พานทองแท้ โพสต์เรียกร้องให้ ช่อง3 ออนแอร์ เหนือเมฆ2 ที่เหลือจนจบ ชี้ รบ.ตกเป็นจำเลย!
เมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. วันที่ 8 มกราคม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเรียกร้องให้ ช่อง3 ออกอากาศละครเรื่อง "เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์ โดยระบุว่า
"ผมอยากให้ช่อง3 อนุญาตให้ละคร เหนือเมฆ ออกอากาศตอนที่เหลือจนจบ"
คือความเห็นพานทองแท้ต่อ ปรากฏการณ์ "เหนือเมฆ" ในวงการมายาของเมืองไทยครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนครับว่าไม่เคยดูละครเรื่องนี้ และไม่เคยคิดที่จะเอาเนื้อหาของละคร ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมาวิจารณ์เลย เพราะในชีวิตจริงแค่ดูละครการเมืองเรื่อง"ประชาธิปัตย์" เพียงอย่างเดียวก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วครับ แต่แฟนเพจหลายท่านหลังไมค์หน้าไมค์มาว่า อยากฟังความเห็นส่วนตัวว่ามองอย่างไรกับเรื่องนี้
ถ้าจะให้พูดถึง ผมต้องขอยกเอาคำพูดของ Voltaire นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ที่ได้พูดไว้เมื่อ3ร้อยปีที่แล้ว มาเป็นกรอบในการวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นดังนี้...
"Though I disagree with everything you say, I will defend to the death your right to say it."
แปลเป็นไทยว่า
"ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งที่คุณพูด, แต่ฉันก็จะปกป้องด้วยชีวิต ในสิทธิของคุณ ที่จะพูดถึงมัน"
ในแง่มุมที่ผมไม่เห็นด้วยถึงแม้ผมจะไม่เคยได้ดูละครเรื่องนี้ แต่เท่าที่ให้ทีมงานตรวจสอบดูในเบื้องต้นพบว่า.... (ถ้าไม่ตรง100%ต้องกราบขออภัยนะครับ เป็นการสรุปเนื้อเรื่องทั้งสิบกว่าตอน ไม่มีเวลาได้ดูเองครับ)
ในเนื้อของละครเป็นเรื่องเกี่ยวกับ นักธุรกิจที่เติบโตมาจากการสัมปทานดาวเทียม เมื่อเข้ามาเป็นนักการเมืองก็มีเรื่องทุจริตโกงกิน ในที่สุดก็ต้องชดใช้กรรมด้วยการถูกM79ยิงตาย ขณะที่มางานเปิดสถานีสื่อสารมวลชนที่ลูกของตนเป็นเจ้าของ ตัวละครก็มีทั้งชื่อ เพชร.."แท้" ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีฯ "แพร"..ไพลิน ซึ่งเป็นลูกสาวของนักธุรกิจเครือข่ายสื่อสารยักษ์ใหญ่ของไทย ขาดก็แต่ถ้าพลอตเรื่องมีชื่อ "พิณ......." อะไรซักอย่าง มาดูแลธุรกิจอสังหาฯของตระกูลบ้านทรายทอง ก็คงไม่ต้องเดากันว่าจะสื่อถึงใคร ประทับตราว่า "สำเนาถูกต้อง" ให้ได้เลยครับว่านี่คือ "ตาดูดาว เท้าติดดิน ภาคพิสดาร" เพื่อทดแทนภาคแรกที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่โดนเผด็จการแบนละครแบบถาวร ไม่ยอมให้ฉายจนถึงปัจจุบันนี้
ซึ่งการที่ผมโยงให้เห็นแบบนี้ ถ้าเป็นการโต้กันทางโวหาร ของนักการเมืองประเภทน้ำเน่า ก็จะต้องถูกแดกดันว่า ร้อนตัว,กินปูนร้อนท้อง,แสดงว่าโกงจึงร้อนตัว ฯลฯ แต่ผมถือว่าครั้งนี้ผมมิได้ตอบโต้ทางการเมืองกับพรรคใด เป็นการสื่อสารกับปัญญาชนที่เป็นคนของประชาชน ซึ่งผมชื่นชมและศรัทธาในผลงานทางการแสดงของพี่ๆทุกท่านมาตั้งแต่เด็ก และยืนยันว่า "ผมแยกแยะและไม่เคยมีอคติต่อผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองเลย" แต่ก็ต้องขออนุญาตพูดให้เห็นก็เพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม ว่าการเขียนบทโดยเอาความมีอคติทางการเมือง มาเล่นสนุกกันจนล้ำเส้นแบบนี้ เป็นแง่มุมที่ผมบอกว่า "ผมไม่เห็นด้วย" ครับ
ส่วนที่ผมบอกว่า ผมจะปกป้องสิทธิที่คุณจะพูดถึงมันนั้น ถึงแม้จะไม่ถึงกับปกป้องด้วยชีวิตเช่นในปรัชญา แต่ก็อยากที่จะขอให้ช่อง3 อนุญาตให้ละคร"เหนือเมฆ"ได้ออนแอร์ต่อไปจนจบครับ เรื่องมันปาเข้าไปสิบกว่าตอนแล้ว เหลืออีกแค่1-2ตอน ปล่อยให้จบไปก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ผมมองว่าการที่ช่อง3 ทำแแบบนี้ ดูแล้วมันคล้ายกับการ "กิน3ต่อเข้าฮอส" มากกว่า
ต่อที่1 สิ่งที่ท่านอยากจะสื่อทางการเมืองผ่านละคร ท่านก็ได้ทำเสร็จไป 90%แล้วครับ ตอนจบก็คงไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือส่งผลกระทบต่อผู้ใดมากกว่าตอนที่แล้วๆ
ต่อที่2 รัฐบาลตกเป็นจำเลยของคนดูไปเลยครับ คนดูอุส่าห์ดูละครมาเป็นสิบตอน ใครๆก็รอดูตอนจบกันทั้งนั้น ดันมาสั่งให้ช่อง3 ตัดตอนจบออก แหม...เสียอารมณ์!! คราวหน้าไม่เลือกแล้วพรรคฯนี้
ต่อที่3 ละครมาดังก็ตอนที่ช่อง3ไปสั่งยกเลิกเขานี่แหละครับ รับรองว่าเอากลับมาออนแอร์เมื่อไหร่ เรทติ้งละครช่อง3 กระฉูดราวกับ "กังนำสไตล์" ในยูทูปเลยครับ
ผมว่าคงไม่มีใครไม่เข้าใจความรู้สึกคนดู ถึงขนาดไปสั่งยกเลิกละครตอนจบหรอกครับ การไปพูดว่าต้องยกเลิกละครเพราะเกี่ยวกับการเมืองแบบนี้ ทั้งผู้จัดฯทั้งนักแสดงทั้งคนดู ย่อมเคืองรัฐบาลกันทั้งนั้น ถ้ารัฐบาลไม่พอใจและสั่งช่อง3ได้จริง เขาน่าจะรอให้จบละครเรื่องนี้ แล้วค่อยแก้ไขโดยกำชับให้ช่อง3 ระมัดระวังไม่ให้ผู้จัดละคร แฝงเรื่องการเมืองแบบเหน็บแนมฝั่งหนึ่งฝั่งใดมากกว่า ช่อง3ไปทำอะไรโอเว่อร์แบบนี้ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ครับ
คืนความชอบธรรมให้กับละคร ด้วยการให้ออนแอร์ต่อเถอะครับ
ถ้าช่อง3อนุญาต ผมเองจะรอดูตอนจบของละครด้วยตัวเอง
และขอยินดีล่วงหน้ากับ การทำสถิติใหม่ ในเรทติ้งของละครช่อง3 ด้วยครับ