สรยุทธ ซัดสื่อเต้าข่าว ยัน ยังไม่มีบริษัทไหนถอนโฆษณา

สรยุทธ ยัน ยังไม่มีบริษัทไหนบอกจะถอดโฆษณารายการข่าว ช่อง 3 ซัดสื่อเต้าข่าว ขณะที่ ศาลปกครองยังไม่มีคำพิพากษา กรณีฟ้อง อสมท ไม่ชำระค่าโฆษณาคืนออกมา แต่ตุลาการเจ้าของสำนวนคดี เสนอให้ อสมท คืนเงินส่วนเกินแก่ไร่ส้ม

           วันนี้ (15 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดี ในคดีหมายเลขดำที่ 1141/2551 คดีระหว่าง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง โดยกำหนดนัดในเวลา 10.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

          ทั้งนี้ ในการแถลงคดี นายอนุชา ฮุนสวัสดิกุล ตุลาการผู้แถลงคดีเสนอความเห็นต่อองค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวนว่า ควรให้ บริษัท อสมท คืนเงินจำนวน 49.35 ล้านบาท ที่เป็นส่วนลดโฆษณา ให้กับบริษัทไร่ส้ม พร้อมชำระค่าส่วนแบ่งโฆษณาที่เบียดสิทธิ์ผู้ฟ้อง พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ด้วย เนื่องจากพบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีการโฆษณาเกินเวลาจริง และมีผู้เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นจำนวนมากซึ่งง่ายต่อการตรวจสอบ ดังนั้น การที่บริษัทไร่ส้มจะจ้างบุคคลอื่นมาดำเนินการปกปิดคิวโฆษณาที่เกินนั้นค่อนข้างทำได้ยาก จึงถือว่าเป็นความบกพร่องของผู้ถูกฟ้องที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบ

          อย่างไรก็ตาม ความเห็นดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางประกอบการพิจารณาขององค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวน ซึ่งในวันนี้เป็นเพียงการแถลงคดีเท่านั้น ยังไม่มีคำพิพากษาเกี่ยวกับคดีดังกล่าวออกมา โดยศาลปกครองจะทำการพิจารณาคดีอีกครั้งหนึ่ง

          จากนั้น ภายหลังสิ้นสุดการแถลงคดี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ได้เดินออกจากห้องพิจารณาคดีที่ 2 พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งยังคงต้องรอคำพิพากษาของศาลต่อไป ส่วนสังคมจะวิพากษ์วิจารณาอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล 

สำหรับคดีดังกล่าวนี้ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้ยื่นฟ้อง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ว่า บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปฏิบัติผิดข้อตกลงและสัญญาร่วมผลิตรายการโทรทัศน์ในชื่อรายการ "คุยคุ้ยข่าว" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โดยเรียกเก็บค่าโฆษณาส่วนเกินจากผู้ฟ้องคดีโดยไม่ให้ส่วนลดทางการค้าตามข้อตกลง นอกจากนี้ผู้ถูกฟ้องคดียังได้โฆษณาเกินส่วนแบ่งเวลาตามข้อตกลง

            ทั้งนี้ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือถึงผู้ถูกฟ้องคดีเพื่อขอให้คืนเงินค่าโฆษณาที่ผู้ฟ้องคดีได้ชำระเกินไป และขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระเงิน ค่าโฆษณาส่วนเกินให้แก่ผู้ฟ้องคดี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีเพิกเฉยไม่ชำระหนี้ให้แก่ผู้ฟ้องคดีภายในระยะเวลาที่กำหนดตามหนังสือทวงถาม เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฟ้องคดี