พ่อแม่มั่นใจใช่ลูก หลังพบ2โครงกระดูกใกล้ซากเครื่องบินตก
เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เจ็ดคต-โป่งก้อนเสา อ.แกงคอย จ.สระบุรี พร้อมด้วย ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ชุดสะกดรอยศูนย์การสัตว์ทหารบกปากช่อง ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการสุนัขและม้า (บางเขน) กทม. ที่นำสุนัขตำรวจโทชื่อ ดีโป้ และไอโก มาสมทบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เพื่อออกค้นหาร่างของนายรณพ เหลืองวิลาวัณย์ อายุ 27 ปี และนายภาคิน ไทยถนอม อายุ 26 ปี นักเรียนฝึกบิน ที่สูญหายไปเมื่อ 5 ปีก่อน โดยการค้นหาในครั้งนี้ นายรังสี เหลืองวิลาวัลย์ บิดาของนายรณพ ได้เดินทางไปด้วย เมื่อไปถึงจุดที่พบซากเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด กระจายกันค้นหา จากศูนย์รวมบริเวณเครื่องตก แล้วกระจายเป็นวงกว้างในรัศมี 200 เมตร
ผลการค้นหาเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันพลิกซากเครื่องบินขึ้น จึงพบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ (ป่น) ยาวประมาณ 1-2 ซ.ม. เป็นจำนวนมากอยู่ใต้ท้องเครื่องบิน พร้อมด้วย เครื่องส่งสัญญาณ, กระเป๋า 1 ใบ ปะปนอยู่กับแว่นตา, นาฬิกาข้อมือ, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, รองเท้าหนังข้างซ้าย 2 ข้าง, สร้อยคอ 1 เส้น และบัตรประจำตัวประชาชนของ นายภาคิน ไทยถนอม โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ใช้ตะแกรงร่อน นำดิน และกระดูก ที่พบบรรจุใส่ถุงนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเพื่อความแน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายประยุทธ์และนางจรรยา ไทยถนอม พร้อมทั้ง นางวรรณี เหลืองวิลาวัลย์ ครอบครัวของนักบินทั้งสอง ที่รอฟังข่าวอยู่ที่ศูนย์ศึกษาฯ หลังได้ทราบว่า พบกระดูกและสิ่งของเครื่องใช้ของนักบินหลายรายการ ต่างให้สัมภาษณ์เสียงเครือ ว่า หลังรอคอยมานานกว่า 5 ปี ทีแรกทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อพบเข้าจริงๆ กลับทำใจไม่ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “ก็คิดว่าเขายังอยู่” นายประยุทธ์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป ก็ต้องรอให้ทางนิติเวชพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากนั้นทั้งสองครอบครัวจะนำกระดูกของลูกทั้งสองไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ต่อไป