นอกจากนี้พบรองเท้าแตะสีแดง 1 ข้างอยู่ที่ปากบ่อ และอีกหนึ่งข้างอยู่ในบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นบ่อแบบสำเร็จรูปฝาท่อทำด้วยพลาสติก ฝาเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 ซม. ฝังลงไปในดินที่มีความลึกประมาณ 1 – 2 เมตร ปูนโบกปิดทับท่อบำบัดน้ำเสียให้เหลือเฉพาะปากบ่อพักน้ำเสียที่มีความกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร ขณะเกิดเหตุฝาบ่อพักน้ำเสียที่เกิดเหตุทำด้วยพลาสติกสีดำยังเปิดอยู่ โดยอยู่ในบริเวณอาคารที่ 4 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา และอยู่ด้านหลังของอาคารเรียนของนักเรียนอนุบาล
ต่อมา ย่าของเด็กที่เสียชีวิต เดินทางมาถึงและร่ำให้ด้วยความเสียใจที่หลานสาวตกท่อบำบัดน้ำเสียถึงแก่ความตาย
จากการสอบถามเบื้องต้น ครูคนหนึ่งบอกว่า ในช่วงเช้าก็มีการเรียนการสอนเป็นปกติ เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงครูในโรงเรียนอนุบาลก็ให้เด็กนักเรียนพักเที่ยง และให้เล่นกันตามปกติประสาเด็ก โดยมีครูอนุบาลของโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองแวง จำนวน 3 คน ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยให้เด็กนักเรียนวิ่งเล่นอยู่ในอาคารของนักเรียนอนุบาลเท่านั้น และห้ามไปวิ่งเล่นแถวอาคาร 4 ซึ่งเป็นสถานที่เรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่เป็นเด็กโต และบริเวณอาคาร 4 ก็มีบ่อบำบัดน้ำเสียจำนวน 2 บ่อ ที่จะมีนักการภารโรงมาเปิดฝาบ่อบำบัดน้ำเสีย เพื่อเอาน้ำในบ่อบำบัดไปรดน้ำต้นไม้เท่านั้น จากนั้นก็จะมีการปิดฝาบ่อบำบัดน้ำเสียทุกครั้ง
กระทั่งเวลาบ่ายโมงของวันเกิดเหตุ ครูได้พานักเรียนทั้งหมดเข้านอนแล้วก็ไม่พบ ด.ญ.จอย หายไป จึงพากันออกตามหาจนทั่วโรงเรียน โดยไปตามที่บ้านพักของเด็กก็ไม่พบตัว กระทั่งมีเพื่อนของเด็กหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า เห็น ด.ญ.จอย ถือขนมไปกินแถวบ่อบำบัดน้ำเสีย ครูในโรงเรียนจึงไปดูก็พบฝาท่อบ่อเปิดอยู่ และพบรองเท้าแตะอยู่บนปากบ่อ จึงได้พากันก้มดูในบ่อบำบัดน้ำเสียก็เห็น ด.ญ.จอย ตกอยู่ในบ่อ จึงช่วยกันนำตัวขึ้นมาแต่ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านย่าของ ด.ญ.จอย บอกว่า เมื่อประมาณ 2- 3 เดือนที่ผ่านมา เคยมีเด็กนักเรียนอายุประมาณ 7 – 8 ขวบ ตกลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสียที่อยู่ใกล้กับบ่อบำบัดที่เกิดเหตุมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เด็กไม่เป็นอะไรมาก บ่อบำบัดนั้นจึงได้มีการใช้ฝาปิดแน่นหนาและใช้ลวดมัดฝาท่อกับปากบ่อ พร้อมกับใช้อิฐบล๊อกวางทับอีกชั้นหนึ่ง แต่ฝาท่อบำบัดน้ำเสียที่อยู่ใกล้กันซึ่งเป็นอันที่เกิดเหตุในคราวนี้ ยังไม่มีการปิดฝาให้แน่นหนา จึงคาดว่าเมื่อเด็กไปเล่นใกล้กับบ่อแล้วพลาดไปเหยียบฝาท่อก่อนลื่นตกลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสียดังกล่าวจนเสียชีวิต