รวบทีมฆ่าหนุ่มลีซอแฉเมียจ้างรบพิเศษอุ้มฆ่า
จากกรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 27 ต.ค.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สันทราย ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต นำศพโยนทิ้งไว้ริมถนนสายคันคลองชลประทาน หมู่ 12 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ห่างจาก สภ.ดอยสะเก็ดเพียง 100 เมตร จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายคือนายสมชาย เถอะจา อายุ 36 ปีชาวเขาเผ่าลีซอ อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 10 ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัดลำตัว 5 นัด ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 8 บาทพระเหลี่ยมทอง และเงินสดภายในตัวผู้ตายยังอยู่ครบ
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ไปกินข้าวกับคนของตระกูลเล่ายี่ปา ซึ่งเป็นตระกูลดังในพื้นที่ อ.เชียงดาว ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของผู้ตายและเป็นเจ้าของหมู่บ้านหรู ขนาดใหญ่ใน อ.สันทราย หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จะเดินทางกลับที่พักในถนนสายสันทราย และมีคนร้ายขับรถปาดหน้ารถของผู้ตาย แล้วลงมาอุ้ม นายสมชาย หายตัวไปก่อนกลายเป็นศพดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้( 16 ม.ค.) พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว น.ส.นิตยา จิรญานิธิกุล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/9 หมู่ 5 ต.สันป่าเปา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ อดีตภรรยาของนายสมชาย ผู้ตาย นายณัฐชัย เผือกสงค์ อายุ 47 ปีอยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 16 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายธนรัตน รัตนสุภา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/19 หมู่ 1 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี จ.กำแพงเพชร และจ.ส.อ.ธนาชัย เสือเปรม อายุ 52 ปีอยู่บ้านเลขที่ 168/14 หมู่ 2 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทหารสังกัดกรมรบพิเศษเชียงใหม่ พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ในข้อหา"ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน และไม่มีใบอนุญาตพกพา" ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ
พล.ต.ท.สุเทพ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุที่มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนอุ้มฆ่านายสมชาย เถอะจา ทางศูนย์สืบสวนภาค 5 ก็ได้ร่วมกันตำรวจสืบสวนจังหวัด และท้องที่ออกติดตามสืบหาคนร้ายโดยเราทราบข้อมูลว่าเดิมนายสมชาย นั้นเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศถูกจับและถูกศาลตัดสินจำคุก 25 ปีและได้ลดโทษเหลือเพียง 12 ปีพึ่งออกจากเรือนจำคลองเปรมมาเมื่อกลางปี 2555 และกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่ ในอดีตนายสมชาย เป็นคนร่ำรวยมากและค้ายาเสพติดรายใหญ่ก่อนติดคุกและพึ่งออกมาก็กลับมาอยู่น.ส.นิตยา แต่ต่อมาก็ถูกอุ้มฆ่า คนร้ายนำศพไปโยนทิ้งใกล้กับสภ.ดอยสะเก็ด ซึ่งจากการสอบสวนเราก็ได้พยานบุคคลที่ทราบว่า น.ส.นิตยา เป็นคนไปติดต่อกลุ่มมือปืน ให้มาทำการอุ้มฆ่าอดีตสามีตัวเอง ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับและสามารถติดตามจับกุมได้ครบแก๊ง ซึ่งชุดอุ้มฆ่าชุดนี้หัวหน้าชุดคือจ.ส.อ.ธนาชัย เสือเปรม หรือจ่าเสือ ที่เราจับได้ในอดีตเคยก่อเหตุยิงนายอำนาจ จงยศยิ่ง นักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นชื่อดัง เจ้าของนักสื่อพิมพ์ภาคเหนือรายวัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านน.ส. นิตยา ผู้ต้องหาอดีตภรรยาผู้ตายให้การว่า เมื่อนายสมชาย ออกจากเรือนจำก็ข่มขู่รีดไถเงินไปใช้จำนวนมากและชอบทำร้ายร่างกายและขู่จะฆ่าตัวเองหลายครั้ง ตนทนไม่ได้จึงได้ว่าจ้าง จ.ส.อ.ธนาชัย หรือจ่าเสือ จำนวน 200,000 บาทให้ทำการอุ้มฆ่าโดยในคืนเกิดเหตุตนเองทำทีขับรถไปในทางเปลี่ยว และให้ชุดอุ้มฆ่าขับรถปาดหน้าและอุ้มนายสมชาย ไปยิงทิ้งส่วนตัวเองแกล้งรออยู่ที่รถและแจ้งความว่าอดีตสามีถูกคนร้ายอุ้มไป แต่ก็ถูกตำรวจติดตามสืบสวนจับกุมจนได้ สำหรับคนลงมือยิงคือนายณัฐชัย โดยใช้ปืนลูกโม่ยี่ห้อโคลท์ .38 เป็นคนรังยิงจนหมดแม็กก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับปมการสังหารโหดครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานเชื่อว่ามาจากเรื่องเงินเพราะในอดีตนายสมชาย เป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ค้ายาเสพติดแต่ละล็อตได้จำนวนมหาศาลมีเงินจำนวนมาก จนมาถูกจับกุม ไม่มีการยึดทรัพย์สินเงินทั้งหมดถูกเก็บไว้ที่อื่น ต่อมา น.ส.นิตยา ได้สร้างหมู่บ้านมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาทเป็นหมู่บ้านหรู และระหว่างนั้นก็ไปเยี่ยมนายสมชาย ที่เรือนจำบ่อยครั้ง พอนายสมชาย ออกมาก็มาตามทวงเอาเงินจำนวนมหาศาลที่ถูกซ่อนไว้ แต่ก็ถูกอุ้มฆ่า
ซึ่งในเรื่องทาง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบที่มาที่ไปเกี่ยวกับเงินของ น.ส. นิตยา และทรัพย์สินทั้งหมดแล้วว่าที่มีอยู่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่หากไม่มีที่มาที่ไป ก็จะทำการยึดทรัพย์ตามพรบ.ฟอกเงินต่อไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการณ์ไว้ว่าทรัพย์สินของทั้งสองคนรวมกันน่าจะมีมากกว่า 1,000 ล้านบาท