เบลอ!ถูกป้ายยาจนหลงซื้อพระปลอมสูญ 8 แสน

                  น.ส.ธัญยธรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เจ้าของร้านรับซื้อเศษทองย่านวงเวียนใหญ่ เข้าแจ้งวามกับ พ.ต.ท.คณิศร บุญเหลือง พนักงานสอบสวน (สบ3)สน.บางยี่เรือ ว่า ถูกคนร้ายนำพระปลอมมาขาย ก่อนถูกป้ายยาจนเบลอ กระทั่งยินยอมจ่ายเงินไปหลายแสนบาทโดย นส.ธัญยธรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่20 ก.ย. ร้านรับซื้อเศษทองเงิน นาค และเพชรพลอยของตน เป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกันหลายคูหา เลขที่ 178 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน อยู่ระหว่าง ซอย 4 กับซอย 2 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี ก่อนเกิดเหตุ เวลา 10.15 น. เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ระหว่างที่ตน นั่งอยู่หน้าร้านเพียงลำพังได้มีชายวัยกลางคนอายุ 40-45ปี เข้ามาติดต่อซื้อขายทองที่ร้าน

              โดยชายดังกล่าวมีเศษทองลักษณะหลอมเป็นก้อนมาขาย ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นทองคำจริงชั่งน้ำหนักทองคำดังกล่าวได้ 15 กรัมและจ่ายเงินให้ไป หมื่นกว่าบาท จากนั้นผู้ชายคนดังกล่าวยังได้นำวัตถุเป็นก้อนสีดำ ขนาดเท่ากำปั้น โดยบอกว่าเป็นทองตนจึงตรวจสอบแล้วบอกว่าไม่ใช่ ระหว่างนั้นชายดังกล่าวก็ยังพยายาม เซ้าซี้ ให้ตรวจสอบอีกที ระหว่างนั้นตนก็ถูกสัมผัส ที่มือและแขนก่อนที่ผู้ชายคนดังกล่าวจะเอาก้อนวัตถุกลับคืนไป ต่อมา ได้นำพระพุทธรูปที่ห่อด้วยผ้าออกจากกระเป๋าขนาดหน้าตัก 4 นิ้ว น้ำหนัก 1 กิโลกรัม และบอกกับตนว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ ซึ่งตนก็นำออกมาดูแล้วก็บอกว่าไม่ใช่พระพุทธรูปทองคำ จากนั้นก็เกิดอาการมึนงง จนมองพระพุทธรูปดังกล่าวนั้นเป็นพระทองคำเหลืองอร่าม กระทั่งยอมซื้อไปในราคา 870,000 บาท

              นส.ธัญยธรณ์ กล่าวอีกว่า โดยในตอนนั้นตนมีเงินติดตัวอยู่ 2 แสนบาท จึงไปยืมเงินญาติอีก 4 แสนบาท เมื่อได้เงินมาก็นำเงินจ่ายให้คนร้ายไป 6 แสนบาท ซึ่งยังเหลืออีก 270,000 บาท ที่ต้องนำมาจ่ายให้ครบจำนวน จากนั้นจึงเดินไปกดเงินที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพ โดยมีชายดังกล่าวเดินตามประกบไปด้วย เมื่อถึงตู้ ATM ก็กดเงินได้เพียง 200,000 บาท จึงนำเงินดังกล่าวให้ผู้ชายคนนั้นไปก่อน ซึ่งยังขาดอยู่อีก 70,000 บาท จึงบอกให้ไปเอาที่ร้านเดี๋ยวจะหามาเพิ่มให้ครบ แต่ชายดังกล่าวบอกให้ล่วงหน้าไปก่อน เพราะหิวข้าวมาก เดี๋ยวจะตามไป ก่อนจะหนีไป ซึ่งจากการตรวจดุกล้องวงจรปิดย้อนไป 3 วัน พบว่า คนร้ายเข้าออกมาซื้อขายเศษเงินหลายครั้งแล้ว คาดว่าน่าจะมาดูลาดเลา

              ด้าน พ.ต.ท. วิชัย สนสกุล สว.สส.สน.บางเรื่อ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความกับผู้เสียหาย พนักงานสอบสวน พร้อมกับตำรวจฝ่ายสืบสวน ก็ได้ไปตรวจสอบที่ร้านของผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นได้ตรวจสอบกับจากกล้องวงจรปิด พบชายดังกล่าวอายุ 40-45 ปี ผมหยิกยาวเลยบ่า แต่ม้วนมวยผมไว้ และใส่แว่นสายตาลักษณะกลมใหญ่ มีผ้าปิดจมูกสีขาว ผิวขาว เวลาพูดออกสำเนียงภาษาอีสาน ซึ่งในวันเกิดเหตุได้นั่งแท็กซี่สีเหลือง ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน พร้อมกันนี้ได้ประสานสถานีวิทยุ สวพ91.และจส.100 ให้ช่วยตรวจสอบ ขณะเดียวกัน ก็ได้เร่งรัด ให้พนักงานสอบสวน อนุมัติออกหมายจับ ชายดังกล่าวจากภาพกล้องวงจรปิด เพื่อกระจาย รูปภาพดังกล่าวให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส.