มาร์ค-ตู่ มีแววจูบปากคดีฟ้องหมิ่นกล่าวหาสั่งฆ่าประชาชน
ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 29 ม.ค. ศาลนัดไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำที่ อ.4176/2552 ที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. และจำเลยคดีก่อการร้าย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
จากกรณี เมื่อวันที่ 11และ วันที่ 17 ต.ค. 2552 เวลากลางวันและกลางคืน ต่อเนื่องกัน จำเลย ได้กล่าวปราศรัยให้ประชาชนทั่วไปที่ฟังและชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์พีเพิล แชนเนล เข้าใจว่า โจทก์เป็นอาชญากรสั่งฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น สร้างสถานการณ์ฯ คำปราศรัยของจำเลยเป็นความเท็จทั้งสิ้น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง
เหตุเกิดที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร และหน้าทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ และทุกแขวงทุกเขต ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332
โดยเมื่อถึงเวลา นายจตุพร จำเลยและทีมทนายความเดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายโจทก์ ได้มอบอำนาจให้นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ เป็นผู้เจรจาแทน
ทั้งนี้ นายจตุพร ได้แถลงต่อศาลว่า มีความประสงค์จะเจรจาประนอมข้อพิพาท โดยเสนอว่า จะออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะลักษณะขอถอนคำพูดหมิ่นประมาทในลักษณะการอภิปรายในการประชุมสภา และปรับความเข้าใจกับโจทก์ ส่วนในรายละเอียดจำเลยขอเชิญโจทก์มาศาลในนัดหน้า เพื่อเจรจาประนอมข้อพิพาท หากไม่สามารถตกลงกันได้ จำเลยพร้อมที่จะอ้างตนเองเป็นพยานเพียงปากเดียว
ขณะที่ฝ่ายโจทก์แถลงว่า โจทก์เสนอให้จำเลย แถลงต่อสาธารณะว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริงและกล่าวคำขอโทษ รวมทั้งจำเลยจะไม่กล่าวในลักษณะที่ปรากฏในฟ้องอีก โดยโจทก์ตกลงจะเดินทางมาด้วยตนเองในนัดหน้าเพื่อเจรจาข้อพิพาท
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คู่ความประสงค์จะเจรจาประนอมข้อพิพาทกัน หากสามารถตกลงกันได้จะเป็นประโยชน์แก่คู่ความ เห็นควรให้เลื่อนนัดไกล่เกลี่ยไปอีกครั้งในวันที่ 8 มี.ค. นี้ เวลา9.30น. โดยจะยกเลิกนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่30 ม.ค.ออกไป
นายจตุพรกล่าวภายหลังว่า ทางศาลเองมีความต้องการให้เกิดบรรยากาศของการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย เพราะระหว่างตนและนายอภิสิทธิ์มีคดีฟ้องร้องกันถึง 4 คดี และคดีนี้เนื้อหาก็คล้ายคลึงกับคดีเดิม ต่างฝ่ายต่างมีข้อเสนอ ถ้าวันที่ 8 มี.ค.ตกลงกันไม่ได้ ตนจะเป็นพยานฝ่ายจำเลยเพียงปากเดียว ส่วนข้อเสนอที่โจทก์ต้องการให้ขอโทษและให้ตนบอกว่าสิ่งที่กล่าวไม่เป็นความจริงนั้น คงเป็นไปได้ และศาลก็ให้แนวทางว่า ทั้งตนและนายอภิสิทธิ์ต้องมีที่ยืนทั้งคู่ ประเด็นนี้จึงยังไม่มีการพิจารณาต้องหาทางพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในนัดหน้า ถ้าตกลงกันได้ก็เป็นอันยุติคดี