นักวิชาการพะเยาเดือดร่วมประณามผู้จัดละคร ‘แรงเงา’
นักวิชาการพะเยาเดือดร่วมประณามผู้จัดละคร ‘แรงเงา’ วันที่ 14 พ.ย. ผศ.มนตรา พงษ์นิล อาจารย์ประจำคณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา(มพ.) ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า กรณีผู้จัดและผู้ประพันธ์บทโทรทัศน์ละครเรื่อง แรงเงา ได้สร้างบทละครโทรทัศน์ตอนที่กล่าวพาดพิงมุตตาและมุนินทร์เป็นสาวดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ในเชิงเหยียดหยามในลักษณะที่ส่อว่าเป็นแหล่งที่มีผู้หญิงขายบริการนั้น นับว่าเป็นบทละครโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่บนฐานคิดและทัศนะในการมองแบบเหมารวมสาวดอกคำใต้ ด้วยการตีตราต่อผู้หญิงดอกคำใต้ให้แช่แข็งอยู่ในภาพตายตัว ซ้ำยังตอกย้ำและผลิตซ้ำความเป็นอื่นและผู้หญิงไม่ดีอยู่ร่ำไป ปัญหาคือการรับรู้ต่อภาพลักษณ์สาวดอกคำใต้ของคนกรุงเทพและชนชั้นกลาง ยังคงฝังหัวและไม่ได้สลัดหลุดไปเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงมาในปัจจุบัน ทั้ง ๆ ที่บทบาทของผู้หญิงพะเยาและดอกคำใต้มีมากขึ้นจนเป็นพลังสำคัญในด้านต่างๆ ของจังหวัดและประเทศ เช่น บทบาททางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม แต่ทัศนะในเชิงดูถูกเหยียดหยามสาวพะเยากลับยังคงอยู่กับสังคมในเมืองหลวง ตอนหนึ่งในบทละครโทรทัศน์ตอนนี้ จึงเป็นภาพปรากฏของทัศนะและภาพลักษณ์ของคนกรุงที่สะท้อนการแช่แข็งผู้หญิงดอกคำใต้และพะเยาที่อยู่ในรูปแบบเดิมและยังผลิตซ้ำภาพนี้ให้ผู้ชมผ่านละครได้รับรู้ โดยไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ยอมรับตัวตนของคนอื่นและไม่ยอมเข้าใจอะไรใหม่ ๆ “ด้านการตลาดของการละคร ผู้จัดอาจจะประสบความสำเร็จในการเล่นกับกระแสและเรียกเรตติ้งของผู้ชมและสังคมจากการออกมาโวยวายของเครือข่ายกลุ่มแม่ญิงพะเยา ซี่งก็ยิ่งอาจทำให้มีผู้สนใจชมและติดตามละครเพิ่มมากขึ้น ผมก็คนหนึ่งล่ะที่ต้องชมละครเรื่องนี้ หลังจากเกิดกรณีสาวดอกคำใต้ในละคร ภาพรวมละครมีความน่าสนใจที่สอนเกี่ยวกับปัญหาความไม่ซื่อตรงของคู่สมรส จนก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ที่อาจจะสะท้อนถึงสภาพสังคมในปัจจุบันได้อย่างดี แต่การนำภาพที่คนในอำเภอหรือจังหวัดถูกยัดเยียดให้ในสมัยก่อน เพื่อมาเล่นกับความรุนแรงของอารมณ์คนชม ก็เท่ากับว่ากระทำความรุนแรงกับชาวพะเยาและสาวเหนือ ขอเรียกร้องให้คนเขียนบทละครทีวีเลิกเป็นชนชั้นกลวงได้แล้ว และขอประณามบทละครตอนนี้ของแรงเงาด้วยคนครับ”ผศ.มนตรา กล่าว ด้านนายรัฐวุฒิชัย ใจกล้า ประธานชมรมพัฒนาท้องถิ่นจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในอดีตเมื่อครั้งที่ตนเป็นผู้นำองค์กรครูใน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เคยมีละครเรื่องหนึ่งทางสถานีโทรทัศน์ที่ไม่ขอเอ่ยนาม ได้ประพันธ์บทโทรทัศน์ตอนหนึ่งพาดพิงสาวดอกคำใต้อย่างรุนแรง เนื้อหาถ้อยคำที่ตัวละครใช้เป็นลักษณะจิกหัว ชี้หน้าด่า ตรงนี้ทำให้องค์กรครูและชาวดอกคำใต้ไม่พอใจ ถึงขั้นทำให้ทางบริษัทผู้ผลิตละครต้องแสดงความรับผิดชอบ มาทำพิธีขอขมาเพื่อขอโทษต่อชาวดอกคำใต้ในสิ่งที่ได้ทางบริษัทผู้ผลิตละครปล่อยให้เกิดขึ้น โดยมีการทำพิธีขอขมากลางวิหารวัดบุญเกิด ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “สำหรับละครแรงเงา แรกผมก็ไม่รับรู้เพราะไม่ดูละคร แต่เมื่อกลายเป็นประเด็นที่กระทบถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของสาวดอกคำใต้-พะเยา คงยอมไม่ได้ ผมจึงอยากถามหาจิตสำนึกของคนทำสื่อสร้างละคร ว่ายังมีหลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่ เพราะวันนี้คุณได้ทำให้เกิดภาพมายาคติที่ไม่ดีต่อสาวดอกคำใต้-พะเยา ขึ้นมา ในขณะที่เวลานี้ผู้หญิงพะเยาต่างได้เตรียมพร้อมรับกับการพัฒนาที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งด้านการศึกษา การพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาอาชีพ แต่คนทำละครยังงมอยู่กับภาพจำที่ไม่สร้างสรรค์ แล้วสื่อจะช่วยสร้างสรรค์สังคมได้อย่างไร” นายรัฐวุฒิชัย กล่าว