โวยปูกระเบื้องคล้ายกระเบื้องห้องน้ำวัดถ้ำโบราณ

วันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชน ที่เดินทางมาเที่ยวชมวัดคูหาภิมุข หรือวัดหน้าถ้ำ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา

 ซึ่งถือเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองยะลา เกิดการเปลี่ยนแปลงกระเบื้องภายในถ้ำซึ่งประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ จากเดิมเป็นกระเบื้องดินเผาสีน้ำตาลแดง เป็นกระเบื้องสีฟ้า คล้ายกระเบื้องปูพนังห้องน้ำ จึงเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้คงรูปแบบเดิมของวัด อีกทั้งวัดคูหาภิมุขนี้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ จึงอยากให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่วัดคูหาภิมุข พบว่ามีการเปลี่ยนพื้นกระเบื้องใหม่ ในส่วนที่ยกระดับขึ้นมาจากจุดประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ โดยใช้กระเบื้องคล้ายกระเบื้องห้องน้ำสีฟ้าปูจนเต็มพื้นที่

ด้านพระครูอดุลนิคมเขต เจ้าอาวาสวัดคูหาภิมุข ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา เผยว่า วัดคูหา ภิมุข เป็นวัดที่สำคัญของเมืองยะลา
 
ภายในวัดมีถ้ำใหญ่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ รวมทั้งพระพุทธรูปอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน มีชายวัยกลางคนเป็นพนักงานเทศบาลเมืองยะลา เข้ามากราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ และบนบานขอพรว่าให้สำเร็จมีโชคลาภจากการซื้อลอตเตอรี่ หากสำเร็จตามขอ จะมาบูรณะซ่อมแซมและปูพื้นภายในถ้ำด้วยกระเบื้องอย่างดีที่สุด จากนั้นชายคนดังกล่าวสมดังปรารถนา จึงมาแก้บนตามที่บนบานด้วยการขอปูพื้นภายในถ้ำวัดคูหาภิมุข โดยใช้งบไปหลายแสนบาท อาตมาเห็นว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากพื้นภายในถ้ำเริ่มทรุดโทรมเสื่อมสภาพตามกาลเวลาจากน้ำฝนและเชื้อรา จึงอนุญาต

นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนสั่งการให้หัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 13 สงขลา
 
ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพื่อสั่งระงับการปูพื้นภายในวัดคูหาภิมุขแล้ว แม้ว่าจะปูพื้นเสร็จแล้ว แต่ตนสั่งให้รื้อพื้นกระเบื้องออก และถ้าจะนำกระเบื้องดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ภายในวัดก็สามารถทำได้ และภายในสัปดาห์นี้จะให้สำนักศิลปากรที่ 13 รายงานกลับมาให้ตนทราบอีกครั้ง

สำหรับประวัติ วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 136 หมู่ 1 บ้านหน้าถ้ำ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2390 มีถ้ำใหญ่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ปั้นด้วยดินเหนียวโดยใช้ไม้ไผ่เป็นโครง สร้างขึ้นสมัยศรีวิชัยรุ่งเรืองราว พ.ศ.1300 หรือสมัยเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนคร มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้ว ประดิษฐานภายในถ้ำคูหาภิมุข ต่อมา กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มี.ค. 2478