สืบกรุงเก่าลุยจับยาบ้าทั้งคืน ของกลางกว่า 2 พันเม็ด

                พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ วิมาลาพานิชย์ รอง ผกก.สส พ.ต.ท.รามณรงค์ เกียรติ์บุญเกิด สว.สส. ร.ต.อ.อรรถพล วงศ์นรเศรษฐ์ รอง สว.สส ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผบก.ภ.จว.พระนครสรีอยุธยา ได้จับกุมตัวนาย อนุสรณ์ หรือ แป๊ะ ทองคำขาว อายุ 25 ปี และ น.ส.ธนิดา หรือ แอล บวรเดชนิภากุล อายุ 25 ปี ทั้ง 2 อยู่บ้านเลขที่ 13/13-14 หมู่ที่ 1 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลาง ยาไอซ์ นำหนัก 20.30 กรัม ยาบ้าจำนวน 422 เม็ด

           หลังจากได้สืบทราบมาว่า ทั้ง 2 ได้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานแล้ว ร.ต.อ.อรรถพล วงศ์นรเศรษฐ์ รอง สว.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ออกหาข่าว บริเวณบ้านเลขที่ 13/14 หมู่ที่ 1 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของนายอนุสรณ์ฯ โดยบ้านหลังดังกล่าว ได้อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพียง 500 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง นายอนุสรณ์ และ น.ส.ธนิดา จำได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จึงได้พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านแต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้พร้อมยาไอซ์ นำหนัก 0.40 กรัม จึงได้ควบคุมตัวนายอนุสรณ์ฯเอาไวได้พร้อมกับแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับให้นายอนุสรณ์ และ น.ส.ธนิดา นำตรวจค้นภายในบ้านจนสามารถตรวจพบยาไอซ์เพิ่มอีกจำนวน 9.60 กรัม รวมเป็น 30.00 กรัม และยาบ้าจำนวน 422 เม็ด ซุกซ่อนอยู่

            ด้านหลังช่องลมภายในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 2 มาทำการสอบสวนขยายผล ทราบว่า ยาไอซ์และยาบ้าจำนวนดังกล่าว ได้ซื้อมาจาก นายบัง ไม่ทราบชื่อจริง นามสกุลจริง ใน ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อแบ่งขายให้กับ เพื่อนๆหรือคนที่รู้จักเท่านั้น จากการขยายผลการจับกุม นายอนุสรณ์ และ น.ส.ธนิดา ร.ต.อ.อรรถพล วงศ์นรเศรษฐ์ รอง สว.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปทำการล่อซื้อยาบ้า จากนายพิทธยา หรือบังลา ขันธวิธิ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 6 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา โดย นัดส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณกลางซอย หมู่ที่ 6 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ซื้อ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้าไปในซอย เมื่อนายพิทธยา หรือบังลา ได้เห็นเป็นคนแปลกหน้าจึงได้พยายามขับรถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ไม่ทันที่จะได้สตาร์ทเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมกับค้นในตัวพบ ยาไอซ์ จำนวน 31.10 กรัม ยาบ้าจำนวน 5 ถุงๆละ 200 รวมยาบ้าทั้งหมด 1000 เม็ด เงินสดจำนวน 5000 บาท สิ่งเทียมพลาสติกลักษณะคล้ายอาวุธปืน อีก 1 ชิ้น ร.ต.อ.อรรถพล จึงนำตัวมาทำการสอบสวนขยายผล 

           ทราบว่า ยาบ้าและยาไอซ์ จำนวนดังกล่าว นายพิทธยา หรือบังลา ได้รับจ้างจากเอเย่นต์รายหนึ่ง ใน ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา ให้นำยาบ้าและยาไอซ์ จำนวนดังกล่าว มาส่งให้กับลูกค้า โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 3,500 บาท ส่วนอาวุธปืนพลาสติกจะพกไว้สำหรับขู่ลูกค้า ป้องกันลูกค้าเบี้ยวค่ายาเสพติดเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปทำบันทึกจับกุมส่งร้อยเวรดำเนินคดี

ต่อมาเวลา 22.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.พิภพ นาพุทรา สว.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ร.ต.ท.พิจิตร แสงจันทร์ รอง สว.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด นปพ.

           ได้จับกุมตัวนายมาโนช คงสมพงษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 2 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และนางบุษบงค์ คำภูมิ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 336 หมู่ที่ 3 ต.ท่าหลวง อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 200 เม็ดมาทำการสอบสวนขยายผล หลังจากที่ได้ทำการจับกุมเอาไว้ที่ ถนนกลางซอย หมู่ที่ 7 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาขณะที่กำลังนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้า 

โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ซึ่งเป็นชุด นปพ.สส.ภ.จว.พระนครสรีอยุธยา 
 
          ได้ออกตรวจดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมาถึงบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่ง ในหมู่ที่ 7 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน ได้พบกับวัยรุ่นจำนวน 4-5 คน รวมกลุ่มมั่วสุมกันอยู่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด แต่หนึ่งใน กลุ่มวัยรุ่นได้เสนอ ว่าสามารถสั่งซื้อยาบ้าได้ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้วัยรุ่นดังกล่าวทำทีเป็นโทรศัพท์สั่งซื้อยาบ้าจาก นายมาโนชญ์ จำนวน 200 เม็ด โดยนำยาบ้ามาจาก จ.ลพบุรี เมื่อนายมาโนชญ์ และนางบุษบงค์ มาถึง เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวเอาไว้แล้วทำการตรวจค้น จนสามารถพบยาบ้าจำนวน 200 เม็ดซุกซ่อนอยู่ใน กล่องหม้อแปลงชาร์ตแบตเตอร์รี่โทรศัพท์ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาทำบันทึกจับกุมส่งร้อยเวรดำเนินคดีต่อไป