จากกรณีนายชูชัย ชัยฤทธิเลิศ นักธุรกิจค้าเพชรระดับประเทศได้ลงทุนก่อสร้างโรงแรมชูชัยบุรีศรีอัมพวา
ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทบริเวณริมคลองอัมพวา ถนนเลียบนที ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงครามใกล้กับตลาดน้ำอัมพวา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการรื้อถอนห้องแถวเรือนไม้ริมคลองอายุเก่าแก่เกือบ 100 ปีบางส่วนออกไป ทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มรักษ์อัมพวาออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมและขัดต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่
นายสรรชัย อารยะอัศนี นายกเทศบาลตำบลอัมพวา, รองศาสตร์จารย์ด๊อกเตอร์ศิริวรรณ ศิลาพัชรนันท์ และรองศาสตร์จารย์ด๊อกเตอร์วรรณศิลป์ พีรพันธ์ อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคณะสถาปัตกรรมศาสตร์ พร้อมด้วยนายชูชัย ชัยฤทธิเลิศ ได้เดินทางมาชี้แจงกับชาวบ้านพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
โดยระบุว่าการประชุมไม่มีความชอบธรรมและมีลักษณะไม่ชอบมาพากลหลายประการ เช่น การติดต่อประสานผู้เข้าร่วมประชุมริเริ่มกระทำโดยบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจหน้าที่อนุมัติการดำเนินโครงการนี้ในอดีต อีกทั้งยังไม่มีคนกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะสร้างความสับสนให้กับสังคมด้วยการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร จึงขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดนโยบายและมาตราการทางกฎหมายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการปกป้องคุ้มครองพื้นที่สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมรวมถึงผลักดันให้ข้อกำหนดผังเมืองที่ร่างโดยประชาชนมีผลบังคับใช้กฎหมายโดยเร็ว ซึ่งก็ทำให้บรรยากาศภายในที่ประชุมตรึงเครียดเล็กน้อยและหลังตัวแทนประชาคมคนรักแม่กลองพูดจบก็ได้เดินออกจากห้องประชุมไป
โดยเฉพาะภาพที่มีผู้นำดอกไม้ไปวางที่บริเวณห้องแถวเรือนไม้ริมคลองอัมพวาแล้วร้องไห้ ทำให้ตนรู้สึกสะเทือนใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งตนไม่ได้โกรธเคืองใคร แต่สิ่งที่ตนทำคือต้องการสร้างความเจริญให้กับอัมพวามากกว่า เนื่องจากโรงแรมที่ตนสร้างจะเจาะกลุ่มลูกค้าแถบยุโรป ซึ่งมีกำลังจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสูง โดยไม่คิดที่จะแย่งลูกค้าของพี่น้องชาวอำเภออัมพวาแต่อย่างใด แต่จะมาสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ด้วยซ้ำ
จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และโพสต์ข้อความลงทางอินเตอร์เน็ตอย่างรุนแรงทำให้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น ก็เนื่องจากสภาพห้องแถวพุพังจนไม่สามารถปรับปรุงซ่อมแซมได้ ซึ่งตนก็มีแนวคิดที่จะสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับของเดิม แต่หากชาวบ้านไม่เห็นด้วยตนยินดีที่จะยกเลิกการรื้อถอนห้องแถวดังกล่าวทันทีเพราะถือเป็นสมบัติของชาติ อย่างไรก็ตามระหว่างการพูดคุยชี้แจงนายชูชัยถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ พร้อมระบุว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายอัมพวาและคนอัมพวาแต่อย่างใด
หรือคิดว่าโครงการที่ตนกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่นี้ไม่เหมาะสมหรือขัดต่อกฎหมายตนยินดีที่จะชะลอการก่อสร้างไว้ก่อนจนกว่าจะหาข้อยุติได้ แม้ว่าตนจะเสียเงินจำนวนมากมายมหาศาลไปแล้วก็ตาม เพราะตนเชื่อว่าหากตนจะมาเป็นคนอัมพวาแล้วชาวบ้านไม่เห็นด้วยไม่ต้อนรับก็คงจะไม่มีความสุข