ศึกศาสนาเดือดศิษย์วัดยกพวกบุกพังโบสถ์คริสต์

                  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ต.ทำนุ หาญปี พนักงานสอบสวน สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี รับแจ้งมีผู้บุกเข้าไปทำลายข้าวของในโบสถ์ศาสนาคริสต์ นิกายโปแตซแตนท์ ที่ทำการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งอยู่เลขที่ 26 หมู่ 3 บ้านโนนสว่าง ถนนสายบ้านโนนสว่าง-หนองวัวซอ ต.หนองวัวซอ จึงรีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น พบป้ายชื่อของโบสถ์ โต๊ะเก้าอี้ คอมพิวเตอร์และกระติกน้ำร้อน พังเกลื่อนพื้น

นายโยธิน หยั่งพรสุข ผู้ดูแล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มชายกว่า 20 คน ที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ บุกเข้ามารื้อทำลายอย่างบ้าคลั่ง แม้จะพยายามร้องห้ามแต่กลับไร้ผล กลุ่มผู้ก่อเหตุยังงัดเอาไม้กางเขนที่ติดอยู่ไปด้วย โดยระหว่างเกิดเหตุตนถูกบังคับให้อยู่แต่ในห้องนอนชั้นล่างเท่านั้น ทั้งนี้ขอยืนยันว่าในกลุ่มผู้ก่อเหตุมีพระภิกษุห่มเหลืองยืนอยู่ด้วย

            “ทางศาสนาจักรโปแตซแตนท์ จ.อุดรธานี ทำสัญญาเช่าสถานที่จากนางนิตยา นาเพ็ชร์ อายุ 40 ปี ปีละ 37,000 บาท เป็นสถานที่เผยแพร่ (โบสถ์)ศาสนาคริสต์ และจะหมดสัญญาลงในเดือนเมษายน 2556 ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีชาวบ้านหันมานับถือศาสนาคริสต์มากขึ้น เพราะศาสนาคริสต์มีแต่ให้ ไม่เคยเรียกรับหรือเก็บเงินจากชาวบ้านแม้แต่บาทเดียว อาจทำให้กลุ่มคนดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์วัดไม่พอใจ” นายโยธิน กล่าว ด้าน นายวศิน จันทรพล ปลัดอาวุโส อ.หนองวัวซอ

             เปิดเผยว่า หลังมีประชาชนอ้างตัวเป็นลูกศิษย์วัด และต้องการให้โบสถ์แห่งนี้ย้ายออกไปตั้งที่อื่นนั้น มีมานานแล้ว และตนได้รับมอบหมายจากนายอำเภอหนองวัวซอ ให้เป็นประธานแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเคยมีการเจรจาพูดคุยมา 2 ครั้งแล้ว กระทั่งวันที่ 13 พ.ย. เวลา 10.00 น. ศจ.ดร.ประชา ไทยวัชรามาศ ประธานคริสจักรโปแตซแตนท์จังหวัดอุดรธานี และเป็นประธานมูลนิธิสีขาว พร้อมตัวแทนของโบสถ์ดังกล่าวประมาณ 10 คน เดินทางไปประชุมร่วมกันกับหลายฝ่ายของอำเภอหนองวัวซอ เช่น วัฒนธรรมอำเภอ พุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี

              “วันนั้นได้ข้อสรุปว่า ทางโบสถ์ดังกล่าวนั้นพร้อมที่จะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นตามที่ต้องการ แต่ขอเวลาที่จะไปหาสถานที่แห่งใหม่ก่อน ประกอบกับสัญญาการเช่าสถานที่กับเจ้าของเดิมยังไม่หมดลง และได้เสนอขอความช่วยเหลือต่อทางอำเภอหนองวัวซอ ว่า ให้ทางอำเภอหาสถานที่ที่เป็นทรัพย์สินของราชพัสดุให้เป็นสถานที่ตั้งแห่งใหม่แต่กลับถูกทำลายเสียก่อน” นายวศิน กล่าว

                ขณะที่ ศจ.ดร.ประชา กล่าวว่า หลังทราบเรื่องจากผู้ดูแลโบสถ์ จึงรีบเดินทางมาเพราะเป็นห่วง เพราะตนและตัวแทนได้มีการตกลงกับทางฝ่ายปกครองอำเภอแล้ว จึงไม่น่าที่จะมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา พวกเราเป็นเพียงผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอื่น ๆ แต่อย่างใด ประชาชนเองก็มีสิทธิ์ตามกฎหมายว่าจะนับถือศาสนาใด เรามาอยู่ที่ตรงนี้มากกว่า 3 ปี แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร จะให้พวกเราย้ายออกไป พวกเราก็พร้อมที่จะย้ายออกไป แต่ก็ต้องขอเวลาพวกเราบ้าง เพราะเรื่องของสถานที่โดยเฉพาะสัญญาที่ทำกับเจ้าของอาคารที่จะหมดลงในเดือน เม.ย.ปีหน้า

ต่อมานายธีรภัทร อดิเทพ นายอำเภอหนองวัวซอ พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า ผกก.สภ.หนองวัวซอ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ 10 นาย ให้เฝ้าดูแล ความปลอดภัย โบสถ์ เพราะกลัวว่า กลุ่มคนและพระจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก