หุ้น “แอปเปิ้ล” ดิ่งอีกหลังยอดขาย “ไอโฟน -ไอแพด” ไม่เข้าเป้า
วันนี้ ( 24 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซาน ฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ราคาหุ้นของบริษัท แอปเปิ้ล ดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวันพุธ แม้ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตสินค้าเทคโนโลยีของโลกจากสหรัฐจะประกาศผลกำไร จากการจำหน่ายสินค้ายอดนิยมอย่างไอโฟนและไอแพด แต่เมื่อมองในรายละเอียดกลับพบว่า ผลออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายทิม คุก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของแอปเปิ้ล แถลงว่า ผลประกอบการสุทธิของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. อยู่ที่ 54.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทสามารถจำหน่ายไอโฟนทุกรุ่นรวมกันได้กว่า 47.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ส่วนยอดการจำหน่ายไอแพดทุกรุ่นอยู่ที่กว่า 22.9 ล้านเครื่อง
แม้คุกจะยืนยันว่า เป้าหมายหลักของบริษัทในตอนนี้ อยู่ที่การทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจมากที่สุดเท่านั้น แต่บรรดานักลงทุน รวมถึงวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจกลับมองว่า ตัวเลขที่ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง
เนื่องจากมีรายงานประเมินออกมาก่อนหน้านี้ว่า ยอดจำหน่ายไอโฟนจะอยู่ที่กว่า 53 ล้านเครื่องทั่วโลก และกว่า 24.5 ล้านเครื่องสำหรับไอแพด ส่งผลให้หุ้นของแอปเปิ้ลตกลง 8.5% มาปิดอยู่ที่ 470.30 ดอลลาร์สหรัฐ หลังการปิดตลาดซื้อ-ขายเมื่อวันพุธ หรือกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่แล้ว ซึ่งราคาหุ้นของแอปเปิ้ลทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 700 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นของแอปเปิ้ลตกลงอย่างต่อเนื่อง อาจมาจากการที่ไอโฟน 5 เปิดตัวได้ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควรในจีน จนมีรายงานหลายกระแสออกมาว่า แอปเปิ้ลต้องยกเลิกการสั่งผลิตส่วนประกอบสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดนี้จำนวนมาก