นายธัชพล กาญจนกุล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส กลุ่มลงทุนและบริหารเงิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
ออมสินเตรียม 1 หมื่นล้านอุดกองทุนน้ำมัน
กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารได้มีการประชุมผู้บริหารระดับสูง สายงานลงทุน สภาพคล่อง สายธุรกิจสินเชื่อ โดยมีการหารือถึงการบริหารสภาพคล่องของธนาคาร จากที่สภาพคล่องธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเงินสดที่ 1.3 แสนล้านบาท และพันธบัตร 7 หมื่นล้านบาทสภาพคล่องดังกล่าวเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะเงินสดที่มาจากเงินฝากของธนาคาร ซึ่งสูงกว่าระดับปกติของธนาคารในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ที่มีสภาพคล่องเฉลี่ยเพียง 50,000-60,000 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ สภาพคล่องดังกล่าวยังสูงใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มีสภาพคล่องใกล้เคียง 1.3 แสนล้านบาท แต่ครั้งนั้นเกิดจากการระดมทุนของธนาคารเพื่อนำไปใช้ในโครงการรัฐบาล การเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องอย่างรวดเร็วนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนโยกย้ายเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์เข้ามาสู่ธนาคารรัฐมากขึ้น โดยเฉพาะเข้ามาฝากธนาคารออมสินในช่วงระยะเวลา 1-2 เดือนนี้ เนื่องจากธนาคารได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับ การบริหารสภาพคล่องดังกล่าว ธนาคารมีแผนนำไปปล่อยสินเชื่อต่อยอดโดยเฉพาะสินเชื่อให้กับรายย่อยเพื่อขยาย ฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ธนาคารยังมีแผนลงทุนในตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น และสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดทองคำที่คาดให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 10 ต่อปี
นอกจากนี้ที่ผ่านมาธนาคารนำสภาพคล่องไปปล่อยสินเชื่อในโครงการรัฐบาล โดยล่าสุดธนาคารอยู่ระหว่างการรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้ขออนุมัติสินเชื่อนำไปเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิง หลังมีผลขาดทุนสะสมใกล้เคียง 15,000 ล้านบาทโดยคาดว่าการปล่อยสินเชื่อให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวน่า จะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท เป็นระดับเดียวกับของธนาคารกรุงไทยที่ปล่อยสินเชื่อให้กองทุนน้ำมันฯ 10,000 ล้านบาทเช่นเดียวกัน ธนาคารออมสินก็มีการสำรองเงินสภาพคล่องส่วนหนึ่งเพื่อรองรับโครงการรัฐบาล อยู่แล้ว จึงไม่กระทบสภาพคล่องในระบบธนาคารอย่างแน่นอน
ส่วนโครงการที่ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่อง ซึ่งล่าสุดมีสินเชื่อคงค้างที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการรัฐบาลที่ราว 3 แสนล้านบาท อาทิ 1.โครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้าง ต่ำกว่า 500,000 บาท เข้าโครงการรวม 380,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 30,000 ล้านบาท 2.เงินช่วยเหลือแก่สถานประกอบการโครงการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้าง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ่ายเงินให้กับสถานประกอบการที่มาขอรับเงิน จำนวน 1,987 บริษัท จำนวนลูกจ้าง 409,000 ราย 3.สินเชื่อให้ความช่วย เหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 2554 วงเงินรวม 34,085 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3 ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี 4.โครงการสินเชื่อกลุ่มอาชีพไทยเข้มแข็ง วงเงิน 170 ล้านบาท 5.สิน เชื่อโครงการธนาคารประชาชนอนุมัติไปแล้ว 2.87 ล้านราย วงเงินสินเชื่อ 113,800 ล้านบาท มีสินเชื่อคงเหลือ 633,900 ราย วงเงินสินเชื่อคงค้าง 33,944 ล้านบาท
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จากการรายงานของธนาคารรัฐพบว่าล่าสุดมีการเร่งระดมสภาพคล่องค่อนข้างมาก โดยเฉพาะธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อไปใช้ในปีงบประมาณ 2556 ที่จะเริ่มใน ต.ค. 55 นี้
ทั้งนี้อาจเห็นการเร่งระดมสภาพคล่องมากขึ้นช่วงต้น ต.ค.นี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่รัฐบาลเริ่มต่อยอดโครงการใหม่ ๆ ซึ่งอาจใช้ธนาคารรัฐเป็นกลไกเพื่อเข้าไปปล่อยสินเชื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่ปัจจุบันเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่อง ซึ่งรัฐบาลอาจใช้แบงก์ออมสินเข้าไปปล่อยกู้ร่วมกับ ธ.ก.ส.ได้ เพราะรัฐบาลก็เล็งเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นธนาคารรัฐที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด