บดินทรฯ วุ่นไม่จบ เด็กภาคบ่ายร้องถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 25 กันยายน เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนผู้ปกครองและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคบ่าย
 
ของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เดินทางมาเข้าพบนายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่นักเรียนภาคบ่าย จำนวน 36 คนได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ไม่เสมอภาคกับนักเรียนภาคปกติ และขอให้ ศธ.สั่งการให้ทางโรงเรียนรับนักเรียนทั้ง 36 คน เรียนร่วมกับนักเรียนภาคปกติในเทอมที่ 2 โดยนายศักดากล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงขอผู้ที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 27 กันยายน เวลา 09.00 น.

ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาการรับนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนบดินทรฯออกมาประท้วงขอให้โรงเรียนรับเข้าเรียนชั้น ม.4

เพราะถูกคัดออกไม่เป็นธรรม ทั้งที่สัญญาว่าจะรับเด็กกลุ่มนี้เข้าเรียน เพราะเป็นเด็กกิจกรรม ซึ่งในที่สุดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก้ปัญหาโดยเปิดภาคบ่ายเป็นกรณีพิเศษเพื่อรับนักเรียนที่ประสงค์จะเรียนที่เดิมให้กลับเข้ามาเรียน และนายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เคยให้สัญญาไว้ในวันมอบตัวว่า ขอเวลาให้โรงเรียนเตรียมความพร้อม เมื่อผ่านพ้นไป 1 ภาคเรียนแล้วจะรับนักเรียนภาคบ่ายทั้ง 36 คนเข้าระบบให้เป็นนักเรียนภาคปกติ แต่ถึงวันนี้นายสุวัฒน์กลับปฏิเสธว่าไม่เคยพูดจาเช่นนั้นไว้ ตารางสอนของภาคเรียนที่ 2 ซึ่งออกมาแล้วนั้นก็ยังเป็นตารางเรียนภาคบ่ายเหมือนเดิม ที่สำคัญตอนนี้ใกล้จะจบภาคเรียนที่ 1 แล้วโรงเรียนยังไม่ยอมเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษากับนักเรียนกลุ่มนี้ ไม่มีการทำบัตรประจำตัวให้นักเรียน เด็กเองก็กลับมาเล่าให้ผู้ปกครองฟังว่าโรงเรียนไม่ได้ทำสมุดพกให้กับพวกเขา เพราะฉะนั้นฐานะของนักเรียนภาคบ่ายจึงไม่ต่างอะไรกับนักเรียนเถื่อน อยู่ไปแบบวันๆ แถมตนยังได้ยินมาว่า สพฐ.เองก็ไม่มีรายชื่อนักเรียนกลุ่มนี้ในระบบ ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อจบชั้น ม.6 แล้ว จะได้รับวุฒิการศึกษาเหมือนนักเรียนทั่วไปหรือไม่     

ทางด้านนายสุวัฒน์กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เคยสัญญาหรือพูดออกไปว่าจะรับนักเรียนภาคบ่ายทั้ง 36 คนเข้ามาเป็นนักเรียนภาคปกติ

โรงเรียนปฏิบัติตามคำสั่งของ สพฐ.ที่ให้รับนักเรียนกลุ่มนี้เข้าเรียนภาคบ่าย แต่ยอมรับว่าโรงเรียนยังไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษากับเด็กกลุ่มนี้ เพราะยังไม่มีคำสั่งจาก สพฐ.ให้เก็บเงินได้ ซึ่งตามสารบบของ สพฐ.นั้นไม่มีนักเรียนภาคบ่ายอยู่ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงยังไม่กล้าเก็บค่าธรรมเนียมเพราะเกรงว่าจะขัดต่อกฎหมาย ต้องรอให้ สพฐ.มีคำสั่งมาก่อน จึงจะดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมได้

“ผมยืนยันว่าเด็กกลุ่มนี้ได้เรียนและทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนนักเรียนภาคปกติ แต่ที่เด็กกลุ่มนี้ไม่ได้ทำพิธีไหว้ครูพร้อมนักเรียนปกติ ก็เพราะกว่าเรื่องจะจบ เด็กๆ จะได้เข้ามาเรียนก็กลางเดือนมิถุนายน ผ่านพ้นพิธีไหว้ครูไปแล้ว แต่เด็กอยากได้อะไร เราก็จัดให้ อยากได้พิธีไหว้ครู พิธีรับเข็มพระเกี้ยวเราก็จัดให้ ยืนยันว่า โรงเรียนทำดีที่สุดแล้ว“ นายสุวัฒน์กล่าว

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า

สพฐ.ตั้งใจที่จะดูแลเด็กกลุ่มนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ไม่เคยตั้งข้อรังเกียจ กีดกั้นหรือแบ่งแยกเด็ก ถ้าเป็นได้ก็จะพยายามผ่อนปรนให้เด็กกลุ่มนี้ได้เปลี่ยนไปในภาคปกติ โดยเฉพาะนโยบายรับนักเรียน ม.4 ปี 2556 มีการผ่อนปรนมากขึ้น ฉะนั้น เด็กกลุ่มนี้ก็น่าจะได้รับประโยชน์ด้วย อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติก็ต้องให้ขึ้นกับการบริหารจัดการของทางโรงเรียน สพฐ.จะไปสั่งการให้โรงเรียนดำเนินการตามใจชอบไม่ได้