ช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ หลายครอบครัวต่างเตรียมตัววางแผนที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และถือโอกาสเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในเทศกาลนี้ และแน่นอนในช่วงปีใหม่หลายครอบครัวก็พร้อมใจกันออกเดินทาง ทั้งขึ้นเหนือ ล่องใต้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางก็คือ ควรศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนออกเดินทาง
ทั้งนี้ ทางกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จึงรวบรวมสรุปข้อมูลเส้นทางหลวงทั่วประเทศ ทั้งจุดที่มีการจราจรติดขัด เส้นทางเลี่ยง และจุดอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง
เช็กด่วน! เส้นทางลัด-จุดรถติด วางแผนก่อนเที่ยวปีใหม่
เส้นทางลัดภาคเหนือ
เส้นทางที่ 1 ใช้ ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือ ใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ เข้าถนนพหลโยธิน ถึงต่างระดับบางปะอิน เลี้ยวซ้ายเข้าสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์ เพื่อเดินทางสู่ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (สาย 302) ถึงต่างระดับบางใหญ่ เลี้ยวขวาเข้าถนนกาญจนาภิเษก ถึงต่างระดับบางบัวทอง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่าน จ.สุพรรณบุรี จ.ชัยนาท เข้าสายเอเซีย ที่ อ.มโนรมย์ มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์เพื่อไปภาคเหนือ
เส้นทางที่ 3 จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) ถึงต่างระดับเชียงรากน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าสายบางปะอิน-บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) เข้าสายเอเชีย ที่ อ.บางปะหัน เพื่อไปภาคเหนือ
เส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด จ.นครสวรรค์
เส้นทางที่ 1 จากต่างระดับอินทร์บุรี เลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่าน อ. ตากฟ้า ท่าตะโก สากเหล็ก ถึงสามแยกวังทอง เลี้ยวซ้าย มุ่งสู่ จ.พิษณุโลก
เส้นทางที่ 2 เมื่อถึงแยกเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (กม. 331+810 บนทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวซ้าย ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (ทางหลวงหมายเลข 122) ถึงสามแยกหนองตะโก
2.1 เลี้ยวซ้ายไป จ.กำแพงเพชร
2.2 เลี้ยวขวาไป จ.พิษณุโลก
เส้นทางลัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 1 จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) มุ่งหน้าสู่ต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) มุ่งหน้าสู่ต่างระดับบางปะอิน เลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 3 จากต่างระดับรังสิต ไปตามถนนรังสิต-องครักษ์ (สาย 305) ตรงไปจังหวัดนครนายก เลี้ยวขวาเข้าถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) มุ่งสู่ อ.กบินทร์บุรี ถึงสี่แยกกบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) เพื่อไป จ.นครราชสีมา
เส้นทางที่ 4 ใช้ถนนรามอินทรา-สุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านฉะเชิงเทรา, พนมสารคาม, กบินทร์บุรี, ปักธงชัย เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด จ.สระบุรี
เส้นทางที่ 1 จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันออก (ทางหลวงหมายเลข 362) บรรจบถนนมิตรภาพ เลี้ยวขวาเพื่อมุ่งสู่ จ.นครราชสีมา
เส้นทางที่ 2 จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 362) บรรจบทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าไปทาง จ.เพชรบูรณ์ ถึงแยกอำเภอท่าหลวง จ.ลพบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2256 ถึง อ.ด่านขุนทด เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 201 ไป จ.ชัยภูมิ เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางลัดภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 1 จากถนนศรีนครินทร์ (ทางหลวงหมายเลข 3344) ใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์สาย 7) มุ่งสู่พัทยาไปภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 2 ใช้ถนนบางนา-บางปะกง จนถึง กม.39 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรี ที่ต่างระดับบางควาย มุ่งสู่พัทยาไปภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 3 ใช้ถนนรามอินทรา ตัดเข้าถนนสุวินทวงศ์ ผ่าน จ.ฉะเชิงเทรา เข้าทางหลวงหมายเลข 314 แล้วใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี มุ่งสู่พัทยาไปภาคตะวันออก
เส้นทางลัดภาคใต้
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ภาคใต้
เส้นทางที่ 2 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ภาคใต้
เส้นทางที่ 3 จากขนส่งสายใต้เก่า ใช้ถนนบางกอกน้อย-นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ภาคใต้
จุดรถติด
เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือและภาคอีสาน
จุดที่ 1 ถนนพหลโยธิน ช่วงลงทางยกระดับโทลล์เวย์รังสิต ลงพื้นราบ ที่ กิโลเมตร 34 (ขาออก)
จุดที่ 2 ถนนพหลโยธิน บริเวณสะพานต่างระดับบางปะอิน ระหว่าง กิโลเมตร 52-54 (ขาออก)
จุดที่ 3 ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ กิโลเมตร 54-57 (ขาออก) ช่วงมีปั๊มน้ำมันเรียงกัน 7 ปั๊ม (ขาออก)
จุดที่ 4 ถนนพหลโยธิน ที่ กิโลเมตร 55 ทางจรดมอเตอร์เวย์ (ทพ.9) วงแหวนตะวันออก (ขาออก)
เส้นทางเลี่ยงจุดรถติด
1.เดินทางสู่ภาคอีสาน ใช้ถนนรังสิต-นครนายก-ถนนสุวรรณศร-อ.บ้านนา-แก่งคอย เข้าสู่ถนนมิตรภาพที่ กิโลเมตร 12
2.เดินทางสู่ภาคเหนือถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) ให้ใช้เส้นทาง ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี- ชัยนาท-ถนนเอเชีย
3. เดินทางสู่ภาคเหนือ ติดขัดถนนเอเชีย ให้ใช้ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ขึ้นเอเชียที่ กิโลเมตร 39
แยกจุดที่การจราจรติดขัดหนาแน่นเป็นรายจังหวัด
จุดรถติด จ.สระบุรี
1.ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ กิโลเมตร 80-107 (สะพานต่างระดับสระบุรี)
2.ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ กิโลเมตร 111-113 มีการก่อสร้างสะพานต่างระดับ
3.ถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ กิโลเมตร 0-17
4.ถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ กิโลเมตร 17-35 เป็นทางขึ้นเขา สูงชัน รถใหญ่ใช้ความเร็วต่ำ
5. ถนนพุแค-หล่มสัก (ทล.21) ระหว่าง กิโลเมตร 6-7 ทางขึ้นเขารถใหญ่ใช้ความเร็วต่ำ
แนะทางเลี่ยง : ให้ใช้ถนนทางเลี่ยงเมืองสระบุรี (เสาไห้) ทางหลวง 362 และ ทางหลวง 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย)
จุดรถติด จ.ลพบุรี
1.ระหว่าง กิโลเมตร 20-22 ถนนพุแค-หล่มสัก สี่แยกซอย 12 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
แนะทางเลี่ยง : บริเวณสี่แยกสายสี่ ต.ช่องสาลิกา อ.พัฒนานิคม จว.ลพบุรี และบริเวณแยกม่วงค่อม ต.ม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
จุดรถติด จ.นครสวรรค์
1.สะพานเดชาติวงศ์ ทางหลวง 1 มี 2 ช่องทาง (ขาขึ้น) ลักษณะคอขวด ติด 2 กม.
2.บริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ทางหลวง 1 (ขาล่อง) ระหว่าง กม.327-325
แนะทางเลี่ยง :
1. ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์
2. ใช้ ทางหลวง 11 ผ่าน อ.ตากฟ้า
จุดรถติด จ.ฉะเชิงเทรา
1.ทล.34 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง กม.5-18 เป็นทางลงจาก ทางหลวง 7 (มอเตอร์เวย์) มุ่งหน้าไปกบินทร์บุรี
**จุดนี้ไม่มีทางเลี่ยง
จุดรถติด จ.ปราจีนบุรี
1.ทางหลวง 304 (กบินทร์-ปักธงชัย) ขาออก กิโลเมตร 26-29 บ้านเขากิ่ว ลักษณะเป็นต้นเขา
2.ทางหลวง 304 (กบินทร์-ปักธงชัย) ขาออก กิโลเมตร 42-48 บ้านเขาทราย ลักษณะเป็นขึ้นเขาลาดชัน มีทางโค้งมาก
3.ทางหลวง 348 (อรัญประเทศ-โนนดินแดง) ขาออก กิโลเมตร 75-79 เขาช่องตะโก เป็นเขาลาดชัน มีโค้งหักศอก
แนะทางเลี่ยง :
1.เลี่ยงจาก ทางหลวง 304 ให้ใช้ ทางหลวง 319 วงเวียนพระนเรศวร ผ่านเขาใหญ่
2.เลี่ยงจาก ทางหลวง 304 ใช้ ทางหลวง 319-นครนายก-บ้านนา-แก่งคอย
จุดรถติด จ.นครราชสีมา
1. ถนนมิตรภาพ (ขาออก) ระหว่าง กิโลเมตร 36-38 (กลางดง)
2. ถนนมิตรภาพ (ขาออก) ระหว่าง กิโลเมตร 77-87 (คลองไผ่สีคิ้ว)
3. ถนนมิตรภาพ (ขาออก) ระหว่าง กิโลเมตร 14-18 (เลี่ยงเมือง)
4. ถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) ระหว่าง กิโลเมตร 208-207 (แยกบ้านวัด)
5. ถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) กิโลเมตร 198-197 (แยกตลาดแค)
6. ถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) กิโลเมตร 18-14 (มิตรภาพเลี่ยงเมืองนครราชสีมา)
7. ถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) กิโลเมตร 100-99 (ต่างระดับสีคิ้ว)
8. ถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) กิโลเมตร 87-77 (คลองไผ่)
9. ถนนมิตรภาพ (ขาเข้า กทม.) กิโลเมตร 54-51 (มอบันไดม้า)
ส่วนทางเลี่ยง ขาออก กรุงเทพฯ
กรณีติดขัดที่ กิโลเมตร 36-38 ทางหลวง 2 ต.กลางดง ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี - เลี้ยวขวา ต.พุแค - อ.พัฒนานิคม - อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี - เข้า ทางหลวง 21- อ.ชัยบาดาล - เข้า ทางหลวง 201 - อ.ลำสนธิ อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ-อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
กรณีติดขัดที่ กิโลเมตร 90-92 ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงโดยให้เลี้ยวซ้ายที่ กิโลเมตร 6-7 ทล.2422 (มิตรภาพสาย 2 เดิม) เข้า ทางหลวง 2243 เส้นทางปากช่อง-ภูตะวัน-ซับสนุ่น-หัวลำ-อ.ด่านขุนทด หรือเลี้ยวซ้ายที่ กิโลเมตร 8-9 ทล.2422 (มิตรภาพสาย 2 เดิม) เข้า ทางหลวง 2247 เส้นทางปากช่อง-ลำสมพุง-เขาน้อย-อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น
กรณีติดขัดที่ กิโลเมตร 12-13 (ถนนมิตรภาพเลี่ยงเมืองนครราชสีมา) ต.จอหอ อ.เมือง ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง โดยให้เลี้ยวเข้าที่ กิโลเมตร 390 ทางหลวง 205-เลี้ยวขวา-ทางหลวงชนบท นม.1049-วิ่งไประยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร - กิโลเมตร 0 - เลี้ยวเข้า ทางหลวง2 (ถนนมิตรภาพ) ที่ กิโลเมตร 162-163 (ถนนมิตรภาพสายเก่า)
เส้นทางเลี่ยงขาเข้า กรุงเทพฯ
กรณีติดขัดที่ กิโลเมตร 198 (แยกตลาดแค) ทางหลวง 2 ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงช่วงสีดา บ้านโคกสี บ้านตะโก กิ่งอำเภอพระทองคำ โนนไทย จ.นครราชสีมา
กรณีติดขัดที่ กิโลเมตร 15-18 (ถนนมิตรภาพเลี่ยงเมือง) ต.จอหอ อ.เมือง ให้เลี้ยวขวา กิโลเมตร 163 ใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าทางหลวงชนบท นม.1049 กิโลเมตร 0 ซ้ายทางหลวงชนบท นม.1049 กิโลเมตร 14 เลี้ยวซ้ายเข้า ทางหลวง 205 เลี้ยวขวา ที่ กิโลเมตร 15-14 (ถนนมิตรภาพเลี่ยงเมือง)
กรณีติดขัดที่ กิโลเมตร 54-51 (มอบันไดม้า) ทล.2 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง จ.ขอนแก่น อ.ชุมแพ จ.ชัยภูมิ อ.ด่านขุนทด ม่วงค่อม ลำสนธิ ชัยบาดาล พัฒนานิคม พุแค จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. ยังเปิดเผยว่า ทางตำรวจทางหลวงยังจะเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยเฉพาะจุดที่มีการจราจรหนาแน่น จะให้เจ้าหน้าที่ยืนโบกรถ และอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางหลวง และทางหลัก ทั้งนี้ หากมีการจราจรติดขัดมาก ๆ จะเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อเป็นการระบายรถ อีกทั้งยังได้จัดเต็นท์หน่วยบริการตามเส้นทางหลวงกว่า 200 จุดทั่วประเทศ มีเจ้าหน้าที่บริการตรวจเช็กความพร้อมของยานพาหนะ มีบริการเครื่องดื่ม น้ำเย็น กาแฟ ผ้าเย็น ห้องน้ำ แผนที่ แจกของแก้ง่วง ฯลฯ ซึ่งสนับสนุนโดยภาคเอกชนและภาครัฐ
ส่วนในด้านเทคโนโลยีนั้น ทางกรมทางหลวงได้สร้างแอพพลิเคชั่น "Highway Police Thailand" ซึ่งภายในแอพดังกล่าว จะมีแผนที่ตั้งของตำรวจทางหลวง โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ปั๊มก๊าซ LPG ปั๊มก๊าซ NGV โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ตู้เอทีเอ็ม ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถดูผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ยังมีหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง โรงพยาบาล บริษัทประกันภัย หน่วยกู้ภัย และบริการยกรถอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ ฝากถึงยังประชาชนทุกคนว่า ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ต้องเช็กสภาพรถให้ดี สภาพคนขับต้องพร้อม และต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เมาไม่ขับ ศึกษาแผนที่เส้นทางให้ดี พร้อมทั้งขอให้รักษาวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย การเดินทางก็จะมีความสุข ตามสโลแกนของตำรวจทางหลวง "ห่วงใยทุกชีวิต เป็นมิตรทุกเส้นทาง"
สอบถามรายละเอียดเส้นทาง โทร. 1586 (ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง) หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเทศกาล สำหรับนอกเทศกาล จะให้บริการในช่วงเวลาราชการ เวลา 08.30–16.30 น. หรือ โทร. 1193 (ตำรวจทางหลวง)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมทางหลวง