แพทย์ห่วงพบน้ำในปอด“หลวงพ่อคูณ”เพิ่ม

กรณีอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้ารับการรักษาภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 5 แล้ว อาการโดยภาพรวมดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง ยังมีเสมหะค้างอยู่ในปอด อ่อนเพลีย หอบ และสำลักเป็นระยะ ๆ ท่ามกลางการดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะแพทย์นั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (3 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงพ่อคูณ ยังคงนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงคนไข้ตลอดเวลา ไม่สามารถลุกไปไหนมาไหนได้ เนื่องจากสภาพร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง และซึมจากฤทธิ์ยา แพทย์ยังคงให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเวลา และให้ยาปฏิชีวนะชนิดเข้มข้นทางหลอดเลือดดำ ยาละลายเสมหะ และงดให้อาหารเหลว แต่หลวงพ่อยังรู้สึกตัวดี เมื่อลูกศิษย์หรือพยาบาลเรียกหรือปลุกให้ตื่น ก็ตอบสนองโดยลืมตาขึ้นแล้วส่งเสียงตอบ และพูดคุยได้เล็กน้อย
 

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคเฉพาะทางรวม 5 คน เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนออกมาปรึกษาถึงแผนการรักษาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แสดงถึงความหนักใจกับอาการอาพาธในรอบนี้ ซึ่งหนักกว่าทุกครั้ง

นพ.พินิศจัย เปิดเผยว่า อาการหลวงพ่อคูณถ้ามองในด้านการรู้สึกตัวถือว่าดีขึ้นเล็กน้อย พูดคุยตอบสนองได้ดีขึ้น แต่อาการปอดอักเสบยังไม่ดีขึ้น แพทย์เอกซเรย์ปอดซ้ำพบมีเสมหะค้างในปอดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปอดข้างขวา และมีน้ำในปอดเพิ่มขึ้นมาจากระดับปกติประมาณ 20 มิลลิลิตร แต่ยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ การตอบสนองต่อยาตัวใหม่ยังต้องเฝ้าติดตามอีกสักระยะ เพราะให้ยาปฏิชีวนะชนิดเข้มข้น ครอบคลุมอาการได้กว้าง ก็ยังประเมินไม่ได้ อาการโดยรวมยังทรง ๆ ตัว ค่อนข้างน่าเป็นห่วง

คณะแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้ปรึกษากับแพทย์ รพ.ศิริราช ก็ให้คำแนะนำถึงแนวทางการรักษาหลวงพ่อ  เดินมาถูกทางแล้ว แต่หากยังไม่ดีขึ้น หรือหลายฝ่ายเห็นว่าการย้ายหลวงพ่อไปศิริราช เป็นเรื่องดีที่สุด เราก็คงไม่รีรอ จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้การรักษาหลวงพ่ออย่างดีที่สุด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร คงต้องอยู่ที่ รพ.มหาราช ต่อไปเรื่อย ๆ

"ยอมรับว่าอาการอาพาธรอบนี้หนักมากกว่าทุกครั้ง เพราะหลวงพ่ออายุมากแล้ว ย่างเข้าสู่ปีที่ 90 และมีโรคประจำตัวหลายโรค ร่างกายบอบบางมาก โอกาสมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คาดว่ารอบนี้หลวงพ่อน่าจะนอนพักรักษาตัวอยู่ รพ.ไม่น้อยกว่า 1 เดือนแน่นอน และแพทย์ก็ยังหนักใจกับสภาพอาการของหลวงพ่อที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้การรักษาหลวงพ่ออย่างดีที่สุด" นพ.พินิศจัย กล่าว