วันนี้(21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อเวลาเวลา 06.15.00 น
แรงงานชาวกัมพูชาหลายร้อยคนทั้งหญิงและชาย พากันมายืนออรออยู่ที่หน้าประตูจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อรอเวลาให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิงฯเปิดประตูผ่านแดนในเวลา 07.00 น. ก่อนที่แรงงานเขมรหลายร้อยคนจะพากันทะลักเข้ามาเพื่อยืนรอและนัรอต่อคิวรอให้นายจ้างซึ่งเป็นชาวไทยที่พากันขับรถยนต์มารอรับแรงงานชาวกัมพูชาเพื่อข้ามแดนไปเกี่ยวข้าวในฝั่งไทย พร้อมนำเอกสารของนายจ้างชาวไทยที่มารอรับส่งตัว อาทิ บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านเพื่อมาลงบันทึกในหนังสือรับส่งตัวเพื่อขอรับแรงงานชาวกัมพูชาข้ามแดนกับเจ้าหน้าที่ ตม.กาบเชิง และมีการบันทึกจำนวนแรงงานชาวกับพูชาที่นายจ้างแต่ละคนรับไป เพื่อป้องกันแรงงานต่างด้าวด้าวถือโอกาสเข้ามาเกี่ยวข้าวและหลบหนีเข้าเมือง
อย่างไรก็ตาม หลังนายจ้างแจ้งจำนวนแรงงานชาวกัมพูชาแล้วในช่วงเวลาเย็นเลิกงาน นายจ้างจะต้องมาส่งแรงงานชาวกัมพูชากลับเข้าประเทศคืน และต้องแจ้งจำนวนแรงงานชาวกัมพูชาที่ตนเองรับไปให้ตรงในเอกสารที่ลงบันทึกในช่วงเช้าของทุกวัน ทั้งนี้ในแต่ละวันจะมีแรงงานชาวกัมพูชาข้ามแดนไปรับจ้างเกี่ยวข้าวถึงวันละ 300 กว่าราย นายจ้างกว่า 20 คน แต่ระยะนี้พื้นที่เกี่ยวข้าวเริ่มลดลงมาก จึงทำให้แรงงานชาวกัมพูชาข้ามแดนมารับจ้างน้อยกว่าในช่วงสัปดาห์ก่อนเหลือประมาณวันละ 200 คน ซึ่งในวันนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาข้ามแดนจำนวน 183 คน มีแรงงานชาวไทยเข้ามารับจำนวน 13 ราย
นายสุรัตน์ เจริญสุข อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 1 บ้านคูตัน ต.คูตัน อ.กาบเชิง กล่าวว่า ตนนำแรงงานเขมรไปเกี่ยวข้าวโดยเหมาเป็นไร่ๆละ 550 บาท รับแรงงานไปช่วยเกี่ยวข้าวให้ลูกสาว จำนวน 40 คน ตอนเย็นประมาณ 6 โมงเย็นถึงได้มาส่งถึงประตูด่าน ส่วนการกินต่างๆก็มีให้ทานเวลาเที่ยงเวลาเดียว หากจ้างเป็นวันอยู่ที่คนละ 180-220 บาท แล้วแต่ช่วง แต่ช่วงนี้อยู่ที่ราคาวันละ 220 บาทต่อคน
นายสังเวียน เนื่องทองหลาง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 บ้านสกล ต.ตะเคียน อ.กาบเชิง เปิดเผยว่า ตนรับชาวเขมรไปเกี่ยวข้าวนาของตนเอง เนื่องจากแรงงานไทยที่รับจ้างเกี่ยวข้าวขาดแคลนไม่ค่อยมีใครรับจ้างแล้ว มักจะใช้รถเกี่ยวข้าวแทน อีกทั้งรถเกี่ยวข้าวก็หายาก และต้องต่อคิวนาน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ข้าวสุกงอม พร้อมกันเกรงข้าวจะหักคอรวง จึงจำเป็นต้องหันมาพึ่งแรงงานชาวกัมพูชา โดยเหมาเกี่ยวข้าวไร่ละ 550-650 ต่อไร่แล้วแต่ข้าวหนาข้าวบาง ช่วงนี้ก็ใกล้หมดหน้าเกี่ยวข้าวแล้ว ต้องดูแลเรื่องอาหารเช้าและเที่ยงฟรี ส่วนตอนเย็นก็มาส่งข้ามแดนกลับประเทศเวลาประมาณ 4 โมงเย็นกว่า แต่ไม่เกิน 2 ทุ่มก่อนที่ประตูด่านจะปิด ทั้งนี้มาตรการของ ตม.กาบเชิง ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ที่เมื่อก่อนเมื่อเปิดประตูด่านแล้วแรงงานชาวกัมพูชาจะพากันวิ่งขึ้นรถนายจ้างเลย ไม่มีมาตรการเข้มงวดเหมือนทุกวันนี้ ที่หากเราจะเอาชายกี่คนหญิงกี่คนก็ต้องลงบันทึกและเมื่อมาส่งก็ต้องตรงกับจำนวน ซึ่งต้องรับผิดชอบทั้งไปและกลับ
ด้าน ร.ต.อ.บวรศักดิ์ คำรังสี รอง สว.ตม.กาบเชิง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง มีมาตรการควบคุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนมารับจ้างเกี่ยวข้าวในฝั่งไทย ที่ขาดแคลนแรงงานเกี่ยวข้าว
ซึ่งในช่วงเช้านายจ้างชาวไทยจะมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะเอาแรงงานกัมพูชาไปกี่คน ก็จะมีเอกสารให้กรอกจำนวนและหลักฐานเอกสารของนายจ้าง โดยเก็บไว้ที่เจ้าหน้าที่ 1 ชุดและนายจ้าง 1 ชุด และหลังจากนำแรงงานกัมพูชากลับมาส่งจะต้องนำเอกสารมายืนยันให้ตรงกับจำนวนชาวกัมพูชาที่นายจ้างรับไป
ซึ่งมาตรการควบคุมดังกล่าว สามารถควบคุมแรงงานชาวกัมพูชาเข้าออกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบปัญหาที่นายจ้างจำนำส่งชาวกัมพูชาไม่ครบ
อีกทั้งเป็นการนำไปทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ และแรงงานชาวกัมพูชาที่รับจ้างเกี่ยวข้าวในฝั่งไทยก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้นายจ้าง