แม่ชาวสวิสตั้งทนายประกันลูกสาวถูกขังคุกระนองคดีลักทรัพย์ หลังเที่ยวไทยแล้วหายตัว

แม่ชาวสวิสตั้งทนายประกันลูกสาวถูกขังคุกระนองคดีลักทรัพย์ หลังเที่ยวไทยแล้วหายตัว

 จากกรณีหญิงสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ประกาศตามหาน.ส.จานิส เชอริน่า โนร่า ลูกสาววัย 22 ปี ที่หายตัวไปในเว็บไซต์ หลังเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยและขาดการติดต่อไปตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.55 จึงเกรงว่าอาจได้รับอันตราย กระทั่งพบว่า น.ส.จานิสถูกกักตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดระนอง ในข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืนหรือรับของโจร เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการสิ้นสุด หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง จับกุมน.ส.จานิส เพราะก่อเหตุขโมยกล้องถ่ายรูปยี่ห้อแคนนอน รุ่นเพาเวอร์ เอ 640 ของเจ้าหน้าที่ โดยซุกซ่อนไว้ที่กางเกงขาสั้นด้านหน้าข้างซ้าย ของเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา

 จากนั้น น.ส.จานิสพยายามติดต่อกับสถานทูต เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของภาษา ทำให้ น.ส.จานิสยังถูกคุมขังและไม่ได้รับการช่วยเหลือ จนกระทั่งเป็นข่าวดังในสื่อออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดระนอง จึงได้ประสานไปยังสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์และทางสถานทูตได้ให้การช่วยเหลือ โดยการส่งเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และญาติแต่งตั้งทนายเพื่อมาประกันตัวแล้ว หลังจากถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดระนอง

 ส่วนมารดาของน.ส.จานิส เดินทางมาที่ จ.ระนอง เมื่อวันที่ 22 ม.ค.56 ได้แต่งตั้งทนายเพื่อยื่นขอประกันตัวน.ส.จานิส ด้วยวงเงิน 300,000 บาท แต่ติดขัดที่ยังขาดหนังสือรับรองหนังสือรับรองจากทางมหาวิทยาลัยซูริค ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อยืนยันว่า น.ส.จานิสกำลังศึกษาอยู่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกันตัว

 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปทาง จนท.ตำรวจ ด้านพ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผบก.ภ.จว.ระนอง เปิดเผยว่า การดำเนินคดีกับ น.ส.จานิส เจ้าหน้าที่มีหลักฐานจากภาพวงจรปิด ขณะลักทรัพย์เจ้าหน้าที่ จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ตม. และสถานทูตแล้ว หลังจาก น.ส.จานิส ถูกจับกุมดำเนินคดี ยันเจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย

 ความคืบหน้า วันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา นางอลิซเบธ เชอริน่า โนรา มารดาและน.ส.รอร่า ซึ่งเป็นน้าสาวของน.ส.จานิส เชอริน่า โนรา ที่เดินทางจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาที่  จ.ระนอง พร้อมทนาย ได้ยื่นขอประกันตัวน.ส.จานิส แล้วในชั้นศาลด้วยวงเงิน 300,000 บาท โดยศาลจังหวัดระนอง ได้มีคำสั่งห้าม น.ส.จานิส เชอริน่า โนรา เดินทางออกนอกประเทศไทยและจะต้องมารายงานตัวต่อศาลจังหวัดระนองทุกๆ 30 วัน จนกว่าจะมีคำพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าว

 ด้านนางอลิซเบธ เชอริน่า โนรา มารดา เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวเป็นอย่างมากที่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขื้นและคิดว่าสื่ออาจจะนำเสนอข่าวลูกสาวของตนไปในทางที่ไม่ดีจนไม่กล้าที่จะให้สื่อพบเพื่อนำเสนอข่าว

แต่หลังจากที่ได้มาพักอยู่ที่จังหวัดระนองอยู่ 2 วัน เพื่อยื่นขอประกันตัวลูกสาวต่อศาลจังหวัดระนองก็ได้ทางตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดระนองคอยช่วยเหลือติดตามนำไปติดต่อประสานกับทางหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องตลอดเวลารวมถึงสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์และที่พักทั้ง 2 วัน ทำให้มีความรู้สึกว่าทั้งเจ้าหน้าที่และสื่อไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ครอบครัวของตนเสื่อมเสีย แต่คิดว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดอะไรกันบางอย่างกับเจ้าหน้าที่ในการสื่อสารจนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

เนื่องจากขณะเกิดเหตุ น.ส.จานิส ซึ่งตกเป็นจำเลยไม่มีพยานเลย เนื่องจากเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกและตามลำพังคนเดียว โดยให้เหตุผลว่าล่ามที่ใช้แปลในวันที่เกิดเหตุก็เป็นล่ามชาวพม่า ทำให้การสื่อสารค่อนข้างลำบาก ก็อยากจะวิงวอนต่อศาลให้ความยุติธรรมต่อ น.ส.จานิส ด้วย

 ส่วนทางการดำเนินคดีกับ น.ส.จานิส เจ้าหน้าตำรวจยัน  มีหลักฐานจากภาพวงจรปิด ขณะลักทรัพย์ จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย