นิติกรศาลฎีกาเมากร่างใช้ปืนตบวินจยย.

นิติกรศาลฎีกาเมากร่างใช้ปืนตบวินจยย.

นิติกรอำนวยการประจำศาลฎีกา เมาซ่าควักปืนตบหน้าวินจักรยานยนต์ ปากซอยรามคำแหง 24 เลือดอาบ ฉุนแทนเพื่อนที่ถูกผู้เสียหายต่อว่าให้จอดรถอย่าเกะกะขวางถนน โปลิศหัวหมากช่วยเหยื่ออีกคนจากวงล้อมได้ทัน แถมกร่างจะสั่งย้ายตำรวจทั้งโรงพัก 

                  พ.ต.ท.อุดรชัย ขุนพินิจ สวป.สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธที่ปากซอยรามคำแหง 24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จึงนำกำลังไประงับเหตุ พบกลุ่มคนร้าย 3 คน พกอาวุธปืน กำลังจะรุมทำร้ายร่างกายนายปรัชญา รู้หลัก อายุ 19 ปี วินจยย.ซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเข้าล้อมแล้วบังคับให้กลุ่มคนร้ายวางอาวุธ ก่อนจะช่วยเหลือนายปรัชญาออกมาได้ จากนั้นก็ควบคุมตัวกลุ่มคนร้ายทั้งหมดมาที่ สน.ทันที ทั้งนี้ทราบว่า ยังมีผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งรายที่ถูกทำร้ายก่อนหน้านี้ ได้ถูกนำตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายอนุชา ห่วงพิมล อายุ 25 ปี ถูกอาวุธปืนตบเข้าที่หน้า คิ้วซ้ายแตก ปากฉีก ฟันหัก หน้าช้ำ


              พ.ต.ท.อุดรชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายที่ถูกควบคุมตัวมีทั้งหมด 3 คนคือ นายสมปอง คำอ่อน อายุ 31 ปี ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการสำนักอำนวยการประจำศาลฎีกา มีของกลางคือ อาวุธปืนขนาด 11 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน 16 นัด นายอัฐพล เพ็ญภูเวียง อายุ 25 ปี และนายรชต กลิ่นสว่าง อายุ 33 ปี ซึ่งมีของกลางคือ อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุน 2 นัด โดยทั้งนายอัฐพลและนายรชต มีอาชีพขี่วิน จยย.ในซอยเกิดเหตุ


             โดย นายอนุชา ผู้เสียหาย ให้การว่า ตนขี่วินจยย.ซอยจุดเกิดเหตุ ได้รู้จักกับนายอัฐพลและนายรชต เพราะขี่วินเดียวกัน ก่อนหน้านี้ได้ทะเลาะกับทั้งสอง ในเรื่องการจอดรถ จยย.ที่ทั้งคู่ชอบจอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง ทำให้รถที่สัญจรผ่านไปผ่านมาในถนนรามคำแหงต้องคอยหลบรถ จยย.ที่จอดไม่เป็นระเบียบ เป็นเหตุให้การจราจรติดขัด โดยได้ตักเตือนหลายครั้ง จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุ ขณะกำลังขี่วินอยู่ กลุ่มผู้ต้องหานั่งดื่มเหล้าอยู่ใกล้เคียง จากนั้นไม่นาน นายสมปอง ซึ่งตนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เดินเข้ามาหาลักษณะมึนเมา ก่อนจะควักปืนออกมาตบเข้าที่หน้าตนหลายครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เพื่อนจะพาตัวส่งรพ. ส่วน นายปรัชญา ก็ถูกขู่ด้วยอาวุธปืนและกลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมให้หลบหนี จนมีเพื่อนในวินเห็นท่าไม่ดีรีบไปแจ้งตำรวจให้มาช่วยระงับเหตุและพาตัวนายปรัชญาออกมาจากวงล้อมได้


             เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บ แต่นายสมปองยอมรับว่าปืนดังกล่าวเป็นของตน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย พกพาอาวุธปืน และกักขังหน่วงเหนี่ยวบังคับจิตใจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตำรวจไประงับเหตุ นายสมปอง ได้พูดจาอวดอ้างว่าเป็นอัยการ หากถูกจับไปก็ต้องปล่อย พร้อมทั้งขู่ว่าจะย้ายตำรวจ สน.หัวหมากทั้ง สน.อีกด้วย


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์