บิ๊กแจ๊ด”ลั่นไม่มีแอบแฝงเหตุประดับยศ วอนขอจบ

วันนี้(18ก.ย.). ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.

แถลงกรณีภาพถ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประดับยศพล.ต.ท.ให้ ซึ่งภาพดังกล่าวติดไว้ภายในห้องรับรองของห้องทำงาน ผบช.น. ทำให้นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยื่นหนังสือร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ตรวจสอบพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก่อนที่นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรค และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการทางวินัย ว่า  เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย เจตนาไม่มีอะไร เนื่องจากช่วงที่ไม่อยู่ไปต่างประเทศ ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการไปยื่นหนังสือสอบวินัย  เมื่อกลับมาจึงได้ทำหนังสือไปทำความเข้าใจกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีข้อความว่าไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง กรณีมีนายตำรวจรุ่นพี่ประดับยศ และก็ได้มีการเขียนคำสอน

ซึ่งยืนยันกับสื่อมวลชนว่าไม่ได้กังวล สาเหตุที่ไม่เดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ก็เพราะภาพที่ตำรวจไปเผชิญหน้ากับประชาชน มันไม่ดี

ตำรวจมีหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ช่วงเช้าก็เพิ่งประชุมเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมมา เรื่องอื่นใดแอบแฝงไม่มี และยืนยันว่าหากไปยื่นเอาผิดไปยื่นได้ แต่ต่อไปหากพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล  และเกิดอึดอัดใจใจการทำงาน ก็ยืนยันว่าพร้อมลาออกจากตำแหน่ง ผบช.น. และลาออกจากชีวิตตำรวจด้วย ไม่ได้เครียด ยืนยันกับสื่อมวลชนเลยว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจริงหรือไม่ กรณีที่ไม่ไปยื่นหนังสือที่พรรคประชาธิปัตย์ เพาะมีผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย ขอไว้จริงหรือไม่

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่าไม่มี ได้ประสานกับผู้ใหญ่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านนายพิเชษฐ  พันธุ์วิชาติกุล    ซึ่งได้รับคำแนะนำว่าเรื่องแบบนี้ไม่อยากให้เป็นภาพการประจันหน้ากัน ท่านเป็นคนดี มีเหตุผล ก็ไม่มีปัญหา เพราะทางพรรคประชาธิปัตย์ให้ตัวแทนไปยื่น ก็ให้ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ ผบก.สปพ. เป็นตัวแทนไปยื่น และยื่นเพื่อให้ทำความเข้าใจว่าไม่มีเจตนาอย่างอื่น ส่วนใครจะไปตีความอะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยืนยันว่าเป็นคนรักพี่รักน้อง การประดับยศก็ให้พี่ที่เคารพรักประดับให้ไม่มีอะไรแอบแฝงให้ทุกคนสบายใจได้

“โอเคจบยัง และเรื่องนี้ ผมไม่พูดอีกแล้ว เพาะถือว่าไปยื่นหนังสือทำความเข้าใจกับเขาแล้ว ก็จบไป ส่วนใครไปเล่นประเด็นอะไรก็อีกเรื่อง ผมถือว่าบริสุทธิ์ใจ ผมเอารูปคนที่รักมาติด ดูทุกครั้งก็นึกถึงคำสอน สอนหลายปีแล้วว่าต้องทำอะไรเพื่อประชาชน เมื่อวานผมกลับมาวันแรกดูรูปนี้ ผมก็คิดว่าจะทำอะไรเพื่อประชาชน ทำให้มีแนวคิดว่าต้องตั้ง ศปก. เพื่อเตรียมรับมือน้ำท่วม นี่คือสิ่งที่จะทำ ผมไม่มีปัญหา ที่จะไปตอบโต้กับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีบุคลากรที่เก่งๆ ผมไม่มีปัญหา ผมเป็นตำรวจบ้านนอกที่เข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน จะดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด ไม่มีปัญหาตอบโต้ แต่จะทำให้พี่น้องประชาชนเท่านั้น” ผบช.น. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จก็มีตำรวจและผู้ให้กำลังใจประมาณ 4-5 คน มามอบดอกไม้ให้ด้วย

ทั้งนี้สำหรับหนังสือชี้แจงที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นำไปมอบให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้านี้ มีข้อความระบุว่า “ด้วยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2555 เวลา 13.00 น. นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้มายื่นหนังสือต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีที่กระผม พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถ่ายรูปคู่กับ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยกับกระผมนั้น

การที่กระผม ได้นำภาพถ่าย ที่นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่ ซึ่งกระผมเคารพรัก ประดับยศให้กับกระผม มาติดไว้ในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อเป็นคติเตือนใจ

นึกถึงคำสอนของพี่ทุกครั้งที่เข้าห้องทำงาน เมื่อเห็นภาพนี้ก็จะคิดได้ทันทีว่า “วันนี้เราจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน” กระผมขอเรียนว่า ตลอดเวลาของชีวิตการรับข้าราชการตำรวจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น กระผมสำนึกดีว่า กระผมเป็นข้าราชการในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับเงินเดือนที่มาจากภาษีของพี่น้องประชาชน จึงต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน อย่างเต็มความสามารถ ต้องผดุงความยุติธรรมในสังคม รู้จักแยกแยะความผิด ถูก และต้องมีความกรุณาปราณีต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนเพื่อนข้าราชการตำรวจ และผู้ใต้บังคับบัญชาที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตทุกคน ซึ่งกระผมได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถตลอดมา ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดก็ตาม

การที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเอาผิดกับผม

กรณีที่กระผมนำภาพประดับยศมาติดในห้องทำงานส่วนตัวของกระผมนั้น กระผมขอยืนยันว่า กระผมไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆแอบแฝง กระผมได้รับการอบรมสั่งสอนจากบิดา มารดา ซึ่งเป็นครูต่างจังหวัดทั้งสองท่าน โดยเฉพาะมารดาเป็นครูสอนศีลธรรมและภาษาไทย จะสอนให้รู้จักกตัญญู ซื่อสัตย์ เสียสละ ให้เกียรติคน รู้จักบุญคุณคน ไม่ข่มเหงรังแก หรือเอาตัวรอดเอาเปรียบผู้ใดทั้งสิ้น รู้จักเคารพผู้ที่ควรเรารพ ซึ่งการอบรมสั่งสอนเหล่านี้มีมาตลอดควบคู่กับจารีตประเพณีอันดีงามของสังคมไทยมาแต่โบราณ ผมเกิดและเติบโต ได้รับการอบรมสั่งสอนในประเทศไทย จึงรู้จักขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณีอันดีงามเหล่านี้ของไทยดี

กระผมถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีวิสัยทัศน์ที่คับแคบ ไร้เหตุผล

ปราศจากความเป็นธรรม ต้องการให้กระผมถูกตั้งกรรมการสอบสวน มีความผิดทางวินัย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องส่วนตัวของกระผม ไม่ควรที่ผู้ใดจะมายุ่งเกี่ยว อีกทั้งยังเป็นประเพณีของสังคมไทยที่สืบต่อกันมายาวนาน เพื่อความสบายใจของพรรคประชาธิปัตย์ จึงเรียนมายัง ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หากวันใดก็ตามที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลกระผมจะลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และจะลาออกชีวิตรับราชการตำรวจทันที”