สื่อนอกตีข่าว คนไทยโวยเหนือเมฆ 2 โดนถอด - รบ. อ้างไม่เกี่ยว
เอพี ตีข่าวประเด็นถอดละคร เหนือเมฆ 2 จากช่อง 3 ของไทย จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชน เชื่อรัฐบาลกดดันอยู่เบื้องหลัง ชี้การตัดจบละครเป็นเรื่องหายากในไทย
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2556 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ของประเทศไทย ตัดสินใจถอดละครทีวีเรื่องเหนือเมฆ 2 ที่ฉายในช่วงไพรม์ไทม์ 3 วัน ออกจากผังรายการโดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน สร้างความไม่พอใจในหมู่ผู้ชมและผู้วิจารณ์ที่ต้องการให้ละครเรื่องนี้ฉายจนจบ บางกลุ่มถึงขั้นเรียกร้องให้คว่ำบาตรช่อง 3 เลยทีเดียว
สำหรับละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักการเมืองคอร์รัปชั่นและมนต์ดำ โดยออกอากาศนับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2555 จนกระทั่งวันศุกร์ที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ช่อง 3 ประกาศหยุดการออกอากาศละครเรื่องดังกล่าวทันที โดยอ้างว่าละครมีเนื้อหาไม่เหมาะสมและอาจเป็นการละเมิดกฎหมายก็เป็นได้โดยที่ไม่มีการอธิบายนอกเหนือจากนี้
โดยประเด็นการระงับออกอากาศละคร เหนือเมฆ 2 ทางช่อง 3 นำมาซึ่งการแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยของบรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทยมากมายที่เชื่อว่า เรื่องนี้เกิดจากการแทรกแซงกดดันของรัฐบาล แม้ทางรัฐบาลจะออกมาปฏิเสธแล้วก็ตาม โดยจากคำให้สัมภาษณ์ของ นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้พยายามแทรกแซงการแพร่ภาพของช่อง 3 และโดยส่วนตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดว่าละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่ว่าด้วยเรื่องการเมืองและไสยศาสตร์มนต์ดำ ซึ่งในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่พอใจแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวยังให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงขึ้น หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งในการรัฐประหาร เมื่อปี 2549 แต่หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่า อดีตนายกรัฐมนตรีผู้เดินทางออกนอกประเทศ เพื่อหลบหนีโทษจำคุกจากข้อหาคอร์รัปชั่น ยังคงมีอิทธิพลอย่างเบ็ดเสร็จ ในการปกครองประเทศของพรรคเพื่อไทย
สำหรับในขณะนี้ ชาวเน็ตไทยบางส่วนได้ตั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจ เพื่อเรียกร้องให้ละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 ที่ยังเหลือตอนซึ่งไม่ได้ออกอากาศอยู่อย่างน้อย 3 ตอน กลับมาออกอากาศทางจอโทรทัศน์จนจบอีกครั้ง โดยแฟนเพจนี้มีผู้ใช้กดไลค์มากกว่า 40,000 รายแล้ว ขณะที่บางกลุ่มขู่แบนช่อง 3 เช่นกัน เพื่อแสดงจุดยืนความไม่พอใจในกรณีระงับฉายเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยเข้มงวดเรื่องการเซ็นเซอร์สื่อโทรทัศน์มาก โดยเฉพาะการเบลอภาพของสุราและบุหรี่ แต่สำหรับกรณีการระงับออกอากาศละครที่ยังฉายไม่จบนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก