กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ถนนพหลโยธิน นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดี ขบ. นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) นายโอภาส เพชรมุนี องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) ร่วมแถลงข่าว มาตรการเข้มงวด ตรวจจับรถตู้โดยสารสาธารณะที่บรรทุกผู้โดยสาร เกินจำนวนที่นั่ง
นายสมชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถตู้บ่อยครั้ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขบ.ได้มีมาตรการติดอุปกรณ์อาร์เอฟไอดี ติดตามควบคุมความเร็วของรถตู้โดยสาร และใช้มาตรการจับปรับครั้งที่ 1 ปรับ 5,000 บาท ครั้งที่ 2 ปรับ 10,000 บาท พบครั้งที่ 3 ถอนใบอนุญาตเดินรถทันที ทำให้ลดปัญหาดังกล่าวไปได้ และปัจจุบันพบว่าอีกปัญหาหนึ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้โดยสารคือ บรรทุกผู้โดยสารเกิน ซึ่งปกติอนุญาตให้รถตู้บรรทุกผู้โดยสารได้ 15 คน แต่จากรายงานของสายตรวจพบว่ามีการบรรทุกผู้โดยสารถึง 23 คน ซึ่งอันตรายมาก จึงร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ออกมาตรการป้องปรามก่อนเกิดเหตุร้ายแรง ซึ่งขอให้ผู้โดยสารที่พบเจอช่วยกันร้องเรียนการกระทำผิดดังกล่าว เพื่อเรียกมาจับปรับ หากพบการฝ่าฝืนให้แจ้งรายละเอียด หมายเลขทะเบียนรถ วัน เวลา และสถานที่ใช้บริการได้ที่คอลเซ็นเตอร์ กรมการขนส่งทางบกที่ 1584 บริษัท ขนส่ง จำกัด ที่ 1490 และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ที่ 1348 เชื่อว่าไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะค่าสัมปทานแต่ละเส้นทางไม่แพง วิ่งแบบผู้โดยสารไม่เต็มรถยังได้กำไร แต่เรื่องต้องจ่ายเงินผู้อิทธิพลอื่นนอกระบบนั้น ตนคิดว่าไม่มี ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นคดีอาญา ขบ.ไม่มีอำนาจดูแล
นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับโทษในมาตรการนี้ประกอบด้วย รถหมวด 1 และหมวด 2 คือ รถที่วิ่งในเขตเทศบาล สุขาภิบาล และรถวิ่งจากกรุงเทพไปจังหวัดต่าง ๆ ผิดครั้งที่ 1 ขบ.ปรับ 5,000 บาท และแจ้งผู้ประกอบการ (บขส. หรือ ขสมก.) ปรับเพิ่มอีก 5,000 บาท ผิดครั้งที่ 2 ขบ.ปรับ 5,000 บาท และแจ้งผู้ประกอบการ (บขส. หรือ ขสมก.) ปรับเพิ่มอีก 5,000 บาท พร้อมทั้งให้พักใช้รถ 15 วัน ผิดครั้งที่ 3 ขบ.ปรับ 5,000 บาท และแจ้งผู้ประกอบการ (บขส. หรือ ขสมก.) ปรับเพิ่มอีก 5,000 บาท พร้อมทั้งถอนรถออกจากการประกอบการ (บัญชี ขส.บ.11) ส่วนรถหมวด 3 และ หมวด 4 คือ รถที่วิ่งระหว่างจังหวัดกับจังหวัด และรถที่วิ่งภายในจังหวัด ผิดครั้งที่ 1 ขบ.ปรับ 5,000 บาท ผิดครั้งที่ 2 ขบ. ปรับ 5,000 บาท และแจ้งให้ผู้ประกอบการดำเนินการถอนรถออกจากการประกอบการขนส่ง (บัญชี ขส.บ.11) ผิดครั้งที่ 3 ขบ.ปรับ 5,000 บาท และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมิให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งให้กับผู้ประกอบการรายดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าของรถ และพนักงานขับรถ ตามคิวรถตู้ต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทำสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ไว้ภายในตัวรถ เพื่อให้ผู้โดยสารพิทักษ์สิทธิของตนเองอีกทางหนึ่งโดยขอให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ โดยสังเกตแผ่นป้ายทะเบียนรถต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ ด้านข้างมีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก. หรือ บขส. ชื่อเส้นทาง พร้อมระบุจำนวนที่นั่งชัดเจนด้วย.
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
