"เศษกระดาษแผ่นนี้พวกอาชีพเดียวกับฉันรู้ดีว่ามันคืออะไร ดูชื่อผู้โดยสารของฉันวันนี้เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปฮ่องกงเช้านี้สิ ตอนที่รู้ว่ามีผู้โดยสารคนนี้บนเครื่อง ประตูเครื่องกำลังจะปิดพอดี
"ที่จริงฉันเคยได้ยินเพื่อนๆบอกว่าไอ้อีตระกูลนี้ มันเดินทางไปฮ่องกงกับพวกเราบ่อยๆ ฉันยังเคยคิดว่าถ้ามีพวกมันบนเครื่อง ก็ต้องไม่มีฉันทำงานบนนั้น.
"ฉันรีบบอกหัวหน้าว่าวันนี้คงทำงานไม่ได้แล้ว หัวหน้าตกใจว่าเป็นไร เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ ไฟลท์ก็เต็ม ถ้าอยู่ๆใครไม่ทำงานซักคนที่เหลือก็เหนื่อยเลยนะนั่น
"พอบอกเหตุผล หัวหน้าก็น่ารักบอกว่าเดี๋ยวย้ายให้ไปทำงานจุดอื่นไม่ต้องเจอกับมันก็ได้ แล้วเตรียมออกเดินทาง ฉันรีบโทรหาที่ปรึกษาด่วน บอกว่าเอาอะไรไปราดหัวมันในไฟลท์นี้ได้มั้ย ได้คำแนะนำว่าอย่าทำ เพราะจะผิดกฎหมายฮ่องกงและไม่คุ้มค่ากัน ความรู้สึกโกรธ เกลียดพวกมันยังไม่จางหายจากเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวาน ทำให้คับแค้นใจยิ่งขึ้นจนน้ำตาไหลออกมา
"ขณะเครื่องบินขึ้นฉันนั่งสงบสติอารมณ์ จนดีขึ้นแล้ว ก็คิดได้ว่า คนตระกูลนี้มันทำลายความสุขของคนไทยมามากพอแล้ว ฉันจะไม่ให้โอกาสพวกมันทำลายความสุขและความดีอีก ใจก็สงบขึ้นมาบ้าง บอกหัวหน้าว่าจะทำงานตามปกติ หัวหน้าก็ตกลงแต่ไม่ต้องไปบริการมัน (คงป้องกันปัญหาด้วย) ตลอดเที่ยวบินมันสวมแว่นกันแดดและหลับเป็นส่วนใหญ่
"มีแอบคิดแผนกับน้องคนไทยที่ไม่ชอบพวกมันเหมือนกันว่าจะเข้าไปพูดถากถางพ่อมันก่อนเครื่องลงดีมั้ย.แต่แล้วสติก็ทำงานมากกว่าอารมณ์ ไม่เข้าไปตอแยกับมัน รู้สำนึกว่า ทำไปก็ไม่มีผลต่อคนที่จิตสำนึกบอดอย่างพวกมัน แถมเราอาจจะต้องเพิ่มภาระเรื่องที่ต้องต่อสู้ขึ้นอีก "อย่าเพิ่มศัตรูในการต่อสู้ จากความโง่ไร้สติของตัวเอง"
"ฉันนั่งสงบใจคิดขณะเครื่องลง ความรู้สึกของเสธ. อ้าย ตอนที่พูดคำว่า " เสธ. อ้าย ได้ตายไปแล้ว " เมื่อเย็นวานนี้ คงเจ็บปวดมากกว่าฉันตอนนี้นัก ฉันกลั้นน้ำตาที่อยากไหลออกมาไว้แค่นั้น กลืนมันกลับเข้าไปในอก. บอกตัวเองว่า เราจะต้องต่อสู้กับคนเลวในบ้านเมืองอย่างมีสติ ด้วยปัญญา และความถูกต้องชอบธรรม
"อย่างน้อยวันนี้ ฉันเอาชนะความโกรธ ความเกลียดอย่างแรง ที่มีอยู่ ไม่ให้มันมามีอำนาจสร้างปัญหาเพิ่มทุกข์ให้ฉันได้
"แพรทองธาร วันนี้ไม่โดนฉันเอากาแฟสาดหน้า แต่มันไม่รู้ว่าฉันจะต่อสู้ ทำให้พวกมันไม่ได้อยู่เป็นเสนียดจัญไรบนแผ่นดินไทยอีกต่อไป"
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. น.ส.แพทองธาร หรือ อุ๊งอิ๊ง โพสต์ข้อความลงในแอพอินสตาแกรมส่วนตัว Ingshin21 ถึงกรณีดังกล่าว โดยเขียนไว้ว่า "แค่เดินทางไปหาพ่อเพราะคิดถึง และเดินทางไปทำงานเพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าเคยทำอะไรให้โกรธก็ขอโทษด้วยละกันนะคะ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ เพราะเดินทางบ่อยก็เจอแต่แอร์น่ารักๆทั้งนั้น now i feel uncomfortable that the person who was supposed to be a hostess actually wanted to pour coffee on my face..tea or coffee????"
วันเดียวกัน เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในประเทศไทยhttp://www.facebook.com/cathaypacificTH ได้มีประชาชนและนักท่องเน็ตชาวไทยเข้าไปแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยมองว่าแอร์สาวคนนี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะนำข้อมูลตารางบินของน.ส.แพทองธาร ซึ่งเป็นลูกค้าของสายการบินมาแสดงต่อสาธารณะ ทำให้ผู้ดูแลเฟซบุ๊กเขียนชี้แจงว่า "สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้สายการบินอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบในภายหลัง
"ทางสายการบินขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ทางสายการบินกำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง สายการบินขอยืนยันว่าเรามุ่งเน้นการบริการที่ดีที่สุด รวมถึงการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารเป็นสิ่งที่ทางสายการบินถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดได้ละเมิดข้อบังคับ สายการบินจะดำเนินการต่อบุคคลดังกล่าวตามกฏของบริษัทฯ "