หัวหน้าอุทยานฯทับลาน เผยรื้อรีสอร์ท 22 แห่ง ต้องรอกรมอุทยานฯไฟเขียว วอนนักท่องเที่ยวเลิกใช้บริการ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ต.ค. นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่าจากกรณีที่มีข่าวรีสอร์ท “บ้านผางาม” อ.นาดี ที่บุกรุกเขตอุทยานฯทับลาน ยังติดป้ายประกาศเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่นั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทราบเรื่องแล้ว ว่าป้ายประกาศรับนักท่องเที่ยวของบ้านผางามรีสอร์ท ติดตั้งมานานหลายเดือนแล้ว รวมทั้งรีสอร์ท-บ้านพักรายอื่นๆใน อ.นาดี และอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนใหญ่ยังเปิดให้บริการอยู่ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปมาก อาจมีนักท่องเที่ยวเข้าไปพักน้อยกว่า 50% เท่านั้น
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่าเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ได้ทำเรื่องถึงกรมอุทยานฯ ให้รื้อถอนรรีสอร์ทและบ้านพัก 31 แห่ง ที่บุกรุกเขตอุทยานฯทับลาน แต่ได้รับการอนุมัติให้รื้อถอน 9 ราย และนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เข้ามารื้อถอนทั้ง 9 รายไปแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้ง “บ้านทะเลหมอกรีสอร์ท” จึงเหลืออีก 22 ราย ที่ยังไม่ได้รื้อถอน
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ทำเรื่องไปยังกองนิติการ กรมอุทยานฯ
ซึ่งเป็นฝ่ายกฎหมายของกรมอุทยานฯ เพื่อขอรื้อถอนรีสอร์ท-บ้านพัก 22 แห่งที่เหลือ ซึ่งในจำนวน 22 แห่งที่ว่านี้ มีบ้านผางามรีสอร์ท ไร่กฤษวรรณ และอิมภูฮิลล์รีสอร์ท รวมอยู่ด้วย แต่กองนิติการ ของกรมอุทยานฯให้คำแนะนำว่า คดีของรีสอร์ททั้ง 22 แห่งนี้ ยังอยู่ในชั้นศาลปกครอง ศาลอุทรณ์ และศาลฎีกา จึงควรให้คดียุติในศาลหนึ่ง ศาลใดเสียก่อน
เมื่อกองนิติการ กรมอุทยานฯให้คำแนะนำมาอย่างนั้น ตนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของกรมอุทยานฯ ก็ต้องปฏิบัติตาม
เพราะถ้ากรมอุทยานฯยังไม่อนุญาตให้รื้อ ถ้าตนเข้าไปรื้อเอง แล้วเกิดความเสียหายขึ้นมาก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง แต่อย่างไรก็ตามได้ทำหนังสือทวงถามไปเป็นครั้งที่สองแล้วว่าควรจะรื้อรีสอร์ทและบ้านพักทั้ง 22 แห่ง
“ขอยืนยันว่าทั้ง 22 แห่ง ส่วนใหญ่ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก ปรับ และให้ออกจากพื้นที่อุทยานฯทับลาน ไม่ว่าจะเป็นบ้านผางามรีสอร์ท และไร่กฤษวรรณ แต่มีความพยายามไปยื่นอุทธรณ์ ยื่นศาลฎีกา และศาลปกครอง เพื่อประวิงเวลา แล้วยังเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว สำหรับบ้านผางาม นั้นไปขอรื้อฟื้นคดีอาญาใหม่ แต่ถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง เพราะไม่มีประเด็น ไม่มีหลักฐานใหม่ ส่วนไร่กฤษวรรณทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ เราชนะหมด เหลือแต่ศาลฎีกาเท่านั้น”
นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า ถ้าจะรื้อถอนทั้ง 22 แห่ง
ตอนนี้ต้องได้รับไฟเขียวจากกรมอุทยานฯเท่านั้น เนื่องจากกำลังคน และเครื่องจักรกลของอุทยานฯทับลาน ไม่มีเพียงพอ ต้องรอกรมอุทยานฯไฟเขียว จึงสามารถเข้าไปรื้อถอนได้ เพราะถ้ากรมอุทยานฯไม่ไฟเขียว เข้าไปรื้อแล้วมีอะไรเสียหาย ตนในฐานะผู้ปฏิบัติต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
ช่วงนี้เมื่อยังอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย และรอกระบวนการทางศาลตัดสินรีสอร์ท-บ้านพัก 22 แห่ง ก็ต้องใช้มาตรการทางสังคมบีบบังคับ
โดยเมื่อ 2 เดือนก่อน นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯทับลาน ได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ 3 ป้าย ไว้บริเวณทางขึ้นอุทยานฯทับลาน ทั้งทางฝั่ง อ.นาดี และ อ.วังน้ำเขียว เพื่อขอความกรุณานักท่องเที่ยว ไม่ให้เข้าไปใช้บริการรีสอร์ท-บ้านพัก ที่ถูกจับกุมเพราะบุกรุกเขตอุทยานฯทับลาน ถ้านักท่องเที่ยวไม่เข้าไปใช้บริการ รีสอร์ทเหล่านี้ก็อยู่ไม่ได้ และช่วงนี้เข้าใจว่ารีสอร์ทเหล่านี้ก็อยู่ลำบาก เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเหลือน้อยแล้ว.