เปิดศึกกรุสมบัติพันล้าน“คมน์ อรรฆเดช”

วันนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ นสพ.เดลินิวส์ ทราบว่าขณะนี้ได้มีคดีข้อพิพากในการขอเป็นผู้จัดการมรดกที่มีทรัพย์สินกว่า 1,000 ล้านบาทของอดีตผู้กำกับหนังคนดังที่เสียชีวิต “คมน์ อรรฆเดช” หรือชื่อจริง ดร.สมคิด เล่งอิ๊ว ระหว่างนางพรพิมล มั่นฤทัย ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสคนล่าสุดของคมน์ อรรฆเดช กับ บุตรสาวและบุตรชายในสายเลือดทั้งหมดรวม 4 คน ของคมน์ อรรฆเดช โดยคดีนี้ศาลจังหวัดพระโขนงจะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลงไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 30 พ.ย.นี้

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามไปยังนางนุชนารถ หรือ นก ภิรมย์ และแพทย์หญิงหนึ่งหฤทัย ภิรมย์ หรือหนึ่ง แพทย์อายุรกรรม โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งทั้งคู่เป็นบุตรสาวภรรยาคนแรกของคมน์ อรรฆเดช เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยนางนุชนารถเปิดเผยว่า ตนเป็นบุตรสาวคนโต ส่วนแพทย์หญิงหนึ่งหฤทัยเป็นคนที่ 2 ระหว่างคมน์ อรรฆเดช กับมารดาตนคือนางนันทวรรณ กันเกษม ที่ขณะนี้ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนตนกับน้องสาวเกิดได้ไปใช้นามสกุลของอาสาว คือนางทิพยวรรณ ภิรมย์ น้องสาวแท้ ๆ ของพ่อ เพราะขณะนั้นพ่อกำลังโด่งดังในการเป็นนักแสดง จึงไม่อยากเปิดเผยสถานภาพที่แท้จริงว่ามีภรรยาและบุตรแล้ว และพ่อไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับแม่อีกด้วย เพราะเกรงว่าความนิยมของแฟนคลับจะลดน้อยลง

นางนุชนารถบุตรสาวคนโตของอดีตผู้กำกับคนดังระบุต่อว่า นอกจากนี้พ่อยังมีลูกชายกับภรรยาคนที่ 2 ด้วยอีก 2 คนเป็นผู้ชายทั้งคู่
ชื่อนายพิทักษ์ หรืออาร์ม เล่งอิ๊ว และนายภูวเนตร หรือโอ้ เล่งอิ๊ว โดยน้องชายต่างมารดาของตนได้ใช้นามสกุลพ่อ สำหรับเรื่องข้อพิพาทระหว่างตนกับนางพรพิมล มั่นฤทัย ที่เป็นเรื่องเป็นราวกันมาตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพราะหลังพ่อเสียชีวิตนางพรพิมลได้ขอยื่นเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมดของพ่อ รวมถึงที่ดิน 47 ไร่บนเขาใหญ่ ซึ่งเป็นที่ดินมรดกตกทอดอันชอบธรรมของผู้สืบทอดสกุล ที่พ่อซื้อไว้ก่อนหน้าที่จะอยู่กินกับนางพรพิมล ทำให้ลูกทั้ง 4 คนและญาติฝ่ายพ่อสงสัยนางพรพิมล เพราะตั้งแต่พ่อเสียชีวิตนางพรพิมลไม่เคยพูดถึงเรื่องทรัพย์สินของพ่อ มีแต่พูดเรื่องหนี้สินเท่านั้น

นางนุชนารถกล่าวอีกว่า คดีนี้คงไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ถ้านางพรพิมลไม่ยินยอมตามข้อเรียกร้องของลูกทั้ง 4 คน คือพวกตนขอเงิน 160 ล้านจากมรดกของพ่อทั้งหมด เพื่อนำมาแบ่งให้แม่ตนที่เป็นภรรยาคนแรกของพ่อ ไว้ใช้จ่ายในการรักษาตัวด้วยโรคหัวใจ และน้องแท้ ๆ ของพ่ออีก 7 คน ซึ่งไม่ได้มากมายอะไร กับทรัพย์สินทั้งหมดของพ่อที่มีอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาตนไม่เคยรับรู้ในเรื่องธุรกิจของพ่อแม้แต่น้อย แต่พอหลังจากที่พ่อเสียชีวิต ได้มีใบแจ้งหนี้จากธนาคารกรุงไทย ส่งมาที่บ้าน เพื่อให้ทายาทไปชำระหนี้จำนวนกว่า 200 ล้าน พวกตนจึงจำเป็นต้องฟ้องศาลเพื่อขอความเป็นธรรม และสิทธิอันชอบธรรมของลูกที่พวกตนพึงจะได้ เพราะตนกับน้องอีก 3 คนเป็นลูกแท้ ๆ ในสายเลือดของพ่อ
 

สำหรับ “คมน์ อรรฆเดช” อดีตผู้กำกับภาพยนตร์คนดัง หรืออดีตนายกสมาพันธ์ภาพยนต์แห่งชาติ โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นทั้งดารานักแสดง ผู้กำกับ ผู้สร้างหนัง อีกทั้งยังมีธุรกิจหลายอย่างทั้งเป็นเจ้าของโรงหนังในเครือประธานบริษัทโคลีเซียม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ,ห้างสรรพสินค้า และโครงการบ้านจัดสรรซิตี้ ฮิลล์ เขาใหญ่  นครราชสีมา บนที่ดิน 47 ไร่ กระทั่งมาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วยวัย 66 ปี.