ปชช.ตื่นกระแสวันสิ้นโลก ลือ!ดวงอาทิตย์ดับ 7 วัน

ปชช.ตื่นกระแสวันสิ้นโลก ลือดวงอาทิตย์ดับ 7 วัน แห่ซื้อเทียน-มาม่า-น้ำดื่มตุน

 เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด จ.สกลนคร รายงานว่า เกิดกระแสข่าวลือว่า ในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ โลกจะดับเรียกกันว่า วันสิ้นโลก และดวงอาทิตย์จะหายไปไม่โผล่มาให้เห็นยาวนาน ทำให้เกิดการแตกตื่นเล่าลือวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วไปอย่างหนาหู จนสิ้นค้าประเภทมาม่า ปลากระป๋อง น้ำดื่มและเทียนไข ขายดีเป็นพิเศษ สอบถามชาวบ้านทราบว่า ชาวบ้านหลายรายเริ่มทยอยซื้อสินค้าที่เก็บไว้กินนานๆ หลายวัน เนื่องจากมีการลือกันว่า ในวันที่  21 ธ.ค. เป็นวันสิ้นโลก และหลายคนบอกว่าดวงอาทิตย์จะหายไปนานกว่า 3-7 วัน ทำให้ชาวบ้านเชี่อจึงกักตุนอาหารไว้พร้อมทั้งเทียนไขเพื่อให้เพียงพอหากโลกดับดวงอาทิตย์หายไปจริง

 ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสำรวจในตลาดสด และย่านจำหน่ายสินค้าประเภทเทียนไข และอาหารประเภทมาม่า พบว่าชาวบ้านเริ่มทยอยเข้าไปซื้อ บางรายบอกว่าซื้อเพื่อไปขายต่อในหมู่บ้าน เนื่องจากช่วงนี้คนทำบุญมาก และประกอบกับเล่าลือกันว่าโลกดับดวงอาทิตย์จะหายไปนาน จึงไม่ประมาท กันไว้ก่อน ซื้อไปแล้ว ก็เก็บไว้นานได้ และหากไม่มีจริงก็สามารถนำไปขายต่อและบริโภคได้ ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว

 นายเล เจ้าของร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์ ในตลาดสดเมืองสกลนคร กล่าวว่า ช่วงนี้มีชาวบ้านมาซื้อสินค้าประเภทเครื่องทำบุญสังฆทาน น้ำดื่ม เทียนไข มาม่า ปลากระป๋องมากผิดปกติ เพราะจากการเปรียบในช่วงเดียวกันถือว่าขายได้มากผิดปกติ และส่วนใหญ่จากการสอบถามทราบต้องการนำไปทำบุญและกลัวว่าโลกจะดับเพราะดวงอาทิตย์หายในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ซึ่งสอบถามว่าทราบข่าวมาจากที่ได ทุกรายบอกว่าหนังสือพิมพ์ ทีวีประกาศข่าวแล้ว บางรายยังย้อนว่าขอให้รีบขายให้ถูก หมดไวๆ เพราะมีเงินไปก็ไม่ได้ใช้แล้ว เพราะโลกจะสิ้นแล้วรีบนำไปทำบุญ ทำให้นึกขำในใจ แต่ก็ไม่ประมาท ตนก็เตีรยมไว้เช่นกัน เรียกว่าเชื่อไว้บ้าง

 ด้านนายจิรพงษ์ ทองไชย ส.อบจ.สกลนคร เขตพรรณนานิคม กล่าวว่า จากข่าวที่กลุ่มพยัคฆภูเพ็ก จะทำการท้าพิสูจน์เชิงประจักษ์ ในเรื่องของปฎิทินชาวมายา บอกว่าวันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันสิ้นโลกซึ่งตรงกับ พ.ศ.2555 นั้น กลุ่มพยัคฆภูเพ็ก ที่เป็นที่ตั้งปราสาทภูเพ็ก “ปฎิทินสุริยะขอม พันปี” ตั้งอยู่บนภูเพ็กบอกว่า ในวันนั้นเป็นวัน “เหมายัน” คือกลางคืนจะยาวที่สุด และโลกยังคงอยู่ต่อไป

โดยนายสรรค์สนธิ บุญโยทยาน นักภิภพวิทยา ผู้เชี่ยวชาญดาราศาตร์ จะพร้อมด้วยวิทยากร นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ และอาจารย์วรวิทย์ ตงศิริ หรือฤาษีเอก อมตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณและลึกลับศาสตร์ และที่ขาดไม่ได้คือลุงบุปผา ดวงมาลย์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้รู้จักปราสาทภูเพ็กทุกซอกทุกมุม เราทั้งสี่คนจะพิสูจน์ให้เห็นว่า “แกนโลก” ยังคงอยู่ที่ 23.5 องศา และขั้วโลกเหนือก็ยังคงชี้ไปที่ “ดาวเหนือ” ดวงอาทิตย์จะมาตามนัดที่ตำแหน่งมุมกวาด 115 องศา ตรงตำแหน่งรอยสลักสัญลักษณ์ของสุริยะปฏิทินขอมพันปี ทั้งหมดนี้จะใช้หลักฐานทางดาราศาสตร์ของบรรพชนโบราณที่ปรากฏอยู่บนปราสาทภูเพ็กเป็นตัวช่วย โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ไฮเทคใดๆทั้งสิ้น และในวันนั้นทางกลุ่มชาวบ้านที่มีความเชื่อจะมีการทำพิธีบูชาราหู และขอพรสวดมนต์ไม่ให้ดวงอาทิตย์ดับไปตามความเชื่อของชนเผ่าภูไทมาแต่บรรพบุรุษด้วย

 นายสรรค์สนธิ กล่าวว่า การออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวไม่ได้ให้ประชาชนเชื่ออย่างนั้น แต่เป็นการทำเพื่อชี้ให้เห็นว่า ระหว่างปฎิทินชาวมายา กับปฎิทินขอม ทำกันมาคนละวัตถุประสงค์กัน ชาวมายาทำปฎิทินมาเพื่อการประกอบอาชีพ แต่ชาวขอม ทำปฎิทินมาเพื่อการประกอบพิธีกรรม ซึ่งมีความเชื่อกันคนละอย่าง แต่จริงไม่จริง เมื่อปฎิทินชาวบายาสิ้นสุดลงในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ หลายคนรวมทั้งนักวิชาการ ก็บอกว่าเมื่อปฎิทินสิ้นสุดก็หมายความว่าโลกสิ้นไปด้วย เรื่องนี้ใครอยากเรียนรู้และสัมผัสกับของจริงจึงขอเชิญชวน ในวันนั้นที่ลานภูเพ็กตลอดทั้งคืนพบกันแน่นอน

 ส่วนการกักตุนอาหารก็เป็นเรื่องความเชื่อของชาวบ้าน เพราะไม่ถือว่าเสียหายประกอบกับช่วงนี้จะมีเทศกาลปีไหม่ เป็นต้น จึงเป็นเรื่องไม่แปลกก็อาจมีการวิตกอยู่บ้างแต่ยืนยันว่าโลกยังคงอยู่ต่อไป