พระบรมฯเสด็จฯชลมารคถวายผ้าพระกฐิน

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ พระบรมฯเสด็จฯชลมารคถวายผ้าพระกฐิน

สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯ แทนพระองค์ ถวายผ้าพระกฐินทางชลมารค ขบวนเรืองดงามตระการตา

ขณะที่พสกนิกรชาวไทยเฝ้ารับเสด็จ เปล่งเสียงทรงพระเจริญไม่ขาดสาย ชื่นชมความสวยงาม พร้อมตั้งใจร่วมกุศลถวายแด่ในหลวง ด้านชาวต่างชาติสุดทึ่ง ชี้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่สุดประเสริฐ

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 เวลา 15.09 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยเสด็จด้วย

เมื่อรถยนต์พระที่นั่งจากวังศุโขทัย ถึงยังท่าวาสุกรี รถยนต์พระที่นั่งเทียบ กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังสะพานฉนวนประจำท่าเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ มี พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการขบวนเรือพยุหยาตรา กราบบังคมทูลรายงานจำนวนเรือ และกำลังพล ต่อจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ส่งเสด็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จไปทอดพระเนตรขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ ที่รับรองท่าเทียบเรือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี แตร สังข์ มโหระทึก กลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามลำดับราชประเพณี เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชถึงวัดอรุณราชวราราม เทียบเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชที่สะพานท่าหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญผ้าพระกฐินจากบุษบกไปยังพระอุโบสถ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เทียบ ณ สะพานฉนวนน้ำประจำท่าวัดอรุณราชวราราม หน้าพระอุโบสถ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เทียบ ณ สะพานฉนวนน้ำ หน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

จากนั้นเสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถทรงรับผ้าพระกฐินจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ ที่ชุมนุมสงฆ์ ตามพิธีกรรมราชประเพณี เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

ขบวนพยุหยาตราสุดตระการตา

สำหรับขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ มีเรือในขบวนจำนวน 52 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือรูปสัตว์ 8 ลำ ได้แก่ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรืออสุรวายุภักษ์ และเรืออสุรปักษี เรือดั้ง 22 ลำ และเรืออื่นๆ อีก 18 ลำ โดยใช้กำลังพลจากหน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือเป็นฝีพายเรือพระราชพิธี รวมถึงกำลังพลในส่วนอื่นๆ จำนวน 2,311 นาย โดยการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 16 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้เป็นความงดงามตระการตาของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค มรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย ถูกถ่ายทอดด้วยศิลปกรรม ประติมากรรมวิจิตรบรรจง สลักเสลาจนเป็นลำเรืออ่อนช้อยงดงาม เมื่อนำมาผนวกกับกาพย์เห่เรือที่ร้อยเรียงด้วยถ้อยคำสละสลวยตามฉันทลักษณ์ ประกอบกับความพลิ้วไหวและพร้อมเพรียงของฝีพาย เมื่อสอดรับกับเสียงขับขานกาพย์เห่เรือที่ดังกังวานทั่วคุ้งน้ำ ทำให้บรรยากาศทั่วทั้งบริเวณที่ขบวนเรือแล่นผ่านประดุจดังเมืองสวรรค์ สายน้ำที่นิ่งสงบทอดยาวจากเหนือจดใต้ถูกทาบทาด้วยขบวนเรืออันงดงาม ยิ่งใหญ่ตระการตา

ปชช.เฝ้ารับเสด็จ-ชมขบวนเรือ

ส่วนบรรยากาศภายในโรงพยาบาลศิริราช ทั้งบริเวณพลับพลาพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และบริเวณท่าน้ำศิริราช ปรากฏว่ามีประชาชนจากทั่วสารทิศจับจองพื้นที่ริมกำแพงเพื่อรอชมริ้วขบวนพยุหยาตราอย่างเนืองแน่น ถึงแม้สภาพอากาศจะค่อนข้างอบอ้าว เมฆครึ้ม มีฝนโปรยปรายเป็นระยะแต่ประชาชนทุคนยังเฝ้ารอรับเสด็จไม่ขาดสาย

เปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ริ้วขบวนพยุหยาตราผ่านบริเวณ รพ.ศิริราช ปรากฏว่า จากสภาพอากาศเมฆครึ้มได้แปรเปลี่ยนเป็นฟ้าเปิดทันที นอกจากนี้ยังมีเสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องเป็นระยะ และเมื่อริ้วขบวนเรือฯ เคลื่อนผ่านไปหมดแล้วต่างก็แยกย้ายกลับบ้าน

ส่วนบรรยากาศบริเวณท่าน้ำวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของขบวนเรือพยุหยาตรา ได้มีประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มาเฝ้ารอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก บางคนนำธงชาติไทยและธงตราสัญลักษณ์ ภปร มาโบกสะบัดรับเสด็จด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.34 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มายังพลับพลาที่ประทับบริเวณริมน้ำวัดอรุณฯ โดยประชาชนบางส่วนมีโอกาสได้เฝ้ารอรับเสด็จบริเวณโดยรอบพระอุโบสถด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทางวัดได้นำเสื่อมาปูพื้นเพื่อรองรับประชาชน

ชาวต่างชาติทึ่งร่วมชมพระราชพิธี

นางวราภรณ์ แลนดรี้ อายุ 60 ปี ราษฎรชาว จ.ชลบุรี ผู้พิการด้วยโรคอัมพฤกษ์ซีกซ้าย แต่ไม่ย่อท้อ ตัดสินใจเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อมารับเสด็จพร้อมกับลูกสาวด้วยรถยนต์ส่วนตัวตั้งแต่กลางดึก เล่าว่า ที่บ้านเปิดร้านขายของชำทั่วไป ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าจากโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รู้สึกตื่นเต้นดีใจ และมีความสุขอย่างสุดซึ้ง ที่ได้มารอรับเสด็จในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินฯ ถึงแม้ร่างกายจะพิการหรือต่อให้ลำบากแค่ไหน เมื่อนึกถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ก็ทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป

ขณะที่นางการ์บี้ คามุดสดี้ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน วัย 65 ปี เผยว่า เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นประจำ เพราะชื่นชอบความเป็นไทยและอาหารไทย ในวันนี้ทราบข่าวจากพี่สะใภ้ชาวไทยว่าจะมีพระราชพิธีฯ จึงตั้งใจมาชมสักครั้งในชีวิต โดยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 13.30 น. แต่ทำใจไว้บ้างว่าคงไม่เห็นขบวนเรือชัดเจน เพราะริมสองฝั่งเจ้าพระยามีประชาชนหนาตามาก

"ตอนที่อยู่เยอรมนี ได้นำเสนอข่าวพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเห็นได้ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ และประเสริฐมาก ทรงทำเพื่อประชาชนของพระองค์ให้อยู่ดีกินดีเสมอมา ฉันจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกแน่นอน" นางการ์บี้ กล่าว

"กองทัพเรือ"ทำพิธีบวงสรวงแม่ย่านาง

ก่อนหน้านี้พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสังเวยเครื่องสักการะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกองทัพเรือ และพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเคลื่อนย้ายเรือพระราชพิธีไปที่ท่าวาสุกรี จัดเตรียมขบวนเรือในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรมหาวิหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554

ปชช.แห่จองพท.ชมกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค

บรรยากาศตลอดช่วงเช้าวันนี้ที่ ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช มีพสกนิกร ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เดินทางนำแจกันดอกไม้ พานดอกไม้ และพวงมาลัย มาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ตัวแทนครูและนักเรียน โรงเรียนเกิ้งวิทยานุกูล จังหวัดมหาสารคาม ตัวแทนสหกรณ์ประมงคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี ตัวแทนสมาคมสงเคราะห์สหายศิลปิน ตัวแทนผู้บริหารเทศบาล ต.เกาะคา จ.ลำปาง และตัวแทนสำนักเทศบาล อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าโรงพยาบาลศิริราช ขณะนี้มีพสกนิกรประชาชน เริ่มทยอยเดินทางมาเฝ้าติดตามชมกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนิน ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ที่จะมีขึ้นในเวลา 15.00 น. วันนี้

"รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล"ยันปิดสะพานปิ่นเกล้าแค่ช่วงขบวนเสด็จฯผ่าน

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยและจราจร ในวันนี้ ซึ่งมีพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ว่า ขบวนจะเริ่มจากสะพานพระราม 8 ไปจนถึงวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตามเส้นทางเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา และริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเส้นทางที่เสด็จฯ ผ่าน จะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านจราจร

ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ที่เป็นเส้นทางขบวนเสด็จฯ จะลอดผ่าน จะใช้กำลังจากตำรวจจราจร จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และตำรวจจราจรจากกองบังคับการตำรวจจราจร ดูแลทั้งสองฟากฝั่ง โดยจะปิดไม่ให้รถสัญจรผ่านเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้กระทบการจราจรน้อยที่สุด และหลังขบวนเสด็จฯ ผ่านจะเปิดให้ใช้ตามปกติ ทั้งนี้ ประชาชนที่จะมาเฝ้าฯ รอรับเสด็จ ให้ใช้รถบริการโดยสารสาธารณะ จะได้รับความสะดวกกว่า

บชน.กำลัง700นายรักษาความปลอดภัย

พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร โฆษกบชน. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2555 ว่า ขบวนเรือพระที่นั่งจะเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากท่าวาสุกรี เวลา 15.00 น. และไปสิ้นสุดที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในเวลา 16.00 น. โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. และพล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงศ์ รองผบช.น. รับผิดชอบงานกิจการพิเศษ ได้วางภารกิจ ไว้ 2 ส่วน คือด้านการถวายความปลอดภัยในการเสด็จพระราชดำเนินทางรถยนต์ และริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ตั้งแต่ท่าวาสุกรี (หอสมุดแห่งชาติ) ไปจนถึงท่าน้ำวัดอรุณฯ ตลอดจนบริเวณสะพานพุทธ

พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวอีกว่า การจัดกำลังตำรวจถวายความปลอดภัยจะใช้กำลังจาก 12 โรงพัก ได้แก่ สน.สามเสน, สน.ชนะสงคราม สน.พระราชวัง สน.บวรมงคล สน.บางโพ สน.ปากคลองสาน สน.จักรวรรดิ สน.บางพลัด สน.บางยี่ขัน สน.บางกอกน้อย สน.บางกอกใหญ่ สน.บุปผาราม และกำลังเสริมจาก บก.น.5 และบก.น.8 อีก 2 กองร้อย รวมกำลัง 700 นาย ขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่มาชมขบวนเรือพระราชพิธีฯ อีกด้วย สำหรับการจราจรในช่วงพระราชพิธี จะปิดการจราจรบนสะพานปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 ในเวลา 15.00 น.เศษ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนเรือพระที่นั่งจะเสด็จผ่าน เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามบชน.มีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน ขอให้ประชาชนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ในการระมัดระวังการปฏิบัติตัวบริเวณท่าน้ำ รวมถึงระมัดระวังมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาด้วย