หลังจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.)ได้รับการประสานข้อมูลจากต่างประเทศว่าเครือข่ายกลุ่มชาวอิหร่าน ซึ่งผลิตยาเสพติดยาไอซ์ในประเทศมาเลเซีย ถูกจับกุมได้พร้อมของกลางยาไอซ์ ประมาณ 75 กก. และมีเครือข่ายซึ่งเป็นนักเคมีบางคนหลบหนีการจับกุมข้ามเขตเข้ามาผลิตยาเสพติดในประเทศไทย โดยใช้พื้นที่ในเขตเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นฐานการผลิตยาไอซ์ และส่งไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
จากข้อมูลดังกล่าว กว่า 1 ปีกับ 2 เดือน ตำรวจ ปส.เฝ้าติดดมกลิ่นสืบสวนหาข่าวมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.สามารถจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวอิหร่าน 2 คน คือ นายมูฮัมหมัด เบห์ดีมาเนอี อายุ 28 ปี และ นายเบธ กาฮูซ อายุ 25 ปี ซึ่งขับรถยนต์มาจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อนำยาไอซ์ ชนิดน้ำบรรจุภาชนะน้ำหนัก 1.5 กก.มาส่งให้แก่ลูกค้าในย่านศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล โดยทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เป็นเครือข่ายของ นายดอลลาฮี บีเนมอาลี อายุ 36 ปี สัญชาติอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาไอซ์ขึ้นมาเอง
เวลา 10 โมงเช้าของวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ปฏิบัติการบุกทลายฐานการผลิตยานรกเริ่มขึ้นทันที เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี บุกเข้าตรวจค้นเป้าหมายแรก คือบ้านเลขที่ 171/129 หมู่ 12 หมู่บ้านกรีนพาร์ค ซอยชัยพฤกษ์ 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบ นายดอลลาฮี บีเนมอาลี อยู่ในบ้านหรู 2 ชั้น ที่ได้มาเช่าเป็นเวลากว่า 2 เดือน เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตยาไอซ์
จากการตรวจค้นภายในบ้าน ในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ชั้นบน พบว่ามีลักษณะเป็น “มินิแล็บ” สำหรับผลิตยาไอซ์ มีทั้งเตาไมโครเวฟ ถ้วยแก้วสำหรับใส่สารเคมี ยาไอซ์ที่ตกผลึกตากไว้บนแผ่นกระจก และยังพบเมทแอมเฟตามีนเกล็ด ชั่งน้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 21.18 กก. นอกจากนี้ยังพบสารเคมีที่ใช้เป็นสารตั้งต้น 3 ถัง รวมกว่า 60 ลิตร กล่องใส่ขนม และรถเก๋งโตโยต้า อีก 2 คัน จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด
เป้าหมายที่ 2 ตำรวจได้บุกเข้าตรวจค้น 99/560 หมู่บ้านโชคชัย 7 ซอยเขาน้อย หมู่ 5 ต.หนองปรือ พบสารซูโดอีเฟดรีน ที่ใช้เป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาไอซ์ อยู่ในเซรามิก 20 แท่ง บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษที่ถูกแพ็กส่งมาจากประเทศไอร์แลนด์ และเป้าหมายที่ 3 เข้าบุกตรวจค้นโกดัง เอ.อี.อี.ฮาร์ดแวร์ เลขที่ 75/24 ปากซอยชัยพรวิถี 12 หมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบปั๊มลมขนาดใหญ่ประมาณ 20 เครื่อง และโซฟาหลายตัว โซฟาบางตัวถูกแยกชิ้นส่วนไว้ และยังพบแท่งเซรามิกลักษณะคล้ายกับที่พบในหมู่บ้านโชคชัย 7 เมื่อทุบออกดูเจอผงสีขาวไม่ทราบชนิดบรรจุอยู่ด้านใน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสารตั้งต้นผลิตยาไอซ์ รวมทั้ง น้ำยาทาเล็บอีกหลายขวด
สำหรับพฤติกรรมของแก๊งค้ายาไอซ์ชาวอิหร่านแก๊งนี้ พ.ต.อ.วีระชัย วันกนกกุล ผกก.1 บก.ปส.1 บช.ปส.เปิดเผยว่า แรงจูงใจที่ทำให้กลุ่มแก๊งค้ายาไอซ์ชาวอิหร่าน เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย จะนำเข้าสารตั้งต้นจากต่างประเทศผ่านมาทางเรือ โดยจะซุกซ่อนมากับสินค้าที่ตรวจพบในโกดังที่เช่าไว้เก็บของ เช่น โซฟา ดินสอพอง ปั๊มลม เมื่อนำสารเคมีออกมาผลิตเป็นยาไอซ์ ก็นำไปปล่อยให้แก่ลูกค้าในราคากิโลกรัมละ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่ายาไอซ์ที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 1.5 ล้านบาท และจากการสอบสวนผู้ต้องหาในขบวนการ และของกลางที่ตรวจพบ มีทั้งยาไอซ์เกล็ดและชนิดน้ำที่ซุกซ่อนบรรจุในขวดไวน์ โดยผู้ต้องหาให้การว่า ยาไอซ์ลอตแรกที่ผลิตได้ เตรียมจะส่งไปขายประเทศญี่ปุ่น
พฤติกรรมของแก๊งชาวต่างชาติโดยเฉพาะแก๊งชาวอิหร่านแก๊งนี้คาดว่ายังมีเครือข่ายที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่อีกบางส่วน และอาจจะขยายเครือข่ายสืบทอดการผลิตยาไอซ์ส่งขายในประเทศไทยและต่างประเทศอีกก็ได้