ตะลึงบ้านนายกเทศมนตรีตำบลด่านคล้า เก็บวัตถุโบราณนับร้อย อ้างได้จากเข้าฝัน

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่าได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 7 บ้านด่านคนคบ ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา

หลังได้รับแจ้งว่ามีวัตถุโบราณจำนวนมากเก็บอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญส่ง ฤทธิ์ด่านกลาง อายุ 45 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลด่านคล้า ในบ้านพบวัตถุโบราณจำนวนมาก เช่น พระพุทธรูปปางประทานพร ปางนาคปรก พระสิวลี เจดีย์สามองค์ พระพุทธรูปทรงเครื่อง 3 ฤดู ปราสาทพญานาค เพชรหน้าคั่ง กริช ดาบ เคียว จักร และอื่นๆ อีกนับ 100 รายการ ทุกอย่างทำมาจากทองสัมฤทธิ์และทองเหลือง

 สอบถามนายบุญส่ง เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2554 เป็นวันคล้ายวันเกิดของตนอายุ ครบ 44 ปี
 
ตนนอนหลับฝันไปว่าได้ไปอยู่ในปราสาทแห่งหนึ่งมีสิ่งของเงินทองมากมาย พอรุ่งเช้าตนก็คิดเพียงว่าฝันดีแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนวันที่ 22 พ.ย. 2554 ตัวเองมีความรู้สึกว่าอยากขับรถไปในที่แห่งหนึ่งแต่ยังไม่รู้จุดหมายว่าจะไปที่ใด จึงตัดสินใจขับรถกระบะออกไปโดยไม่มีจุดหมาย กระทั่งขับรถจนไปถึงหน้า ร.พ.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด รู้สึกหิวจึงจอดรถจะไปหาของกิน แต่ก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งอายุประมาณ 55-60 ปีแต่งตัวคล้ายคนโบราณนั่งปูผ้าขายของโบราณจำพวกกริชและพระพุทธรูปอยู่ ขณะนั้นตนไม่ได้สนใจในสินค้าที่ชายคนนั้นขายเลยเพียงแต่รู้สึกสงสารว่าเขาคงจะหิวข้าวเหมือนกันจึงชวนให้ชายคนนั้นมานั่งกินข้าวด้วยในระหว่างที่นั่งกินข้าวอยู่นั้นก็ได้พูดคุยคุยกันพอสมควรแต่ชายคนนั้นไม่ได้บอกว่ามาจากไหน รู้เพียงว่าสำเนียงการพูดเหมือนคนลาวพอกินข้าวเสร็จตนก็เลยไปมองดูสินค้าที่ชายคนนั้นนำมาขายปรากฏว่าเหมือนในความฝันที่ตนฝันเห็น จึงตัดสินใจถามเช่าบูชา ตอนแรกชายคนดังกล่าวบอกว่าจะให้เช่าในราคา 10,000 บาท แต่ตนเองต่อรองเหลือ  5,000 บาทซึ่งก็ตกลง ตนจึงควักเงินจ่ายไปแต่ชายคนนั้นบอกว่าเงินแบบนี้เขาไม่ได้ใช้ จึงส่งเงินให้ตนคืนแล้วเขาก็ส่งกริชซึ่งทำด้วยทองสัมฤทธิ์ให้ตนมาแล้วตนก็นำมาเก็บไว้ที่บ้าน

 จนประมาณเดือนมกราคม 2555 ก็มีความรู้สึกกระวนกระวายเหมือนอยากจะขับรถออกไปที่ไหนสักแห่งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง

และทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกดังกล่าวก็จะได้พบเจอกับชายคนเดิมทุกครั้งและชายคนดังกล่าวก็จะเอาของโบราณมาให้อีกเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง ตนจึงนำมาเก็บไว้ที่บ้านเมื่อมีชาวบ้านรู้ข่าวก็ต่างพากันมากราบไหว้บางคนก็ขอไปเก็บไว้แต่ก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้ก็นำมาส่งคืน ตนเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร  พระเกจิหลายรูปเดินทางมาหาตนที่บ้านทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนบอกว่าของที่ได้มาเคยเป็นของตนเมื่อสมัยอดีตชาติ ชาตินี้ตนจึงจะได้เป็นคนดูแล 

 นายบุญส่ง เล่าต่อว่า ตนเป็นคนไม่รู้เรื่องพระอะไรเลยทั้งสิ้น วัตถุโบราณดังกล่าวมาตนก็ไม่รู้ว่าเป็นตั้งแต่สมัยไหนชื่อว่าอะไรก็ยังไม่รู้

แต่ตนก็กราบไหว้บูชาเรื่อยมาตนสังเกตเห็นว่าตั้งแต่ได้วัตถุโบราณเหล่านี้มาทำให้คนในหมู่บ้าน ชุมชน มีความสามัคคีกันขึ้น ช่วยกันทำโรงทานเพื่อไว้ต้อนรับชาวบ้านที่เดินทางมากราบไหว้พระโบราณ บางคนที่มาขอพรแล้วได้สมหวังก็จะนำเงินมาบริจาคตนก็จะนำเงินที่ได้ไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งทำเป็นถุงยังชีพแจกจ่ายให้กับผู้คนที่ยากไร้ และตอนนี้ตนกำลังก่อสร้างสถานที่เก็บของโบราณดังกล่าวเพื่อให้ผู้คนที่ศรัทธาได้กราบไหว้และตนอยากฝากถึงท่านที่มีความรู้เรื่องพระช่วยดูด้วยว่าพระดังกล่าวเป็นพระตั้งแต่สมัยใดเพราะตนก็ไม่เคยเห็นมาก่อน