“การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูลดังกล่าว หากปรากฏข้อเท็จจริงตามที่ กสทช. ชี้แจงว่า การจัดสรรคลื่นความถี่ ย่าน 2.1 GHz ได้ดำเนินการประมูลคลื่นความถี่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนดตั้งแต่ต้น โดยในขั้นตอนการกำหนดหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ กสทช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดมีผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาประมูลได้ จำนวน 20 รายโดยมีผู้มารับแบบคำขอรับใบอนุญาตและลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการประชุมชี้แจงการกรอกแบบคำขอรับใบอนุญาต จำนวน 17 ราย และมายื่นคำขอรับใบอนุญาต จำนวน 4 ราย ผ่านคุณสมบัติที่มีสิทธิเข้าเสนอราคาได้ จำนวน 3 ราย และจากการเสนอราคาปรากฏว่าได้มีการแข่งขันในการเสนอราคาทั้งหมดถึง 7 รอบ และราคาที่ได้ไม่ต่ำกว่าราคาตั้งต้นที่มูลค่า 4,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 70ของมูลค่าคลื่นความถี่จำนวน 6,440 ล้านบาท” นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้วิธีการประมูลคลื่นความถี่ กสทช. ได้แบ่งการประมูลออกเป็น 2 ขั้นตอน กล่าวคือ ขั้นตอนแรกเป็นการประมูลชุดคลื่นความถี่ และขั้นตอนที่ 2 เป็นการกำหนดย่านความถี่ โดยการประมูลชุดคลื่นความถี่ เป็นการเปิดประมูลชุดคลื่นความถี่ที่จะให้อนุญาตพร้อมกันและดำเนินการประมูลหลายรอบ โดยราคาประมูลในแต่ละรอบจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ย่อมเห็นได้ว่าการประมูลได้มีการแข่งขันราคากัน กรณีดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ซึ่งกรมสอบสวนจะได้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบให้ กสทช. ทราบต่อไป