ภาพจาก ข่าวสดวันที่ 3 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชลแนล ถึงกรณีที่มีแอร์โฮสเตสสาวคนหนึ่งของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค โพสต์ข้อความอยากสาดกาแฟใส่หน้า "อุ๊งอิ๊ง" บุตรสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงบนเฟชบุ๊คว่า
ตนไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง แต่กรณีนี้เห็นได้ชัดว่าพนักงานดังกล่าวยับยั้งชั่งใจได้ ปัญหาจึงไม่เกิด และการโพสต์ข้อความในเฟชบุ๊คก็เป็นเพียงการระบายความรู้สึก ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันกับการที่จะไปเปรียบเทียบกับการข่มขู่ คุกคาม หรือประกาศว่าจะทำร้ายคนนั้นคนนี้ล่วงหน้า และการที่มีกลุ่มผู้ใช้บริการของสายการบินดังกล่าวรวมตัวกดดันให้ดำเนินการกับพนักงานต้อนรับนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ถึงขนาดมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่โต ถึงขั้นเรียกร้องให้พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม ร่วมรับผิดชอบด้วย
เวลา 10.30 น. ตัวแทนชมรมไทยเดินทาง นำสมาชิกชมรมกว่า 50 คน เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อถามความคืบหน้า กรณีลงโทษพนักงานต้อนรับคนดังกล่าวต่อผู้บริหารสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ที่สำนักงานสายการบินคาเธย์แปซิฟิค อาคารเพลินจิตรทาวเวอร์ ถนนเพลินจิตร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.โดยเรียกร้องให้ผู้บริหารสายการบินชี้แจงข้อสอบถาม จำนวน 3 ข้อ ดังนี้
เวลา 10.30 น. ตัวแทนชมรมไทยเดินทาง นำสมาชิกชมรมกว่า 50 คน เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อถามความคืบหน้า กรณีลงโทษพนักงานต้อนรับคนดังกล่าวต่อผู้บริหารสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ที่สำนักงานสายการบินคาเธย์แปซิฟิค อาคารเพลินจิตรทาวเวอร์ ถนนเพลินจิตร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.โดยเรียกร้องให้ผู้บริหารสายการบินชี้แจงข้อสอบถาม จำนวน 3 ข้อ ดังนี้
1.สายการบินมีนโยบายอย่างไรต่อเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของผู้โดยสาร โดยเฉพาะการเก็บรักษาข้อมูลการเดินทางของลูกค้า
2.สายการบินมีนโยบายอย่างไรต่อเรื่องสิทธิทางการเมืองของผู้โดยสาร ท่านจะปล่อยให้พนักงานของท่านทำร้ายหรือกลั่นแกล้งไม่ให้บริการลูกค้าหรือผู้โดยสารที่มีความคิดทางการเมืองต่างจากพวกท่านหรือไม่
และ3.สายการบินมีมาตรการอย่างไรเพื่อเรียกความเชื่อมั่นและความรู้สึกปลอดภัยในการเดินทางกับสายการบินของท่านกลับคืนมา
ต่อมานายเลสลี่ลูผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ได้เดินทางลงมาด้านหน้าอาคารฯ เพื่อรับเรื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมฯ โดยกล่าวด้วยภาษาอังกฤษโดยมี นายยงยุทธ ลุจินดานนท์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและพม่า คาร์เธย์แปซิฟิคแอร์เวย์ แปลเป็นภาษาไทยให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟังว่า ขณะนี้ทางบริษัทกำลังดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งต้องขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดก่อน ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไปพร้อมนำใบแถลงการณ์ของทางบริษัทฯ มาแจกจ่ายให้สื่อมวลชนโดยระบุว่า ทางสายการบินฯ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและมาตรการการให้บริการของสายการบินฯทางสายการบินขอยืนยันต่อผู้โดยสารทุกท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและการถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งพนักงานของเราจะปฏิบัติตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งให้บริการลูกค้าด้วยมาตรการสูงสุดการกระทำนอกเหนือไปจากนโยบายนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับโดยวันนี้ทางสายการบินได้เน้นย้ำนโยบายข้อนี้กับพนักงานในทุกภาคส่วนของเราอีกครั้งหนึ่งซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสายการบินพยายามติดต่อผู้โดยสารเพื่อแสดงความเสียใจเป็นการส่วนตัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้จนกระทั่งเช้าวันนี้อย่างไรก็ตามเราจะพยายามติดต่ออย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความเสียใจต่อผู้โดยสารโดยตรงและขอยืนยันว่าได้มีการดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตั้งแต่สายการบินได้รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสายการบินได้สอบสวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เกี่ยวข้องและในขณะนี้พนักงานต้อนรับท่านนั้นได้อยู่ในช่วงหยุดการปฏิบัติงานและให้ความร่วมมือกับการสอบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงในการยื่นหนังสือและรับฟังคำชี้แจงจากผู้บริหารสายการบิน ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยมี ร.ต.อ.ศรุต ระยานนท์ รอง สวป.สน.ลุมพินี นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ลุมพินี มาดูแลความเรียบร้อยให้โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 4 ธ.ค. เวลา 11.30 น. ตนพร้อมตัวแทนกลุ่มบุคคลที่ไม่เห็นด้วยการออกมาโพสต์ข้อความของแอร์โฮสเตส สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่มีต่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง จะเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของสายการบิน ถนนสีลม เพื่อทวงถามความรับผิดชอบของสายการบินในการดำเนินการกับแอร์โอสเตสคนดังกล่าว หากมีคำำตอบในทางที่ดีก็จะยื่นหนังสือแสดงความขอบคุณที่ไม่นิ่งนอนใจ แต่ถ้าทางสายการบินปฏิเสธว่าที่จะแสดงท่าที่ใดๆ จะยื่นหนังสือเรียกร้องให้พิจารณาให้พนักงานคนดังกล่าวพ้นจากหน้าที่ เพระไม่แยกแยะระหว่างความเห็นส่วนตัวกับการทำงานออกจากกัน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์สาดกาแฟจะยังไม่เกิดขึ้น แต่ถือว่าเพียงแต่ความคิดก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเข้าข่ายคดีทางอาญา เพราะมีความคิด ความพยายามที่จะก่อเหตุ เพียงแต่ทำไม่สำเร็จเพราะมีเหตุอื่นเข้ามาขวางก่อน และในอนาคตก็ไม่มีสิ่งใดรับรองว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นหรือมีอะไรที่รุนแรงยิ่งกว่าการสาดกาแฟหรือทั้งนี้ขอเรียกร้องให้แอร์โฮสเตสคนดังกล่าวออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการและเมื่อขอโทษแล้วทางสายการบินจะพิจารณาการทำหน้าที่ของพนักงานอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทางสายการบินจะตัดสินใจ
เย็นวันเดียวกันเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ประเทศไทย เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อ เวลา 18:50 น. มีเนื้อหาระบุว่า สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความที่มีความละเอียดอ่อนในโซเชี่ยลมีเดียที่มีการกล่าวถึงการโพสต์ข้อความจากหนึ่งในพนักงานต้อนรับของคาเธ่ย์แปซิฟิค ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้โดยสารที่เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อเร็วนี้ๆ
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหนึ่งในพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเรา ซึ่งได้โพสต์ข้อมูลของผู้โดยสารท่านหนึ่งบนโซเชี่ยลมีเดีย โดยเป็นเหตุการณ์ที่พนักงานท่านนั้นกระทำไปโดยมิได้รับความยินยอม ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิคขอเรียนให้ทราบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินท่านนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะของพนักงานของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค อีกต่อไป"
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสายการบินขอยืนยันต่อผู้โดยสารทุกท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและการถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งพนักงานของเราจะปฏิบัติตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งการให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานสูงสุด การกระทำที่นอกเหนือไปจากนโยบายนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับ โดยในวันนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้เน้นย้ำนโยบายข้อนี้กับพนักงานในทุกภาคส่วนของเราอีกครั้งหนึ่ง"
“ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค ยังคงพยายามติดต่อผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“คาเธ่ย์ แปซิฟิค รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยและสายการบินยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการผู้โดยสารของเรา”
ต่อมานายเลสลี่ลูผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ได้เดินทางลงมาด้านหน้าอาคารฯ เพื่อรับเรื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมฯ โดยกล่าวด้วยภาษาอังกฤษโดยมี นายยงยุทธ ลุจินดานนท์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและพม่า คาร์เธย์แปซิฟิคแอร์เวย์ แปลเป็นภาษาไทยให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟังว่า ขณะนี้ทางบริษัทกำลังดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งต้องขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดก่อน ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไปพร้อมนำใบแถลงการณ์ของทางบริษัทฯ มาแจกจ่ายให้สื่อมวลชนโดยระบุว่า ทางสายการบินฯ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและมาตรการการให้บริการของสายการบินฯทางสายการบินขอยืนยันต่อผู้โดยสารทุกท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและการถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งพนักงานของเราจะปฏิบัติตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งให้บริการลูกค้าด้วยมาตรการสูงสุดการกระทำนอกเหนือไปจากนโยบายนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับโดยวันนี้ทางสายการบินได้เน้นย้ำนโยบายข้อนี้กับพนักงานในทุกภาคส่วนของเราอีกครั้งหนึ่งซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสายการบินพยายามติดต่อผู้โดยสารเพื่อแสดงความเสียใจเป็นการส่วนตัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้จนกระทั่งเช้าวันนี้อย่างไรก็ตามเราจะพยายามติดต่ออย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความเสียใจต่อผู้โดยสารโดยตรงและขอยืนยันว่าได้มีการดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตั้งแต่สายการบินได้รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นสายการบินได้สอบสวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เกี่ยวข้องและในขณะนี้พนักงานต้อนรับท่านนั้นได้อยู่ในช่วงหยุดการปฏิบัติงานและให้ความร่วมมือกับการสอบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงในการยื่นหนังสือและรับฟังคำชี้แจงจากผู้บริหารสายการบิน ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยมี ร.ต.อ.ศรุต ระยานนท์ รอง สวป.สน.ลุมพินี นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ลุมพินี มาดูแลความเรียบร้อยให้โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 4 ธ.ค. เวลา 11.30 น. ตนพร้อมตัวแทนกลุ่มบุคคลที่ไม่เห็นด้วยการออกมาโพสต์ข้อความของแอร์โฮสเตส สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ที่มีต่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง จะเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของสายการบิน ถนนสีลม เพื่อทวงถามความรับผิดชอบของสายการบินในการดำเนินการกับแอร์โอสเตสคนดังกล่าว หากมีคำำตอบในทางที่ดีก็จะยื่นหนังสือแสดงความขอบคุณที่ไม่นิ่งนอนใจ แต่ถ้าทางสายการบินปฏิเสธว่าที่จะแสดงท่าที่ใดๆ จะยื่นหนังสือเรียกร้องให้พิจารณาให้พนักงานคนดังกล่าวพ้นจากหน้าที่ เพระไม่แยกแยะระหว่างความเห็นส่วนตัวกับการทำงานออกจากกัน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์สาดกาแฟจะยังไม่เกิดขึ้น แต่ถือว่าเพียงแต่ความคิดก็เข้าใจได้ว่าอาจจะเข้าข่ายคดีทางอาญา เพราะมีความคิด ความพยายามที่จะก่อเหตุ เพียงแต่ทำไม่สำเร็จเพราะมีเหตุอื่นเข้ามาขวางก่อน และในอนาคตก็ไม่มีสิ่งใดรับรองว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นหรือมีอะไรที่รุนแรงยิ่งกว่าการสาดกาแฟหรือทั้งนี้ขอเรียกร้องให้แอร์โฮสเตสคนดังกล่าวออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการและเมื่อขอโทษแล้วทางสายการบินจะพิจารณาการทำหน้าที่ของพนักงานอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทางสายการบินจะตัดสินใจ
เย็นวันเดียวกันเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ประเทศไทย เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อ เวลา 18:50 น. มีเนื้อหาระบุว่า สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความที่มีความละเอียดอ่อนในโซเชี่ยลมีเดียที่มีการกล่าวถึงการโพสต์ข้อความจากหนึ่งในพนักงานต้อนรับของคาเธ่ย์แปซิฟิค ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้โดยสารที่เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อเร็วนี้ๆ
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด โดยขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหนึ่งในพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของเรา ซึ่งได้โพสต์ข้อมูลของผู้โดยสารท่านหนึ่งบนโซเชี่ยลมีเดีย โดยเป็นเหตุการณ์ที่พนักงานท่านนั้นกระทำไปโดยมิได้รับความยินยอม ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิคขอเรียนให้ทราบว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินท่านนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะของพนักงานของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค อีกต่อไป"
"คาเธ่ย์ แปซิฟิค ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสายการบินขอยืนยันต่อผู้โดยสารทุกท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารและการถือปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งพนักงานของเราจะปฏิบัติตามนโยบายข้างต้นอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งการให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานสูงสุด การกระทำที่นอกเหนือไปจากนโยบายนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับ โดยในวันนี้ คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้เน้นย้ำนโยบายข้อนี้กับพนักงานในทุกภาคส่วนของเราอีกครั้งหนึ่ง"
“ทั้งนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค ยังคงพยายามติดต่อผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“คาเธ่ย์ แปซิฟิค รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยและสายการบินยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการผู้โดยสารของเรา”
CathayPacific Statement ( 3 December 2012 , 06:50 pm. )
Cathay Pacific is providing a further update regarding the social media posts containing information allegedly made by a single member of its cabin crew concerning a passenger on a recent flight from Thailand:
“We have investigated the matter thoroughly. We can confirm that the incident involved a member of our cabin crew who has privately posted certain information on a social media site about one of our passengers and that it is an unauthorised incident. We can also confirm that the cabin crew concerned is no longer an employee of the company."
“Cathay Pacific regrets this unfortunate incident and wishes to assure all of our customers that their privacy – and strict adherence to all privacy regulations – is extremely important to us. All staff are expected to strictly adhere to our privacy policies as well as the highest standards of customer service. Non-compliance is unacceptable. We have highlighted this message to staff again today."
“The company is continuing in its attempts to reach the passenger in hopes of personally expressing its apology to her."
“The airline is very honoured to serve Thailand and looks forward to demonstrating to its many customers across the country that this was an isolated incident.”
Cathay Pacific is providing a further update regarding the social media posts containing information allegedly made by a single member of its cabin crew concerning a passenger on a recent flight from Thailand:
“We have investigated the matter thoroughly. We can confirm that the incident involved a member of our cabin crew who has privately posted certain information on a social media site about one of our passengers and that it is an unauthorised incident. We can also confirm that the cabin crew concerned is no longer an employee of the company."
“Cathay Pacific regrets this unfortunate incident and wishes to assure all of our customers that their privacy – and strict adherence to all privacy regulations – is extremely important to us. All staff are expected to strictly adhere to our privacy policies as well as the highest standards of customer service. Non-compliance is unacceptable. We have highlighted this message to staff again today."
“The company is continuing in its attempts to reach the passenger in hopes of personally expressing its apology to her."
“The airline is very honoured to serve Thailand and looks forward to demonstrating to its many customers across the country that this was an isolated incident.”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
