ม็อบทหารบุกประท้วงเอเอสทีวีผู้จัดการ-จวกเขียนข่าวเสี้ยมโจมตีผบ.ทบ. บั่นทอนทหาร-ลูกสุรยุทธ์โผล่คุม!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ม็อบทหารบุกประท้วงเอเอสทีวีผู้จัดการ-จวกเขียนข่าวเสี้ยมโจมตีผบ.ทบ. บั่นทอนทหาร-ลูกสุรยุทธ์โผล่คุม!
วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ ถ.พระอาทิตย์ ย่านบางลำภู เขตพระนคร กทม.
ซึ่งเป็นที่ตั้งสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการและบริษัทไทยเดย์ ดอท คอม ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปรากฎว่า มีทหารประมาณ 50 นาย เดินทางไปประท้วงบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. อย่างรุนแรง
จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการ นายทหารประจำกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยา กองทัพภาคที่ 1 พร้อมนายทหารกว่า 50 นายได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าบ้านพระอาทิตย์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการเสนอข่าวใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก โดยทางหนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้ส่งน.ส.กมลพร ร่มทองคำ พิธีกรเอเอสทีวีมาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยจ.ส.อ.อนุชิต กล่าวว่า เนื่องจากผู้บัญชาการทหารบกเปรียบเสมือนหัวใจของกองทัพบก ดังนั้นการที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเสนอถ้อยคำรุนแรงถือว่า กระทบต่อความรู้สึกของทหาร เพราะใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ
“ไม่คิดว่า จะเขียนได้ขนาดนี้ เห็นแล้วสะเทือนในหัวใจของพวกเราทุกคน แบบนี้ไม่เหมาะสม ควรเห็นใจพวกเราทุกคน พวกเรามาถามว่า ทำอย่างนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร เรามาเพื่อจะได้ระบายออกบ้าง เพราะบางคนก็รู้สึกโมโหและโกรธ ขอให้ผู้จัดการอย่าทำหน้าที่บนความเดือดร้อนของผู้อื่น ขอให้เขียนข่าวบนความสร้างสรรค์ ขอให้หยุดแค่ตรงนี้ อย่ามากไปกว่านี้ ซึ่งกลุ่มของผมเป็นการรวมขึ้นมาของทหารที่อยู่ในภายในกรุงเทพ เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย เพราะทุกคนมีความรู้สึกเจ็บปวด การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกทางความคิดเห็นหลังเวลาราชการ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้บัญชาการทหารบก และไม่มีผู้บังคับบัญชาคนใดมาสั่งการ ขอให้เห็นใจของทหารที่กำลังทำงานบริเวณชายแดนอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มของผมจะคอยดูว่า หนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่จะตีพิมพ์ในวันพรุ่งนี้อย่างไร หากยังใช้ถ้อยคำรุนแรงอีกก็อาจจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป”จ.ส.อ.อนุชิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ทางสำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้โทรศัพท์ไปยังผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี ขอร้อไม่ให้เดินทางมาทำข่าวในกองบัญชาการกองทัพบกในวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 12ม.ค.นี้ พร้อมกับขอรูปผู้สื่อข่าวประจำกองทัพบกไปดูว่า ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีคือ คนใด
วันเดียวกัน พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ผบ.พล.ร.11) กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.จนส่งผลให้กำลังพลในกองทัพบกไม่พอใจว่า เรื่องนี้ผู้จัดการควรหยุดการหมิ่นผู้บังคับบัญชาหรือ ผบ.ทบ.ได้แล้ว เพราะที่ผ่านมา ผบ.ทบ.อดทนมานานพอสมควรต่อการโจมตีของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งการสัมภาษณ์ของผบ.ทบ.ท่านคงทนไม่ได้จริงๆ เพราะมีการกล่าวโจมตีและใช้ถ้อยคำรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดแรงมากระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ห่วย” พวกเราทนไม่ได้ โดยเฉพาะตนที่เป็นทหารอาชีพเมื่อผู้บังคับบัญชาถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี เราก็ต้องออกมาปกป้องผบ.ทบ.เนื่องจากเราเป็นองค์ที่ดูแลความมั่นคงของชาติ หากถูกดูหมิ่นในเกียรติและศักดิ์ศรีต่อไปจะไม่เหลืออะไร ดังนั้นถือว่าผู้จัดการเป็นหนังสือพิมพ์ที่ถ่อยสถุล ไม่ควรซื้ออ่าน และต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่มีนายทหารออกมาแสงดจุดยืนไม่เห็นด้วยที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า ขณะนี้กองทัพบกกำดำเนินการตรวจสอบอยู่ และไม่ทราบว่าเป็นหน่วยใดที่ออกมา อยากขอให้กำลังพลทุกคนอดทนอย่าไปหลงตามสิ่งยั่วยุ ตนอยู่กับ ผบ.ทบ.มา ยอมรับว่าท่านมีความอดทนสูงมาก คิดว่าผบ.ทบ.ทราบเรื่องนี้แล้ว
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ผบ.ทบ.ได้รับทราบ และแสดงความเป็นห่วง พร้อมกำชับไปยังผู้บังคับหน่วยให้นำกำลังพลกลับเข้ากรม กอง ซึ่งผบ.ทบ.มีความเข้าใจดีต่อความรู้สึกของกำลังพลที่สามารถไปแสดงความรู้สึกตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ล่วงละเมิดสิทธิ์และกฎหมาย ขอให้กำลังพลใจเย็นๆ และอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือล่วงละเมิดสิทธิ์ของกฎหมาย
พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผู้จัดการเป็นปฏิปักษ์กับทหารหลังจากเกิดคดีลอบสังหาร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเข้าใจผิด เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นมักจะโทษทหารไว้ก่อน แต่มาตอนนี้โกรธทหารเพราะต้องการใช้ทหารเป็นเครื่องมือ แต่ทหารเราไม่เอาด้วย เพราะกองทัพจะต้องกลไกของรัฐบาล ไม่ว่า จะเป็นรัฐบาลใดก็ตามที่มาถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามการออกมาแสดงความรู้สึกในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะที่ผ่านมาเคยปกป้อง ผบ.ทบ.ในอดีตมาแล้ว ถือว่าเราต้องปกป้องเพื่อศักดิ์ศรีของกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้เรื่องในเรื่องนี้ ตนออกมาพูดส่วนตัว ซึ่งเชื่อว่ามีทหารในกองทัพบกอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความรู้สึกเช่นนี้ แต่ใครจะมาเคลื่อนไหวหรือไม่อย่างไรเป็นสิทธิ์ของแต่ละหน่วย
“ผมไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆทั้งสิ้น และผมไม่แคร์ว่าจะถูกโจมตีแค่ไหนเพราะที่ผ่านมา ผมก็ถูกโจมตีมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ฉะนั้นผมไม่มีอะไรจะเสีย แต่เพื่อเป็นการปกป้องผบ.ทบ ปกป้องกองทัพบกผมจึงต้องออกมาแดสงความรู้สึกในครั้งนี้ และผมไม่ได้หวังตำแหน่งหรืออยากดัง เพราะผมอยู่ในตำแหน่ง ผบ.พล.ร.11 อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่กำลังพลของกองทัพภาคที่ 1 ออกมาบุกสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับผม เพราะตนไม่ได้อยู่กองทัพภาคที่ 1 แต่เพราะทหารคงมีความรู้สึกเช่นเดียวกันที่ต้องปกป้องผู้บังคับบัญชา” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์@WassanaNanuamข องวาสนานาน่วมผู้สื่อข่าวสายทหาร น.ส.พ.บางกอกโพสต์ รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ โดยทวีตแจ้งว่า ทบ.สั่งห้าม ผู้จัดการ เข้าทำข่าวในทบ. ตั้งแต่เสาร์นี้ งานวันเด็ก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ขอรูปนักข่าวASTVผู้จัดการ มาดูหน้า , มีรายงานว่าทหารมาจากกองพัน ปจว. ทัพ1 และ มทบ.11ทั้ง ร้อยเอก จ่า. นายสิบ. ทหารเกณฑ์. แต่คนเป็น ผบ.หน่วยนี้น่าสนใจ , ม็อบประทวน...จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการทัพ1 บอกนำทหาร50คนบุกผจก.ไม่มีใครสั่ง มานอกเวลาราชการ จี้หยุดหมิ่นผบทบ หัวใจกองทัพบก , จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการทัพ1 บอกนำืการ50คนบุกผจก.ไม่มีใครสัาง มานอกเวลาราชการ จี้หยุดหมิ่นผบทบ.
ทวีตของวาสนา ระบุด้วยว่า เสธ.ไก่อู พ.อ.สรรเสริญ เผยพล.อ.ประยุทธ์ ห่วงทหารบุกผู้จัดการ ให้ใจเย็นๆ ทำตามสิทธิ์ประชาธิปไตย แต่อย่าละเมิดสิทธิคนอื่น , อดทนไว้...พล.อ.ดาว์พงษ์ ปฏิเสธ ส่งทหารบุกผู้จัดการ ปกป้อง พล.อ.ประยุทธ ถอนหายใจ เตือนทหาร อดทน อย่าทำตามสิ่งยั่วยุ ยันพล.อ.ประยุทธ์ อดทนสูง , พล.อ.ดาว์พงษ์ ปฏิเสธ ส่งทหารบุกผู้จัดการ ถอนหายใจ เตือนทหาร อดทน อย่าทำตามสิ่งยั่วยุ ยัน พล.อ.ประยุทธ์ อดทนสูง ,
ทวีตระบุอีกว่า พล.ต.อภิรัชต์ ยันไม่เกี่ยว ทหารโผล่หน้าผู้จัดการ เผยเพราะทหารรู้สึกเหมือนกัน. ปกป้อง ผบ ทบ. , ผู้การแดง ลูกบิ๊กจ๊อด ป้องผบทบ.ฮึ่มด่า "ผู้จัดการ"ปัดส่งสัญญาณให้ทหารตบเท้า บิ๊กตู่ไม่รู้เห็น ทำส่วนตัว หน่วยไหนจะปกป้อง ก็เป็นสิทธิ์ , ผู้การแดง ลูกบิ๊กจ๊อดผบ.พล.ร.11นำแถวป้องผบทบ.ฮึ่มด่า"ผู้จัดการ"ถ่อย สถุน"พร้อมถูกด่า ไม่หวังตำแหนง หรืออยากดัง บอกหวังใช่ทหารเป็นเครื่องมือ , พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.ร.11 ฮึ่มด่า "ผู้จัดการ"ถ่อย สถุน" ด่าผบทบ. ทหารทนไม่ได่ หมิ่นศักดิ์ศรีผบทบ.
อ่านข้อมูลประกอบ : แถลงการณ์เอเอสทีวีผู้จัดการ
จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการ นายทหารประจำกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยา กองทัพภาคที่ 1 พร้อมนายทหารกว่า 50 นายได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าบ้านพระอาทิตย์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการเสนอข่าวใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก โดยทางหนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้ส่งน.ส.กมลพร ร่มทองคำ พิธีกรเอเอสทีวีมาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยจ.ส.อ.อนุชิต กล่าวว่า เนื่องจากผู้บัญชาการทหารบกเปรียบเสมือนหัวใจของกองทัพบก ดังนั้นการที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเสนอถ้อยคำรุนแรงถือว่า กระทบต่อความรู้สึกของทหาร เพราะใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ
“ไม่คิดว่า จะเขียนได้ขนาดนี้ เห็นแล้วสะเทือนในหัวใจของพวกเราทุกคน แบบนี้ไม่เหมาะสม ควรเห็นใจพวกเราทุกคน พวกเรามาถามว่า ทำอย่างนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร เรามาเพื่อจะได้ระบายออกบ้าง เพราะบางคนก็รู้สึกโมโหและโกรธ ขอให้ผู้จัดการอย่าทำหน้าที่บนความเดือดร้อนของผู้อื่น ขอให้เขียนข่าวบนความสร้างสรรค์ ขอให้หยุดแค่ตรงนี้ อย่ามากไปกว่านี้ ซึ่งกลุ่มของผมเป็นการรวมขึ้นมาของทหารที่อยู่ในภายในกรุงเทพ เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย เพราะทุกคนมีความรู้สึกเจ็บปวด การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกทางความคิดเห็นหลังเวลาราชการ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้บัญชาการทหารบก และไม่มีผู้บังคับบัญชาคนใดมาสั่งการ ขอให้เห็นใจของทหารที่กำลังทำงานบริเวณชายแดนอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มของผมจะคอยดูว่า หนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่จะตีพิมพ์ในวันพรุ่งนี้อย่างไร หากยังใช้ถ้อยคำรุนแรงอีกก็อาจจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป”จ.ส.อ.อนุชิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ทางสำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้โทรศัพท์ไปยังผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี ขอร้อไม่ให้เดินทางมาทำข่าวในกองบัญชาการกองทัพบกในวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 12ม.ค.นี้ พร้อมกับขอรูปผู้สื่อข่าวประจำกองทัพบกไปดูว่า ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีคือ คนใด
วันเดียวกัน พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ผบ.พล.ร.11) กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.จนส่งผลให้กำลังพลในกองทัพบกไม่พอใจว่า เรื่องนี้ผู้จัดการควรหยุดการหมิ่นผู้บังคับบัญชาหรือ ผบ.ทบ.ได้แล้ว เพราะที่ผ่านมา ผบ.ทบ.อดทนมานานพอสมควรต่อการโจมตีของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งการสัมภาษณ์ของผบ.ทบ.ท่านคงทนไม่ได้จริงๆ เพราะมีการกล่าวโจมตีและใช้ถ้อยคำรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดแรงมากระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ห่วย” พวกเราทนไม่ได้ โดยเฉพาะตนที่เป็นทหารอาชีพเมื่อผู้บังคับบัญชาถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี เราก็ต้องออกมาปกป้องผบ.ทบ.เนื่องจากเราเป็นองค์ที่ดูแลความมั่นคงของชาติ หากถูกดูหมิ่นในเกียรติและศักดิ์ศรีต่อไปจะไม่เหลืออะไร ดังนั้นถือว่าผู้จัดการเป็นหนังสือพิมพ์ที่ถ่อยสถุล ไม่ควรซื้ออ่าน และต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่มีนายทหารออกมาแสงดจุดยืนไม่เห็นด้วยที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า ขณะนี้กองทัพบกกำดำเนินการตรวจสอบอยู่ และไม่ทราบว่าเป็นหน่วยใดที่ออกมา อยากขอให้กำลังพลทุกคนอดทนอย่าไปหลงตามสิ่งยั่วยุ ตนอยู่กับ ผบ.ทบ.มา ยอมรับว่าท่านมีความอดทนสูงมาก คิดว่าผบ.ทบ.ทราบเรื่องนี้แล้ว
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ผบ.ทบ.ได้รับทราบ และแสดงความเป็นห่วง พร้อมกำชับไปยังผู้บังคับหน่วยให้นำกำลังพลกลับเข้ากรม กอง ซึ่งผบ.ทบ.มีความเข้าใจดีต่อความรู้สึกของกำลังพลที่สามารถไปแสดงความรู้สึกตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ล่วงละเมิดสิทธิ์และกฎหมาย ขอให้กำลังพลใจเย็นๆ และอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือล่วงละเมิดสิทธิ์ของกฎหมาย
พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผู้จัดการเป็นปฏิปักษ์กับทหารหลังจากเกิดคดีลอบสังหาร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความเข้าใจผิด เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นมักจะโทษทหารไว้ก่อน แต่มาตอนนี้โกรธทหารเพราะต้องการใช้ทหารเป็นเครื่องมือ แต่ทหารเราไม่เอาด้วย เพราะกองทัพจะต้องกลไกของรัฐบาล ไม่ว่า จะเป็นรัฐบาลใดก็ตามที่มาถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามการออกมาแสดงความรู้สึกในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะที่ผ่านมาเคยปกป้อง ผบ.ทบ.ในอดีตมาแล้ว ถือว่าเราต้องปกป้องเพื่อศักดิ์ศรีของกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้เรื่องในเรื่องนี้ ตนออกมาพูดส่วนตัว ซึ่งเชื่อว่ามีทหารในกองทัพบกอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความรู้สึกเช่นนี้ แต่ใครจะมาเคลื่อนไหวหรือไม่อย่างไรเป็นสิทธิ์ของแต่ละหน่วย
“ผมไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆทั้งสิ้น และผมไม่แคร์ว่าจะถูกโจมตีแค่ไหนเพราะที่ผ่านมา ผมก็ถูกโจมตีมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ฉะนั้นผมไม่มีอะไรจะเสีย แต่เพื่อเป็นการปกป้องผบ.ทบ ปกป้องกองทัพบกผมจึงต้องออกมาแดสงความรู้สึกในครั้งนี้ และผมไม่ได้หวังตำแหน่งหรืออยากดัง เพราะผมอยู่ในตำแหน่ง ผบ.พล.ร.11 อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่กำลังพลของกองทัพภาคที่ 1 ออกมาบุกสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับผม เพราะตนไม่ได้อยู่กองทัพภาคที่ 1 แต่เพราะทหารคงมีความรู้สึกเช่นเดียวกันที่ต้องปกป้องผู้บังคับบัญชา” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์@WassanaNanuamข องวาสนานาน่วมผู้สื่อข่าวสายทหาร น.ส.พ.บางกอกโพสต์ รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ โดยทวีตแจ้งว่า ทบ.สั่งห้าม ผู้จัดการ เข้าทำข่าวในทบ. ตั้งแต่เสาร์นี้ งานวันเด็ก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ขอรูปนักข่าวASTVผู้จัดการ มาดูหน้า , มีรายงานว่าทหารมาจากกองพัน ปจว. ทัพ1 และ มทบ.11ทั้ง ร้อยเอก จ่า. นายสิบ. ทหารเกณฑ์. แต่คนเป็น ผบ.หน่วยนี้น่าสนใจ , ม็อบประทวน...จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการทัพ1 บอกนำทหาร50คนบุกผจก.ไม่มีใครสั่ง มานอกเวลาราชการ จี้หยุดหมิ่นผบทบ หัวใจกองทัพบก , จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการทัพ1 บอกนำืการ50คนบุกผจก.ไม่มีใครสัาง มานอกเวลาราชการ จี้หยุดหมิ่นผบทบ.
ทวีตของวาสนา ระบุด้วยว่า เสธ.ไก่อู พ.อ.สรรเสริญ เผยพล.อ.ประยุทธ์ ห่วงทหารบุกผู้จัดการ ให้ใจเย็นๆ ทำตามสิทธิ์ประชาธิปไตย แต่อย่าละเมิดสิทธิคนอื่น , อดทนไว้...พล.อ.ดาว์พงษ์ ปฏิเสธ ส่งทหารบุกผู้จัดการ ปกป้อง พล.อ.ประยุทธ ถอนหายใจ เตือนทหาร อดทน อย่าทำตามสิ่งยั่วยุ ยันพล.อ.ประยุทธ์ อดทนสูง , พล.อ.ดาว์พงษ์ ปฏิเสธ ส่งทหารบุกผู้จัดการ ถอนหายใจ เตือนทหาร อดทน อย่าทำตามสิ่งยั่วยุ ยัน พล.อ.ประยุทธ์ อดทนสูง ,
ทวีตระบุอีกว่า พล.ต.อภิรัชต์ ยันไม่เกี่ยว ทหารโผล่หน้าผู้จัดการ เผยเพราะทหารรู้สึกเหมือนกัน. ปกป้อง ผบ ทบ. , ผู้การแดง ลูกบิ๊กจ๊อด ป้องผบทบ.ฮึ่มด่า "ผู้จัดการ"ปัดส่งสัญญาณให้ทหารตบเท้า บิ๊กตู่ไม่รู้เห็น ทำส่วนตัว หน่วยไหนจะปกป้อง ก็เป็นสิทธิ์ , ผู้การแดง ลูกบิ๊กจ๊อดผบ.พล.ร.11นำแถวป้องผบทบ.ฮึ่มด่า"ผู้จัดการ"ถ่อย สถุน"พร้อมถูกด่า ไม่หวังตำแหนง หรืออยากดัง บอกหวังใช่ทหารเป็นเครื่องมือ , พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.ร.11 ฮึ่มด่า "ผู้จัดการ"ถ่อย สถุน" ด่าผบทบ. ทหารทนไม่ได่ หมิ่นศักดิ์ศรีผบทบ.
อ่านข้อมูลประกอบ : แถลงการณ์เอเอสทีวีผู้จัดการ
เป็นเรื่องน่าสะทกสะท้อนใจยิ่งนักที่นายทหารผู้ยิ่งใหญ่อย่างพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาผู้บัญชาการทหารบกเกิดอาการเหวี่ยงวีนปรี๊ดแตกเจาะจงใส่สื่อมวลชนในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวทั้งหลายที่มีอาการสติแตกพาลคนรอบข้างเวลาฮอร์โมนพุ่งยามปวดท้องประจำเดือน
เมื่อนายทหารท่านนี้รับไม่ได้กับข้อเท็จจริงในการนำเสนอข่าวการปฏิบัติหน้าที่ผบ.ทบ.ของตนที่ล้มเหลวในทุกๆเรื่องโดยไม่สามารถที่จะนำข้อเท็จจริงใดๆมาแสดงผลงานอันเป็นรูปธรรมให้สังคมไทยได้ประจักษ์
แทนที่จะเร่งจัดการจุดอ่อนในเรื่องต่างๆ ให้เข้ารูปเข้ารอยซึ่งประโยชน์ย่อมตกแก่ประเทศชาติเต็มๆ กลับเลือกที่จะบริภาษสื่อที่กล้าเป็นกระจกสะท้อนการทำงานซึ่งเป็นนิสัยเดิมๆ ที่ ผบ.ทบ.คนนี้มักจะทำเป็นประจำคือขู่คำรามใส่สื่อ เพียงแต่คราวนี้คงจะอัดอั้นมากถึงกับระบุชื่อ"ผู้จัดการ"ออกมาอย่างเฉพาะเจาะจงพร้อมด้วยคำนำหน้าว่า"ไอ้"
และน่าหวั่นใจแทนประเทศไทยประชาชนคนไทยและทหารหาญของกองทัพไทยเข้าไปใหญ่กับถ้อยแถลงและพฤติกรรมอันแสดงถึงทัศนคติอันคับแคบ ดูถูกดูแคลน ต่อกระบวนการพิทักษ์รักษาอธิปไตยชาติไทยของภาคประชาชน ราวกับว่าเป็นการคลั่งชาติอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีการศึกษาข้อกฏหมาย และ เป็นชนวนยั่วยุให้เกิดสงคราม ถึงกับประกาศจะเอาผิดกับทหารในกองทัพถ้ามีการพบว่าได้เข้าร่วมในกระบวนการดังกล่าว ซึ่งพลเอกประยุทธ์อ้างว่าผิดกฎหมายซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีกฎหมายข้อไหนในรัฐธรรมนูญระบุเอาไว้ว่าห้ามประชาชนหรือทหารไทยทำการชุมนุมเพื่อรักษาอธิปไตยของไทยในทางตรงข้ามนี่ควรจะเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นทหารและพลเรือน
พลเอกประยุทธ์ประกาศออกมาว่าภาคประชาชนไม่ใช่รัฐบาลจึงไม่มีความจำเป็นต้องฟังข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะและนั่นย่อมหมายรวมไปถึงข้อเสนอแนะจากสื่อมวลชนและนักวิชาการที่นำอาข้อเท็จจริงข้อมูลเชิงลึกแผนที่เปรียบเทียบหลักฐานเขตแดนและคำพิพากษาของศาลโลกข้อได้เปรียบเสียเปรียบของการรักษาอธิปไตยมาตีแผ่ โดยเป็นข้อโต้แย้งที่แม้แต่รัฐบาลก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้
นั่นสะท้อนออกมาอยางชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์มิได้เอาอธิปไตยของชาติเป็นใหญ่หากแต่พร้อมที่จะสนองภาคการเมืองที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ของนักการเมืองพรรคการเมืองและกลุ่มทุนเหนืออธิปไตยของชาติเพียงอย่างเดียว
แน่นอนการรักชาติไม่สามารถผูกขาดไว้คนเดียวได้แต่วิธีรักชาติของผบ.ทบ.ท่านนี้ดังที่ยกมาได้สร้างความน่ากังขากับสังคมไทยยิ่งนักโดยได้อ้างกรณีการวางยุทธศาสตร์รอบเขาพระวิหารที่ผ่านมาว่าได้ขยับปรับกำลังเพื่อให้สองประเทศกล่าวคือไทยและกัมพูชาปลอดภัยไม่ได้มารุกรานต่อกัน
ข้อกล่าวอ้างนี้ตรงกันข้ามกับความจริงที่คนระดับ ผบ.ทบ.อย่างพลเอกประยุทธ์ ผู้เคยผ่านกองกำลังบูรพาที่ดูแลชายแดนฝังตะวันออกไทย-เขมร น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าไทยเราได้เสียส่วนบนของเขาพระวิหารให้แก่เขมรตามคำตัดสินศาลโลก เราไม่เคยล้ำแดนเข้าไปสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือตั้งกำลังทหารในแดนเขมร หากแต่เขมรเป็นฝ่ายล้ำแดนเข้ามาตลอดเวลา ซ้ำร้ายเขมรยังเปิดฉากยิงโจมตีทหารและพลเรือนไทยก่อนขณะที่ทางไทยได้รับคำสั่งให้ตอบโต้นัดต่อนัดเท่านั้น
วันนี้ชาวบ้านที่ภูมิซรอลทุกคนพร้อมลุกขึ้นสู้พร้อมตายในแผ่นดินที่เกิดที่เติบโตที่เก็บเกี่ยวไม่หลีกลี้หนีหน้าไปไหนพากันขุดบังเกอร์รักษาที่มั่นและต้องการการสนับสนุนจากภาคประชาชนทั้งประเทศและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังทหารเพื่อความอุ่นใจความปลอดภัยในทรัพย์สินและสวัสดิภาพแต่การเข้าไปตรวจพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์กลับทำราวกับว่าคนไทยเหล่านี้คืออริราชศัตรูฝั่งตรงข้าม
ทั้งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม แต่ในเรื่องอธิปไตยของชาติก็เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงที่มีกรณีพิพาทอย่างจีนกับญี่ปุ่น จีนกับเวียดนามและฟิลิปปินส์ หรือไกลข้ามมหาสมุทรอย่างอังกฤษและอาร์เจนติน่า ทั้งภาคการเมือง ทหารและประชาชนล้วนเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันคือรักษาอธิปไตยของชาติตน มีแต่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ภาคประชาชนถูกทิ้งให้ปกป้องชาติตามลำพัง ภาคการเมืองพากันลอยตัวและกลับเอนเอียงไปฝั่งเขมร ในขณะที่ทหารไทยล้วนแต่รู้สึกอึดอัดแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อมีแม่ทัพอย่าง ผบ.ทบ.ท่านนี้
ดังนั้นเมื่อพลเอกประยุทธ์ถามว่าสื่อมวลชนในเครือผู้จัดการอย่างเราเอาศักดิ์ศรีอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์ตนก็อยากจะบอกว่าเราเอาศักดิ์ศรีของสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในการปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติราชบัลลังก์และสิทธิของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
การทำหน้าที่สื่อยืนหยัดเพื่อความถูกต้องของพวกเราได้ผ่านการพิสูจน์ทดสอบและเชี่ยวกรำมาแล้วในทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่การถูกปองร้ายการพยายามลอบสังหารอย่างอุกอาจจากผู้เสียประโยชน์หลายฝ่าย หากแต่บททดสอบของพลเอกประยุทธ์นั้นยังมิได้ผ่านการทดสอบเลยสักเรื่อง
ในเรื่องศักดิ์ศรีที่พลเอกประยุทธ์ท่านถือนักถือหนานั้นอยากจะถามท่านกลับไปเหมือนกันว่าศักดิ์ศรีความเป็นผู้นำกองทัพขอท่านอยู่ตรงไหน
-ในเรื่องชายแดนเขมรก็ดังที่ได้กล่าวข้างต้นไปแล้ว
-ในเรื่องภาคใต้จนบัดนี้เรือเหาะตรวจการที่ท่านเป็นผู้อนุมัติส่งซื้อก็ยังบินไม่ได้ซ้ำร้ายเกือบพานักข่าวไปตาย ยังไม่นับรวมถึงเรื่องประสิทธภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ทหารชั้นผู้น้อยต้องนำไปรักษาความสงบและปกป้องสวัสดิภาพของตัวเอง
-ในเรื่องความเป็นธรรมให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาจนบัดนี้ทหารหาญที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการรักษาความสงบเรียบร้อยถูกอาวุธสงครามและการประชาทัณฑ์จากม็อบติดอาวุธที่เผาบ้านเผาเมืองก็ยังคงไม่ได้รับการเหลียวแลซ้ำรายยังต้องตกเป็นจำเลยโดยที่ผู้บังคับบัญชาอย่างพลเอกประยุทธ์ไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ใส่ใจขณะที่คนร้ายเผาบ้านเผาเมืองได้รับการชดเชยเยียวยาเป็นเงินถึงรายละ7ล้านกว่าบาท
-ในเรื่องการพิทักษ์สถาบันที่พลเอกประยุทธ์พยายามสร้างภาพให้สัมภาษณ์เมื่อถึงคราวเรื่องกระทบถึงเบื้องสูงและสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศอย่างกรณีที่รัฐมีคำสั่งห้ามหน่วยงานต่างๆจุดพลุเฉลิมพระเกียรติวันที่5ธันวาฯเมื่อปีกลายก็เงียบเฉยหรือกรณีที่พลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร แบบอ้างถ้วยพระราชทานมอบรางวัลให้นักมวยที่บ่อนมาเก๊าร่วมกับทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ก็นิ่งเฉยปิดปากสนิท ดีแต่ปากดีกับสื่อมวลชนและประชาชนที่ไม่มีอำนาจใดในมือ
-ในเรื่องการวางตัวก็เปลี่ยนภาพจากทหารของพระราชาทหารของประชาชนมาเป็นข้าราชการการเมือง เดินตามนักการเมืองต้อยๆ ให้คนเขาดูถูกและเป็นที่น่าอดสูแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
ที่น่าอดสูที่สุดคือ พลเอกประยุทธ์กลับสำคัญตัวเองผิดว่าตนคือกองทัพ และกองทัพคือตนเอง การเอาแต่ตนเองเป็นที่ตั้งโดยไม่ใส่ใจต่อนายทหารระดับปฏิบัติการนั้น เป็นที่รู้ดีกันทั้งกองทัพ ถ้าไม่มัวแต่หลงอยู่ในคำเยินยอของทหารที่ใกล้ชิดและนักการเมืองแล้วพลเอกประยุทธ์คงจะต้องอกแตกตายหากจะต้องเจอกับโลกความเป็นจริงว่าไม่เป็นที่ต้อนรับของทั้งทหารในระดับปฏิบัติการและทหารชั้นผู้น้อยไม่เป็นที่ศรัทธาและโปรดปรานของประชาชนไม่ว่าจะเป็นสีใดกลุ่มใดแต่อาจกำลังขึ้นหม้อเป็นที่ถูกใจของใครบางคนที่อยู่ดูไบก็เป็นได้
ท้ายสุดนี้เราขอฝากถึงท่านผบ.ทบ.ด้วยว่าถ้าคิดว่าตนเองดีกว่าใครรู้ทุกเรื่องทำไมไม่เห็นจะแก้ไขปัญหาได้สักเรื่องในทางตรงข้ามมีแต่ความล้มเหลวที่สะท้อนกลับมาอย่างเป็นรูปธรรมแทนที่ แล้วยังมาอวดเก่งอวดอำนาจบาตรใหญ่ขู่คำรามแสดงความเจ้ายศเจ้าอย่างผิดที่ผิดเวลาเสียอีก
วันนี้เชื่อว่าไม่ต้องพูดไปเสียงจากสังคมคงจะดังสะท้อนอยู่ในใจทุกคนกันแล้วว่าไอ้ผู้จัดการมันเขียนห่วยหรือไอ้ ผบ.ทบ.ที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชาคนนี้มันห่วยกันแน่!