจากห้องพิจารณาคดี นายสันติลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว ตนจะยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป.
 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์